logo-heading

วันเวลามันเดินผ่านไปอย่างรวดเร็วเผลอแป๊ปเดียวกำลังจะบอกลาปี 2018 เพื่อเข้าสู่การเริ่มต้นใหม่ในปี 2019 ฟุตบอลในทวีปยุโรปยังคงฟาดแข้งกันตามโปรแกรม สวนทางกลับลีกเอเชีย ที่พักฤดูกาล โดยตอนนี้ทุกสายตาจับจ้องไปที่การแข่งขันเอเชียน คัพ 2019 อีเวนต์ลูกหนังหมายเลข 1 ของทวีปเอเชีย ที่จะฟาดแข้งกันที่ยูเออี ระหว่างวันที่ 5 มกราคม-1 กุมภาพันธ์ ศกหน้า

แน่นอนว่าทีมชาติไทย ภายใต้การทำทีมของมิโลวาน ราเยวัช เจ้าพ่อรถบัสเกมอุดจากเซอร์เบีย จะพลาดไม่ได้อีกแล้ว หลังเพิ่งสร้างผลงานที่ไม่น่าจดจำแก่แฟนบอลในปี2018 ว่ากันตามตรงทัวร์นาเมนต์ที่ยูเออี กุนซือวัย 64 ปีคงต้องงัดความรู้ที่มีออกมาใช้ให้หมดเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือครั้งใหม่ให้แก่แฟนบอล อีกไม่เกิน 2 สัปดาห์เราคงได้เห็นว่ามันจะรุ่งหรือร่วง ตลอด2ปีที่ราเยวัช มาทำงานในเมืองไทย หลายๆเสียงบ่นว่าเขาคือโค้ชบอลเกมรับอุดมันทุกนัด ทั้งทีมเป็นต่อและเป็นรอง จนใครต่อใครอยากเดินหน้าหนี แต่จะว่าไม่ได้มีแค่ "ลุงวัช" ที่พกตำราลูกหนังแบบนี้ เพราะโค้ชลูกหนังบ้านเราก็ยึดวิธีการแบบนี้จนกลายเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัวไปแล้ว ขอบสนามจัด 5 กุนซือดีกรีไทยลีก ที่พกยุทธวิธีรถบัสอุดลูกเดียว มาให้แฟนลูกหนังได้เสพย์กันเต็มตา ผู้เขียนละเลงเนื้อหาไว้พร้อมเสิร์ฟแล้ว เชิญไปอ่านกันตามอัธยาศัย 1.วรวุธ ศรีมะฆะ อุดอย่างเดียว! 5 กุนซือไทยลีกแผนรถบัสตำราเดียวกับราเยวัช อดีตกองกลางธนาคารกสิกรไทยชุดแชมป์สโมสรเอเชีย ผู้ที่ในเวลาต่อมาถูกปีเตอร์ วิธ เล็งเห็นถึงความสูงใหญ่ตัดต่อดีเอ็นเอจนกลายมาเป็นกองหน้าล่าประตูให้ทีมชาติไทย เมื่อถึงเวลาบอกลาชีวิตในสนาม หนุ่มใหญ่จากสงขลาปรับเปลี่ยนบทบาทมาเป็นกุนซือสั่งการณ์ข้างสนามกับหลายสโมสรทั้ง ปทุมธานี, สงขลา เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี, ผู้ช่วยโค้ชชลบุรี รวมถึงทีมชาติไทยชุด 23 ปี หากว่ากันตามเนื้อผ้า "โค้ชโย่ง" เป็นโค้ชที่ไม่ได้สนใจเกมรุก เพราะเขาเลือกให้ความสำคัญในส่วนของเกมรับเป็นลำดับแรก วางกองหลัง 4 คน พร้อมทั้งใส่กองกลางตัวรับเพิ่มไปอีก 2 คน เพื่อสกรีนเกมรุกคู่แข่งก่อนถึงหลังบ้าน วิธีการนี้เขายึดมาตั้งแต่ทำทีมฟุตบอลอาชีพใหม่ๆ ซึ่งมันจึงไม่เป็นที่ถูกชะตาแฟนบอลและสื่อมวลชนสักเท่าไหร่ เพราะวิธีการนี้ไม่ต่างจากบอลอุดเปิดพื้นที่ให้คู่ต่อสู้ด่าหน้าเข้ามาพังประตู 2 ปีเต็มที่ "โค้ชโย่ง" ทำทีมเสียงสรรเสริญมีน้อยครั้งแทบจำความได้ เพราะส่วนใหญ่ชายร่างยักษ์โดนด่าท่อเสียๆหายๆ แต่เขาคือกุนซือที่พาทีม23 ปี หยิบเหรียญทองซีเกมส์ 2017 จากอ้อมกอดของมาเลเซียไปได้สำเร็จ ซึ่งนี่คงเป็นเรื่องเดียวที่แฟนบอลหลายคนหยุดเสียงด่าทอลงไปได้บ้างละ 2.พยงค์ ขุนเณร อุดอย่างเดียว! 5 กุนซือไทยลีกแผนรถบัสตำราเดียวกับราเยวัช กุนซือตราด เอฟซี ผู้ที่ในอดีตคือคุณครูปกครองโรงเรียนพณิชยการราชดำเนิน ย่านฝั่งธนบุรี ก่อนจะผันตัวมาเป็นโค้ชในระดับบอลนักเรียน และต่อยอดสู่การทำทีมยช.ราชประชา, บีอีซี เทโรศาสน และเป็นสต๊าฟฟ์โค้ชบอลเยาวชนทีมชาติไทย 19 ปีมาช้านาน ปลุกปั้นแข้งดังมากมาย ทั้ง ดัสกร ทองเหลา, อนุชา กิจพงษ์ศรี, ปณัย คงประพันธ์, นิรุจน์ สุระเสียง ฯลฯ อ.พยงค์ มีสายตาอันแหลมคมในสอดส่องผู้เล่นไทย แถมยังเก่งกาจในการเล่นฟุตบอลเกมรับอุดให้มันแน่นหนา จนเมื่อก้าวสู่การเป็นโค้ชอาชีพ เวลาใครก็ตามทำทีมเจอสโมสรที่ อ.พยงค์ คุมบังเหียนอยู่ ทั้งอีสาน ยูไนเต็ด, สุพรรณบุรี เอฟซี มักจะปวดหัวและยากลำบากเวลาเผชิญหน้ากับกลยุทธ์ของโค้ชรายนี้ ไม่มีอะไรซับซ้อนในการสอนเด็ก ประเมินความสามารถผู้เล่นและคู่แข่งก่อนลงสนาม ใส่เกมรับเต็มรูปแบบ แล้วรอเวลาที่คู่แข่งเผลอค่อยหาจังหวะลงโทษ แม้วิธีการทำทีมอาจไม่เป็นที่โปรดโปรนผู้บริหารหลายสโมสรและอยู่คุมทีมไหนได้ไม่นาน แต่ความเก๋าเกมที่ผ่านงานมาแบบเจนจัดของกุนซือวัย 51 ปีรายนี้ไม่เป็นสองรองใครในเมืองไทย 3.สมชาย ชวยบุญชุม อุดอย่างเดียว! 5 กุนซือไทยลีกแผนรถบัสตำราเดียวกับราเยวัช โค้ชมากประสบการณ์ผู้ที่เก่งกาจในเรื่องการเจียระไนนักเตะโนเนมขัดเกลาจนเป็นนักเตะชื่อดัง ชนาธิป สรงกระสินธ์,ธนบูรณ์ เกษารัตน์, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, ปกรณ์ เปรมภักดิ์, รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก ฯลฯ จนได้เชิดหน้าชูตาบนยูนิฟอร์มทีมชาติไทยและเป็นสตาร์ดังสร้างรายได้มหาศาลให้แก่ครอบครัว นอกจากเก่งในเรื่องการสร้างคน"น้าฉ่วย" ก็พกตำราฟุตบอลแบบฉบับรับแล้วโต้ติดตัวมาด้วย แม้จะเป็นยอดกองกลางดีกรีทีมชาติปลายยุค 70 ถึงกลางยุค 80 แต่"น้า" ไม่ได้พิสมัยบอลเกมรุก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสโมสรที่ทำ ทั้งสมุทรสงคราม, สุโขทัย, ราชนาวี หรือแม้แต่ศรีสะเกษ งบประมานไม่ได้มหาศาล การทำทีมจึงเน้นใช้แข้งที่ค่าเหนื่อยไม่สูง แต่เน้นที่ระบบทีมเวิร์ค ขันเกมรับให้แน่นหนา เล่นให้เพลย์เซฟมากที่สุด ส่วนเกมรุกใช้นักเตะที่มีความเร็วเลี้ยงบอลจี้กินตัวคู่แข่งดีสัก 2 คนในสนาม เอาไว้รอสวนกลับ หมากดังกล่าวของ "เทพฉ่วย" ประสบความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ที่สมุทรสงคราม ทั้ง 2 ช่วงเวลาที่กุนซือรายนี้กุมบังเหียนอยู่ จนกลายเป็นโปรไฟล์ระดับ 5 ดาว ของกุนซือจากย่านบางนาไปซะแล้ว ว่ากันว่าวิธีการทำทีมของน้าฉ่วย เหมือนกับมิโลวาน ราเยวัชเลยก็ว่าได้ 4.สมชาย ทรัพย์เพิ่ม อุดอย่างเดียว! 5 กุนซือไทยลีกแผนรถบัสตำราเดียวกับราเยวัช กุนซือมาดเซอร์ ที่สร้างตำนานช็อควงการลูกหนังไทย นำพามหาวิทยาลัยกรุงเทพ หักปากกาเซียนหยิบโทรฟี่แชมป์ไทยลีก มาครองในซีซั่น 2006 ทั้งที่ผู้เล่นส่วนใหญ่เป็นศิษย์เก่าและนักศึกษาเท่านั้น แต่เจ้าของฉายา "มาราโดน่าเมืองไทย" ปลุกเสกเด็กกลุ่มนั้นเล่นบอลด้วยแท็คติกเกมรับแน่นๆ แถมแต่ละคนจัดได้ว่าเป็นแข้งจอมโหด ทั้ง ปุณณรัตน์ กลิ่นสุคนธ์, พลกฤษณ์ บุญญเศรษฐา, ปฏิภาณ เพชรพูล ส่วนเกมรุกของโค้ชชายพิษสงรอบจัดเลี้ยงบอลเก่งทุกตัว ทั้ง ซารีฟ สายนุ้ย, สุริยา ดอมไธสง, ธีรยุทธ สืบศิลป์, ธาดา ทองท้วม รอฉกฉวยความผิดพลาดฝั่งตรงข้ามลงโทษคู่แข่งอยู่เป็นประจำ จุดหนึ่งที่โค้ชสมชายไม่เหมือนโค้ชเกมรับไทยรายอื่นๆ คือเรื่องจิตวิทยาปลุกเร้าเด็กได้ดีเยี่ยม เอาตัวรอดในสถานการณ์คับขันมาหลายหน ทั้งการทำทีมม.กรุงเทพ, ราชประชา, ทีโอที จนใครต่อใครยกย่องในฝีไม้ลายมือโค้ชรายนี้ ทั้งที่พี่สมชาย ไม่ได้มีไลเซนต์โค้ชอาชีพเลยด้วยซ้ำ ปัจจุบันสมชาย ทรัพย์เพิ่ม ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนการท่าเรือ ชุดบี บ่มเพาะความรู้ถ่ายทอดประสบการณ์ลูกหนังให้แก่ดาวรุ่งทัพสิงห์เจ้าท่าในไทยลีก 4 5.สก็อตต์ คูเปอร์ อุดอย่างเดียว! 5 กุนซือไทยลีกแผนรถบัสตำราเดียวกับราเยวัช บุรุษชาวไอริช ผู้เกิดในเมืองเชฟฟิลด์ ชายที่พกตำราบอลไดเร็กซ์ เน้นลูกตั้งเตะบอลโยนเข้ามาเผยแพร่อิทธิพลบอลเมืองผู้ดีสู่สยามประเทศ วิธีของคูเปอร์ ง่ายๆไม่ซับซ้อน แต่ไม่ค่อยมีใครถูกจริตมากหนัก หากว่ากันตามตรง เพราะเป็นสไตล์ที่เหมือนกับแซม อัลลาไดซ์ ใช้กองหลังและกองหน้าต่างชาติที่รูปร่างสูงใหญ่ เวลานึกอะไรไม่ออก ก็อาศัยจังหวะเล่นบอมบ์ลูกกลางอากาศจุดพลุเข้าไปในกรอบเขตโทษคู่แข่ง ซึ่งเราคงเห็นยุทธวิถีดังกล่าวจากอุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด หรือแม้กระทั่งบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จนกลายเป็นจุดเด่นของทีมสายฟ้าในเวลาต่อมา ออสมาร์ อิบันเยซ และ วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ 2 แนวรับร่างยักษ์ได้รับอานิสงค์จากแท็คติกนี้ของคูเปอร์ เต็มๆ นอกจากนี้เกมรับของกุนซือวัย 47 ปี ก็จัดอยู่ในประเภทแน่นหนาจนยากที่ใครจะเข้าไปเจาะประตู อุดให้เน้นเข้าไว้ ถ้าแนวรุกทีมฝั่งตรงข้ามไม่เจ๋งจริง และเมื่อปราศจากกุนซือตราน้ำข้าวลายนี้ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด แตกสลายไม่อาจยืนระยะไทยลีกได้ ปัจจุบัน สก็อตต์ คูเปอร์ รับจ็อบเป็นที่ปรึกษาให้ทีมชาติฟิลิปปินส์ ทำงานร่วมกับสเวน โกรัน อีริคค์สัน

เอ็มเร่

 
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline