logo-heading

ไม่ต้องรอให้จบฤดูกาล ก็คงตัดสินได้แล้วว่าเม็ดเงิน 66 ล้านปอนด์ ที่ ลิเวอร์พูล ยอมทุ่มทุนซื้อ อลิสซอน เบ็คเกอร์ มาจาก อาแอส โรม่า เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา มันคุ้มค่ามากแค่ไหน เพราะนายทวารทีมชาติบราซิล กำลังผงาดทำผลงาน โชว์ซูเปอร์เซฟช่วย "หงส์แดง" ก้าวขึ้นมายึดจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ที่สำคัญช่วย "เร้ด แมชชีน" เดินหน้าเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

เพื่อเป็นการทำความรู้จัก อลิสซอน ให้มากกว่านี้ ไปดูเรื่องราวบางเรื่องที่คุณอาจไม่หลงลืมไป หรือ ไม่เคยรู้มาก่อน

1. เริ่มต้นอาชีพค้าแข้ง อลิสซอน เกิดวันที่ 2 ตุลาคม 1992 ปัจจุบันอายุ 26 ปี ลืมตาดูโลกที่เมือง โนโว ฮัมเบอร์โก ณ ประเทศบราซิล ชื่อเต็มๆของเขานั้นนามว่าา “อลิสซอน รามเสส เบคเกอร์” โดยเริ่มแรกเข้ามาเป็นแข้งเยาวชนของทีม อินเตอร์ นาซิองนาล เมื่อปี 2003 ขณะนั้นอายุได้เพียง 11 ขวบ และใช้เวลาขัดเกลาฝีมือนาน 10 กว่าปี ถึงจะพุ่งขึ้นมาลงเล่นเกมเปิดตัวให้ทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ ถึงแม้ อลิสซอน จะมีสถิติได้ลงเล่นให้ต้นสังกัดไปทั้งหมด 115 เกม รวมทุกรายการ แต่กระนั้นมีเพียงแค่ปี 2015 ที่ถูกรับเลือกให้เป็นตัวจริง ก่อนถูกซื้อไปอยู่ โรม่า เมื่อปี 2016 2. เดินตามรอยตำนาน ย้อนกลับไปในอดีต เคยมีแข้งระดับตำนานจากทีม อินเตอร์ นาซิองนาล อย่าง เปาโล โรแบร์โต้ ฟัลเกา เคยข้ามน้ำข้ามทะเลไปอยู่กับ โรม่า เมื่อช่วงปี 1980-1985 และก็พาทีม หมาป่าแห่งกรุงโรม คว้าสคูเด็ตโต้ มาครองได้ตอนฤดูกาล 1982-1983 แน่นอนว่า ด้วยความที่เป็นเยาวชนของ นาซิองนาล ทำให้เขาถูกปลูกฝังในเรื่องความยิ่งใหญ่ของตำนานสโมสรมาเต็มเปี่ยม จนอยากจะเดินตามรอยเท้านั้น แตกต่างกันนิดหน่อยคือ ฟัลเกา เป็นผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์เท่านั้นเอง 3. โปรไฟล์หรูหรา ในขณะที่โลกได้รู้จักกับ อลิสซอน กันไปแล้วนั้น ว่าเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูน้ำดีแห่งวงการลูกหนัง โดยเขาเองก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับ โรม่า นั้น เอาจริงๆเขาคือหนึ่งในนักเตะที่มีโปรไฟล์เลิศหรูมากคนหนึ่งก็ว่าได้ เพราะตลอดระยะเวลา 4 ปีกับ นาซิองนาล ไม่ว่าจะเป็นตัวจริงหรือตัวสำรอง อย่างน้อยก็เคยสัมผัสถ้วยแชมป์ลีกแซมบ้า ถึง 4 สมัยติดต่อกันเลยทีเดียว 4. อยู่ โรม่า ปีแรก เป็นตัวสำรอง