ซูซูกิ คัพ 2018 รอบแรกจบไปเรียบร้อย โดยสุดสัปดาห์นี้ก็จะเข้าสู้รอบรองชนะเลิศกันแล้ว แต่ก่อนจะไปว่ากันที่รอบตัดเชือก เรามาสรุปผลงานของทีมชาติไทย รวมทั้งเรื่องน่านู้ที่เกิดขึ้นในรอบแรกกันหน่อย
ทีมช้างศึกจบรอบแรกด้วยการคว้าแชมป์กลุ่มบี ตามเป้าหมาย ด้วยการเก็บ 10 คะแนน โดย 4 เกมที่ผ่านมาในรอบแบ่งกลุ่มมีเรื่องที่น่าสนใจเกิดขึ้นมากมาย วันนี้เราจึงรวบรวมมาเป็น 10 สิ่งน่ารู้ของทีมชาติไทย ในซูซูกิ คัพ รอบแรกที่ผ่านมา
1. อดิศักดิ์ ซัด 8 ตุง
เรื่องแรกที่อยากพูดถึงก็คือการถล่มประตูของ
อดิศักดิ์ ไกรษร เจ้าของ AKA "AK9" ที่ซัดไปแล้ว 8 ประตู ถือเป็นกองหน้าที่ออกสตาร์ทได้ร้อนแรงที่สุดในซูซูกิ คัพ หนนี้ เพียงแค่เกมแรกกับติมอร์ ก็กดไปแล้ว 6 ต่อด้วยเกมกับอินโดฯ และล่าสุดกับสิงคโปร์อีกอย่างละลูก ตอนนี้ทำลายสถิติในอาเซียนคัพหนเดียวของทีมชาติไทยไปเรียบร้อยของ "อัลเฟรด" เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์ ที่เคยยิงไว้ในปี 1996 ที่ 7 ประตู ซึ่ง อดิศักดิ์ ยังมีโอกาสจะทำลานสถิติดาวซัลโวที่ทำประตูสูงสุดด้วยในอาเซียนคัพ หนเดียว โดยสถิติเดิมเป็นของ นอห์ อลัม ชาห์ ของสิงคโปร์ ที่เคยยิงไว้ 10 ประตู เมื่อปี 2007
2.ศุภชัย แจ้งเกิด
ถ้าพูดถึงนักเตะที่แจ้งเกิดที่สุดของทีมชาติไทยในซูซูกิ คัพ ครั้งนี้คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก
"ศุภชัย ใจเด็ด" ดาวรุ่งวัย 19 ปี ที่ถือว่าก้าวกระโดดจากทีมชุด ยู21 ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ได้แบบเต็มตัว และตอนนี้น่าจะกลายเป็นตัวหลักของ ราเยวัช ไปแล้ว ที่ผ่านมาลงสนามเป็นสำรองสองเกมแรก และเป็นตัวจริงสองเกมหลัง กดไป 3 ประตู ถือว่าไม่ธรรมดา และกลายเป็นกองหน้าตัวความหวังคนใหม่ของทีมชาติไทยชุดนนี้ รับรองอนาคตไกลแน่นอน
3.ประตูมือหนึ่งยังไม่นิ่ง
เรื่องของตำแหน่งผู้รักษาประตูมือหนึ่งที่เหมือนจะไม่มีปัญหา แม้จะไม่มี "กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์" แต่ก็ยังมี
"ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน" กับ
"ฉัตรชัย บุตรพรม" ซึ่งทั้งคู่ทำผลงานได้ดีกับสโมสร ซึ่ง 4 เกมที่ผ่านมาก็สลับกันลงคนละสองเกม แต่จากทั้ง 4 เกม เห็นได้ชัดว่าทั้งคู่ยังมีอาการตื่นสนามนิดๆ กับการเล่นในนามทีมชาติ จะเห็นได้ว่าความนิ่งยังต่างจาก "เจ้าตอง" พอสมควร และถ้าเป็นเกมที่ใหญ่กว่านี้ยังต้องรอการพิสูจน์ต่อไป ส่วนตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่า ราเยวัช จะเลือกใครเป็นมือหนึ่งในรอบรองชนะเลิศ อาจจะให้เล่นคนละนัด หรือจะมีใครได้ยึดตำแหน่งถาวรคงต้องรอดูกัน
4.สรรวัชญ์ ยอดเพลย์เกอร์
นอกจาก อดิศักดิ์ ที่ยิงไป 8 ประตู และ ศุภชัย ที่แจ้งเกิด นักเตะอีกคนที่ผลงานโดดเด่นมากๆ และเด่นที่สุดในซูซูกิ คัพ ครั้งนี้ของทีมชาติไทยก็คือ
"สรรวัชญ์ เดชมิตร" ที่ได้รับบทเป็นจอมทัพในการทำเกมรุก และคุมจังหวะของทีมในแดนกลาง ถือว่า "เจ้าแคมป์" ทำได้ดีเกินคาด ผลงานที่เข้าตาคือการจ่ายบอลแบบทะลุทะลวงไม่ว่าจะโยนยาวหรือลูกเรียดจ่ายได้เนียนกริ๊บมากๆ โดยแอสซิสต์ให้เพื่อนยิงไปแล้วถึง 5 ลูก เหลือรอว่าเมื่อไหร่เจ้าตัวจะยิงเองบ้าง ถ้าทำได้มีลุ้น MVP เลยทีเดียวถ้าไทยป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ
5. 15 ประตูจาก 6 นักเตะ
ในรอบแรกทีมชาติไทยยิงได้ถึง 15 ประตู มากที่สุดในบรรดา 10 ทีมที่แข่งขัน โดย 15 ประตูที่เกิดขึ้นมาจากนักเตะทั้งหมด 5 คน ประกอบไปด้วย อดิศักดิ์ ไกรษร 8 ประตู,ศุภชัย ใจเด็ด 3 ประตู,พรรษา เหมวิบูลย์ 2 ประตู,กรกช วิริยอุดมศิริ 1 ประตู,ปกเกล้า อนันต์ 1 ประตู
6.เสีย 3 ประตู
4 เกมที่ผ่านมาทีมช้างศึกเสียไป 3 ประตู 2 ลูกแรกเสียในเกมที่เปิดบ้านชนะอินโดนิเซีย 4-2 เกมนั้น ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ลงเฝ้าเสา และอีกลูกมาจากเกมบุกไปเสมอฟิลิปปินส์ 1-1 เกมนี้ ฉัตรชัย บุตรพรม เฝ้าเสา
7.ผลงานรวม
ผลงานโดยรวมของทีมชาติไทยในรอบแรกของซูซูกิ คัพ 2018 ลงเล่นไป 4 เกม ชนะ 3 เสมอ 1 เก็บได้ 10 คะแนน ยิงได้ 15 ประตู เสีย 3 ประตู โดยรอบรองชนะเลิศจะพบกับมาเลเซีย นัดแรก 1 ธ.ค.นี้ เล่นที่บูกิต จาลิล ประเทศมาเลเซีย และนัดสองจะกลับมาเล่นที่ราชมังฯ วันที่ 5 ธ.ค.นี้
8.เจออินโดแฟนเยอะสุด
ในรอบแรกทีมชาติไทยลงเล่นในบ้าน 3 เกม โดยเกมแรกกับติมอร์ เล่นในฐานะทีมเยือน โดยเกมที่มีแฟนบอลเข้ามาชมมากที่สุดคือเกมพบกับอินโดนิเซีย นัดที่สอง
มีแฟนบอลในสนาม 37,570 คน รองลงมาเป้นเกมล่าสุดกับ สิงคโปร์ 29,763 คน ส่วนเกมกับติมอร์ เลสเต มีแฟนบอล 8,764 คน ส่วนเกมรอบแรกที่มีแฟนบอลมากที่สุดเป็นเกมในสายเอ ระหว่าง มาเลเซีย พบ เมียนมา ที่บูกิต จาลิล มีแฟนบอล 83,777 คน
9.ใช้ผู้เล่นไป 20 คน
ใน 4 เกมที่ผ่านมา มิโลวาน ราเยวัช
ใช้บริการนักเตะไปทั้งหมด 20 คน เหลือ 3 คนที่ยังไม่ได้ลงสนาม คือ สรานนท์ อนุอิน ประตูมือ 3, สุพรรณ ทองสงค์ และ เควิน ดีรมรัมย์ นอกนั้นได้ลงเล่นทั้งหมด โดยนักเตะที่ลงเป็นตัวจริงทุกเกม มี เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว,กรกช วิริยอุดมศิริ,ธนบูรณ์ เกษารัตน์,ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์,สรรวัชญ์ เดชมิตร และ อดิศักดิ์ ไกรษร
10.ใบเหลือง 3 ใบ
รอบแรกที่ผ่านมาทีมชาติไทยมีนักเตะโดนใบเหลืองเพียงแค่ 3 คน และโดนในเกมกับฟิลิปปินส์เหมือนกัน คือ
ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์,ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ ฟิลิป โรลเลอร์ โดยทั้งหมดถือว่าได้ถูกล้างใบเหลืองเรียบร้อย ทำให้ในรอบรองชนะเลิศทีมชาติไทยไม่มีใครติดโทาแบน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับทีมชาติไทยใน 4 เกมรอบแบ่งกลุ่มของซูซูกิ คัพ ไว้จบทัวร์นาเม้นท์เรามาติดตามกันใหม่ ว่าจะมีบทสรุปอะไรที่น่าสนใจในอาเซียน คัพ หนนี้อีก
มูซาชิ