logo-heading

ในที่สุดก็เผยโฉมมาแล้วสำหรับ 23 ขุนพล ทีมชาติไทย ชุดสู้ศึก เอเชียน คัพ 2019 ที่ประเทศ ยูเออี โดยที่เราอยู่ในกลุ่มเอ ร่วมทัพ ยูเออี, บาห์เรน และ อินเดีย พร้อมเริ่มเกมแรกในวันที่ 6 ม.ค.กับทีมดังจากแดนโรตี

สำหรับ 23 คนในสุดนี้มีหลายคนน่าสนใจไม่ว่าจะเป็น 3 แข้งจากเจลีก หรือแม้กระทั่งแข้งป้ายแดงจาก ทรู แบงค็อก อย่าง ทริสตอง โด ที่หวนคืนทีมชาติไทยอีกครั้ง แต่ที่หลายคนโฟกัสมากที่สุดคงหนีไม่พ้น สิโรจน์ ฉัตรทอง กองหน้า 0 สกอร์ สังกัด พีที ประจวบ ที่คัมแบ็กมาติดทีมอีกครั้งในรอบกว่าขวบปี ซึ่งเรื่องที่น่าสนใจที่สุดคือ "ตำแหน่ง" ของเขากับทีมชาติในชุดนี้จะเป็นยังไง "โค้ชมิโล" จะจับไปเล่นตรงตำแหน่ง และการติดไปครั้งนี้ ปีโป้ จะช่วยทีมได้หรือไม่ ???

วันนี้ทีมงานขอบสนามบอลไทยขอวิเคราะห์แบบชัดเจนไปเลยกับ 3 เหตุผลที่ ช้างศึก ต้องพึ่ง เดอะ ฮัค ไทยแลนด์ผู้นี้ในรายการที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ... 

  3 เหตุผลที่ทีมชาติไทยต้องมี "ปีโป้" ในเอเชียนคัพ

1. ใช้ความใหญ่ของปีโป้ให้เป็นประโยชน์

ข้อนี้น่าจะเป็นข้อที่ชัดเจนที่สุดที่คิดว่า "โค้ชมิโล" เอา ปีโป้ ไปด้วย เพราะหากมองแค่ภายนอกร่างกายที่กำยำและแข็งแกร่งของ สิโรจน์ ฉัตรทอง ถือเป็นอาวุธชั้นดีหากใช้ให้เกิดประโยชน์และตรงจุดที่เขาทำได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นตำแหน่ง "กองหน้าสำรอง" หรือ "กองกลางตัวรับ" เรื่องสรีระร่างกายของเขาถือว่าพอไฝว้กับหลายๆ คนในเอเชียได้สบายๆ  

3 เหตุผลที่ทีมชาติไทยต้องมี "ปีโป้" ในเอเชียนคัพ 2. ปีโป้กับตำแหน่งกองกลางตัวรับ

ข้อนี้ถือว่าเป็นการ "ลองของ" อย่างแท้ทรู หาก มิโลวาน ราเยวัช จับ สิโรจน์ ฉัตรทอง จากตำแหน่งกองหน้าไปเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับ เพราะนอกจากทัวร์นาเมนต์เอเชียนี้จะเป็นครั้งแรกของ ปีโป้ แล้ว การต้องเล่นกองกลางก็น่าจะเป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวเล่นด้วยเช่นกัน ซึ่งโค้ชคงคิดดีแล้วว่าการเอา ปีโป้ คงมีอะไรให้เล่นมากกว่าการรอสแตนบายข้างสนามในฐานะกองหน้าตัวสำรองแน่นอน ดังนั้นเราต้องดูว่าเขาจะใช้ ปีโป้ แบบไหน 

3 เหตุผลที่ทีมชาติไทยต้องมี "ปีโป้" ในเอเชียนคัพ 3. ปีโป้กับแท็คติกใหม่ๆ ของโค้ชมิโล

ข้อสุดท้ายนี้ถือเป็นข้อที่โคตรจะนามธรรมที่สุด เพราะมันจับต้องไม่ได้ และเราๆ ก็ยังไม่เคยเห็น เนื่องจากที่ผ่านมา "โค้ชมิโล" ห่างหายจากการใช้บริการของ ปีโป้ มาสักพักแล้ว แต่เชื่อเถอะว่าโค้ชมีดีกรีขนาดนี้ เขาคงไม่เอาสถิติการยิง 0 ประตูในรอบ 2 ปีของ ปีโป้ มาเป็นเกณฑ์ตัดสินทุกอย่างแล่วเอาชื่อของ สิโรจน์ มาใส่ไว้เฉยๆ แน่นอน ประกอบกับที่โค้ชเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาเล็งเห็นความสำคัญของปีโป้มากกว่าการเป็นกองหน้า ดังนั้นเรื่องแท็คติกใหม่ๆ ของ ราเยวัช ที่เอา ปีโป้ ไปครั้งนี้ก็อาจจะมีส่วนด้วยเช่นกัน    

บทความโดย : บอลกูรู (เจษดาพร ศรีสรง)

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline