ในที่สุดโผทีมชาติไทยชุดเอเชียน คัพ 2019 ก็มีการเปิดโผออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
27 ขุนพลที่มิโลวาน ราเยวัช ใส่ชื่อเข้ามาในครั้งนี้ เรียกว่ามีการเปลี่ยนอีกครา โดยหนนี้ มี 6 ผู้เล่นที่ฟอร์มไม่เข้าตาในอาเซียน คัพ 2018 หลุดโผไปตามระเบียบ
สวนทางกับแข้ง 10 ขาประจำที่กุนซือเจ้าพ่อรถบัสจากเซอร์เบียคุ้นเคย ถูกใส่กลับมาอยู่ในโผฝึกซ้อมช่วงโค้งสุดท้ายก่อนจะไปลุยศึกใหญ่ระดับเอเชีย ที่ยูเออี ในช่วงต้นปีหน้า
แน่นอนว่ารายชื่อที่ปรากฏออกมาย่อมสร้างความไม่พอใจ ให้แก่แฟนบอลและนักเตะพอสมควร เพราะเราได้เห็นแข้งฟอร์มไม่ดีบางราย ถูกเรียกเข้ามาติดทีมแบบแค้นสายตา แต่จุดนี้คงไม่สามารถไปตำหนิได้เนื่องจากมันคือการตัดสินใจของตัวกุนซือที่เลือกวัตถุดิบเพื่อความเหมาะสมกับแท็คติกตัวเอง
ซึ่งจะว่าไปแล้วไทยลีก 2018 มีนักเตะไทยดีๆมากมายที่โชว์ฟอร์มได้สม่ำเสมอคงเส้นคงวา แต่บุญไม่พาให้พวกเขาเข้าไปอยู่ในใจของราเยวัช
ขอบสนาม จัด 5 แข้งไทยเล่นดี แต่ถูก ราเยวัช เมินเรียกติดทีมชาติ
1.ปิยพล ผานิชกุล
อดีตดาวเตะสารพัดประโยชน์ของเมืองทอง ยูไนเต็ด ผู้ที่มีงานอดิเรกยามว่างคือการเล่นเกมฟุตบอล จนกลายเป็นเซียนเกมเมอร์ลูกหนังไปแล้ว
ทว่าชีวิตในสังเวียนสนามจริงดาวเตะจากขอนแก่นผู้นี้ เปรียบเสมือนคนสำคัญของทัพกว่างโซ้งมหาภัย “ไดร์” อาจจะไม่ใช่แบ็คขวาอาชีพ แต่สามารถเล่นในตำแหน่งดังกล่าวแบบไม่เคอะเขิน สิ่งที่โดดเด่นของหมอนี่คือความฟิตและจิตใจที่สู้เกิน 100 เปอร์เซ็นต์ในสนาม จนกุนซือคนเก่าทั้ง โค้ชโจและกาม่า ยังยกย่องในหัวจิตหัวใจของปิยพล
ผลงานซีซั่น 2018 ปิยพล ลงเล่นเกมลีกไปถึง 32 เกม ยิง 1 ,แอสซิสต์ 3 จนมีหลายฝากเชียร์ให้ ราเยวัช ฉายตามองเพื่อเรียกไปติดทีมชาติ แต่สุดท้ายก็ไร้วี่แวว โดยหนสุดท้ายที่ปิยพล รับใช้ชาติเกิดขึ้นในเกมเอเชียน คัพ รอบคัดเลือก เมื่อปี 2014 ที่ไทยแพ้คาบ้านต่อเลบานอน 2-5 ในเกมนัดดังกล่าวคุมทีมโดยเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
2.เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์
ปีกซ้ายธรรมชาติจากสุราษฎร์ธานี ผู้ที่สมัยเป็นเยาวชนเคยไปฝึกซ้อมฟุตบอลที่เมืองบาร์เซโลน่า ในสเปนมาแล้ว
“ก้อง” จัดเป็นตัวรุกที่มีความเร็ว เลี้ยงบอลดีคนหนึ่งของวงการลูกหนังไทยยุคปัจจุบัน และเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมชาติไทย ในยุคของโค้ชซิโก้ ในช่วงปี 2013-2016 ชุดจ้าวอาเซียน
ดาวเตะของฉลามชล มีช่วงเวลาที่ดีในปี 2018 กับสโมสร เมื่อกระหน่ำไปถึง 9 ประตู และ 4 แอสซิสต์ มากสุดนับตั้งแต่เป็นนักบอลอาชีพ จนแฟนบอลและผู้สื่อข่าวต่างเชียร์กันออกนอกหน้าว่า สมควรถูกราเยวัช กวักมือเข้าสู่ทำเนียบทีมชาติ เพราะผลงานเป็นรูปธรรมจับต้องได้ชัดเจน สุดท้ายก็ไร้ชื่อทั้งทัวร์นาเมนต์ซูซูกิ และเอเชียน คัพ
3.ศิวกรณ์ เตียตระกูล
ดาวเตะหนุ่มจากครอบครัวที่มีฐานะทางบ้านค่อนข้างดีจากจังหวัดสระบุรี ผู้ที่เป็นเด็กฝึกหัดรุ่นแรกของเมืองทอง ยูไนเต็ด ทว่าโดยโอกาสที่น้อยนิดสุดท้าย จนต้องย้ายไปหาความท้าท้ายใหม่ ก่อนจะไปแจ้งเกิดกับบีอีซี เทโรศาสน เมื่อปี 2016
“เฟย” เริ่มฉายแววความเก่งกาจ ทั้งการยิงไกลด้วยอีซ้ายข้างถนัดที่ค่อนข้างหนักแน่นทรงพลัง และการผ่านบอลที่ชาญฉลาด จนกลายเป็นแข้งเนื้อหอมและโดนเชียงราย สอยไปร่วมทีมในราคาร่วมๆ 20 ล้านบาท
ณ ดินแดนล้านนา ศิวกรณ์ รับหน้าที่เป็นจอมทัพหมายเลข 10 ขับเคลื่อนเกมรุกให้ทีมกว่างโซ้งมหาภัยอย่างสนุก ปี 2018 แข้งวัย 24 ปี พาสโมสรกวาด 3 แชมป์บอลถ้วยในประเทศ พร้อมผลงานรวมทุกรายการ 43 เกม ยิง 10 ประตู, 7 แอสซิสต์
ด้วยคุณภาพบวกกับฝีเท้าที่คับแก้ว น่าจะทำให้ ราเยวัช ชายตามอง “เฟย” บ้าง แต่สุดท้ายคือเขาเป็นเพียงแค่ รายชื่อ 50 คนแรกที่ขึ้นทะเบียนซูซูกิ คัพ และหลุดโผไปตามความคาดหมาย
โดยครั้งสุดท้ายที่ ศิวกรณ์ มีชื่อถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ต้องย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2016 กับเกาหลีใต้ ในยุคของโค้ชซิโก้ แต่ไม่ได้ถูกส่งลงสนาม
4.พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล
กองกลางดาวรุ่งผู้ที่ไร้วี่แววแจ้งเกิดกับเมืองทอง ยูไนเต็ด และต้องย้ายไปสั่งสมประสบการณ์ลูกหนังกับหลายๆสโมสร ก่อนที่สุดท้ายจะได้โอกาสสำคัญเมื่อถูกเชียงราย ยูไนเต็ด คว้าตัวไปร่วมทีมเมื่อปี 2017
“เต้” พิธิวัต เด็กจากระยอง ที่รูปร่างเล็กกะทัดรัด แต่ฝีเท้าในสนามไม่ได้เล็กเหมือนบอดี้ร่างกาย เมื่อสวมสตั๊ดหวดลูกบอลในสนาม เขาจัดอยู่ในประเภทกองกลางพลังไดนาโม เป็นมดงานที่ทำงานหนัก ทำร้ายเกมรุกคู่แข่ง จนเป็นหัวใจสำคัญที่ทีมล้านนาขาดไม่ได้เสียแล้ว
ปี 2018 ผลงานในฟลอร์หญ้าของพิธวัต ประกอบไปด้วย 33 เกม ยิง 4 ประตู และทำ 2 แอสซิสต์ กับนักเตะในตำแหน่งที่ไม่น่าจะขึ้นมาสังหารประตูได้
ถ้าว่ากันตามเนื้อผ้าหมอนี่ดีกว่า ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ด้วยซ้ำไป และประตูในนามทีมชาติชุดใหญ่ ยังไม่ได้รับการปลดล็อคเสียที และดูท่าว่า พิธิวัต คงทำได้เพียงแค่รอคอยโอกาสจากราเยวัชต่อไป หลังมีชื่อติดโผ 50 คนแรกซูซูกิ คัพ แล้วก็ถูกคัดออก
5.จักพัน ไพรสุวรรณ
ในปี 2018 มีนักเตะมากมายที่โดนสื่อมวลชนไทย เขียนเชียร์อยู่บ่อยๆว่าคู่ควรติดทีมชาติ และชื่อของ “นุ๊ก” จักพัน ไพรสุวรรณ ก็เป็นหนึ่งในนั้น หากว่ากันตามฟอร์มในสนาม เด็กหนุ่มจากรั้วจามจุรี เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
จักพัน เล่นได้หลากหลายตำแหน่งทั้งเซ็นเตอร์แบ็ค, วิงแบ็ค และ กองกลางตัวรับ เรียกว่าพี่แกทำได้ตามสั่งของกุนซือ
แข้งวัย 25 ปี เป็นผู้เล่นที่มีจุดเด่น 3 อย่าง คือการยิงฟรีคิกที่มีประสิทธิภาพหวังผลได้, สกัดบอลจากเท้าคู่ต่อสู้ได้เด็ดขาด และเป็นคนที่สามารถออกบอลเซ็ตเกมรุกให้เพื่อนร่วมทีมได้
ซีซั่นที่ผ่านมา จักพัน โชว์ฟอร์มเยี่ยม ช่วยพัทยา จบที่ 8 ในไทยลีก ขณะที่ผลงานส่วนตัว 33 เกม ยิง 3 ประตู และจ่ายอีก 5 แอสซิสต์
ว่ากันตามตรงหาก ราเยวัช อยากได้ผู้เล่นที่ตอบโจทย์เกมรับ หมอนี่สามารถตอบสนองความต้องการได้ ทว่าด้วยสไตล์ที่เป็นกองหลังจอมบุก เหมือนจะไม่ถูกโฉลกกับแนวทางของกุนซือชาวเซิร์บ และโดนมองข้ามอยู่เป็นประจำ
เอ็มเร่