เห็นฝีมืออันเก่งกาจของ อลิสซอน ในทุกวันนี้ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการย้ายมาอยู่ โรม่า ในปีแรก นายด่านรายนี้ แทบจะต้องหาร้านสปาไปนวดคลายเครียด เพราะได้แต่นั่งบนม้านั่งสำรอง จนปวดตูด ปวดหลังไปหมด เนื่องจากทว่า "หมาป่าแห่งกรุงโรม" เลือกใช้บริการ วอยเช็ก เชสนี่ เสียมากกว่า ส่วน อลิสซอน จะมีโอกาสได้โชว์ฝีมือแค่ในถ้วย โคปปา อิตาเลีย และ ยูโรปา ลีก เท่านั้น ส่วนเกม กัลโช่ เซเรีย อา ต้องนั่งดูยาวๆ จนกระทั่งซีซั่น 2017-18 เชสนี่ ย้ายออก ทำให้ อลิสซอน ได้ขึ้นมายึดตัวจริง และ ก็ได้ปล่อยของให้แฟนบอลได้เห็นกัน 5. ดีกรีทีมชาติไม่ธรรมดา ถึงแม้ อลิสซอน จะใช้เวลาอยู่กับทีมชาติชุด U-20 เพียงไม่นาน ในช่วงปี 2013 แต่เขาก็เคยพาทีมคว้าแชมป์รายการสำคัญ ๆ มาแล้วอย่าง “ตูลง ทัวร์นาเมนท์ 2013” เวทีชิงชัยระดับชาติของเหล่านักเตะรุ่นเยาว์ที่มีทีมดัง ๆ จากทั่วโลกมาร่วมลงแข่งขันกัน และในปี 2013 อลิสซอน ก็โชว์ฟอร์มโดดเด่นจน บราซิล ได้แชมป์ไปในที่สุด สำหรับจุดเริ่มต้นในการเล่นทีมชาติ ย้อนกลับไป ปี 2015 อลิสซอน ได้รับโอกาสให้ลงเล่นชุดใหญ่เป็นครั้งแรก โดยคู่แข่งวันนั้นคือ เวเนซูเอลา ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ซึ่งก็คว้าชัยชนะไปด้วยสกอร์ 3-1 จากนั้นก็ไม่เคยเสียตำแหน่งให้ใครอีกเลย ต่อให้ไปนั่งสำรอง โรม่า แถมยังเคยลงเล่นในรายการต่าง ๆ มากมายอาทิ ฟุตบอลโลก และ โคปา อเมริกา ถ้าหากรวมเบ็ดเสร็จจนถึงตอนนี้ อลิสซอน เล่นให้ทีมชาติไปแล้วทั้งสิ้น 34 นัด 6. พี่ชายเป็นนักฟุตบอล อลิสซอน มีพี่ชายอยู่หนึ่งคนชื่อว่า มูเรียล กุสตาโว่ (อายุ 31 ปี) และก็มีอาชีพเป็นนักฟุตบอลเหมือนกัน แถมยังเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูเหมือนกันด้วย ถึงแม้ มูเรียล กุสตาโว่ จะไม่ได้มีพรสวรรค์โดดเด่นมากมายเหมือนกับน้องแท้ ๆ แต่ก็ถือว่ามีกรีเคยเฝ้าเสาให้กับ อินเตอร์ นาซิองนาล มา 75 เกม โดยปัจจุบัน ย้ายมาเล่นให้กับ เบเลเนนส์ ทีมสูงสุดบนลีกโปรตุเกส ปัจจุบันเล่นไปแล้ว 17 เกม 7. เคยขึ้นชื่อว่าเป็นผู้รักษาประตูที่แพงที่สุดในโลก จากเม็ดเงิน 66 ล้านปอนด์ ที่ ลิเวอร์พูล ไปซื้อตัวมาจาก โรม่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2018 ส่งผลให้ อลิสซอน กลายเป็นผู้รักษาประตูที่แพงที่สุดในโลกไปโดยปริยาย ซึ่งจริงๆแล้วค่าตัวแบบนี้ กับ ตำแหน่งผู้รักษาประตู น่าจะคงรักษาไว้อีกนาน แต่ทว่าสุดท้ายสถิติโลกก็ถูกทำลายลงด้วยเวลาราว ๆ 20 วัน เมื่อ เชลซี ต้องจ่ายเงินแบบไฟต์บังคับ ไปซื้อ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า จาก แอธเลติค บิลเบา มาร่วมทีม หลัง ติโบต์ กูร์กตัวส์ ย้ายไปเรอัล มาดริด ด้วยเม็ดเงิน 71.6 ล้านปอนด์ 8. ทำลายสถิติแข้งไร้พ่ายของ ลิเวอร์พูล บนเวที พรีเมียร์ลีก อย่างที่บอกไปว่า การที่ ลิเวอร์พูล ได้ อลิสซอน มาเสริมทัพนั้น เป็นอะไรที่เหมือนถูกหวยรางวัลที่ 1 เพราะหลายๆคนที่ "หงส์แดง" ซื้อเข้ามาแล้วมันไม่เวิร์ค (ไม่ขอเอ่ยชื่อ เพราะไม่อยากพาดพิง) แต่กับ อลิสซอน เขาช่วยมายกระดับ "หงส์แดง" ได้ดีแค่ชั่วพริบตา เพราะในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อลิสซอน ลงเฝ้าเสาช่วยทีมไปแล้ว 16 นัด ยังไม่เคยพบกับคำว่าพ่ายแพ้ ส่งผลให้นายด่านแซมบ้า รายนี้ กลายเป็นนักเตะ ลิเวอร์พูล คนแรก ที่ไม่แพ้ทีมใด จากการลงเล่น 16 นัดแรก แซงหน้า ฮาเวียร์ มาสเคร่าโน่ ที่เคยทำไว้ 15 เกม 9. อัตราการเซฟสูงที่สุดในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นนี้ เชื่อว่าแฟนบอล "เดอะ ค็อป" ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเหมือนกัน เพราะถ้าย้อนไปเอาสัก 3-4 ฤดูกาลก่อนหน้านี้ การเสียประตูของ ลิเวอร์พูล ช่างง่ายดาย โดยเฉพาะเสียลูกเตะมุม เหมือนเสียจุดโทษ จนกระทั่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ทำการแก้ไขซ่อมแซม ทั้งแผงแนวรับ และ ผู้รักษาประตู อลิสซอน เป็นหนึ่งในคีย์แมนสำคัญ อย่างเช่นซีซั่นนี้ "หงส์แดง" เสียประตูแค่ 6 ลูกเท่านั้น และ เก็บคลีนชีตได้ถึง 10 นัด แน่นอน อลิสซอน ช่วยเซฟแต้มให้ ลิเวอร์พูล ได้เยอะมาก ถึงขั้นมีค่าเฉลี่ยการเซฟถึง 85.71 เปอร์เซ็นต์ มากที่สุดในลีก (จากการเซฟ 36 ครั้ง) 10. ถูกยกย่องให้เป็นผู้รักษาประตูสมัยใหม่ แห่งยุคโมเดิร์น ฟุตบอล ในช่วง 5-6 ปีก่อนหน้านี้ ทุกคนคงจะรู้ มานูเอล นอยเออร์ นายทวาร บาเยิร์น มิวนิค ในแบบฉบับ "สวีปเปอร์-คีปเปอร์" ที่พวกเรามักจะได้เห็นการอ่านเกม ด้วยการวิ่งออกมาตัดบอลจากนอกกรอบเขตโทษ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เท้า หรือ ใช้หัว แต่ทว่าในยุคนี้ อลิสซอน กลายเป็นแบบฉบับของผู้รักษาประตูสมัยใหม่เรียบร้อย เพราะ อลิสซอน มีเทคนิคการจ่ายบอล และ เปิดบอลอันแม่นยำ ทำให้เพื่อนได้เปรียบเรื่องการเล่น โดยเขามีอันตรการจ่ายบอลอันแม่นยำ ในสถานการณ์บีบบังคับสูงมากที่สุดถึง 73 เปอร์เซ็นต์
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline