logo-heading

วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ปี2018 วงการลูกหนังไทยในแง่ของผลงานทีมชาติไม่ค่อยมีเรื่องราวที่น่าจดจำเท่าที่ควร ทว่า 2019 ขุนพลแดนสยามมีภารกิจใหญ่ทั้งการแข่งขันเอเชียน คัพ 2019 ที่ยูเออี ในช่วงสัปดาห์นี้ และฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่จะเริ่มคิกออฟช่วงกลางเดือนมิถุนายน และตุลาคม

แต่อย่างไรก็ดีภารกิจแรกที่นักเตะจากลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาต้องทำ คงมีไม่มากนั้นคือการผ่านรอบแบ่งกลุ่ม ไปรอบ16 ทีมเอเชียน คัพ 2019 ที่เป็นเป้าหมายที่บอร์ดบริหารหวังเอาไว้ เนื่องจากจำนวนทีมที่เพิ่มมากขึ้น จาก 16 เป็น 24 ทีม ยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ขุนพลสายเลือดไทยมีสิทธิ์สร้างประวัติศาสตร์ รวมไปถึงการกอบกู้ศรัทธาจากแฟนบอลในประเทศ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องบังเอิญอยู่ไม่น้อย ที่มหกรรมลูกหนังเบอร์1 แห่งทวีป ได้มีโอกาสหวนกลับมาจับขึ้นบนแผ่นดินยูเออี ชาติที่ว่ากันว่ามีความพร้อมแทบทุกด้าน หลังจากก่อนหน้านี้เคยรับหน้าสื่อไปเมื่อปี 1996 หรือแม้ 23 ปีที่แล้ว โดยในหนนั้นทีมชาติไทย ได้เข้ารอบสุดท้าย ถูกจับสลากอยู่ในสายบี ทว่าไม่อาจต้านทานความแข็งแกร่งของ 3 ชาติอาหรับทั้ง ซาอุดิอาระเบีย, อิหร่าน, อิรัก จอดป้ายตกรอบแรกกลับบางกอกไปอย่างรวดเร็ว อดีตที่ผ่านไป! 5แข้งทีมชาติไทยเล่าความทรงจำอช.คัพ 1996 ขอบสนามมีโอกาสได้เสวนากับเหล่าขุนพลทีมชาติไทย ชุดปี 1996 พวกเขาจึงบอกเล่าประสบการณ์ในห้วงเวลานั้น รวมถึงแชร์มุมมองต่อทีมชาติไทย ชุดปัจจุบัน ก่อนที่ทัวร์นาเมนต์ปี 2019 จะเปิดฉากขึ้นในวันพรุ่งนี้ ไม่ชักช้าเสียเวลาเลื่อนเมาท์ไปอ่านกันเลยดีกว่าครับพี่น้อง 1.ดุสิต เฉลินแสน อดีตที่ผ่านไป! 5แข้งทีมชาติไทยเล่าความทรงจำอช.คัพ 1996 อดีตกองกลางรุกสู่แบ็คซ้ายก้าวไปเป็นออลสตาร์เอเชีย กุนซือบีจี ปทุม ยูไนเต็ด คนปัจจุบัน ผู้มีภารกิจนำทีมกลับคืนสู่ไทยลีก "สิงห์อีซ้ายจากสกลนคร" ผู้มีเฉลิมวุฒิ สง่าพล เป็นไอดอลลูกหนัง คือแข้งรายแรกที่เรานึกถึงเป็นคนแรก เนื่องจากเอเชียน คัพ ที่ยูเออี เมื่อ 23 ปีก่อน เขาเพิ่งจะได้ชิมลางบทบาทใหม่ในนามทีมชาตินั้นคือแบ็คซ้าย ทั้งที่ความเป็นจริงเขาเล่นตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์มาก่อน "จริงๆมันก็นานแล้วนะ ผมก็แทบจำไม่ได้ ทัวร์นาเมนต์นั้นน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตเราที่มาเล่นแบ็คซ้ายให้ทีมชาติไทย ทั้งที่เราก็ไม่เคยเล่นมาก่อน เพราะเราเป็นกองกลางตัวรุกมา แต่พอหลุดทีมชุดซีเกมส์ 1995 (พ.ศ.2539) ที่เชียงใหม่ กลับมามีคนเล่นตำแหน่งถนัดเราไปแล้ว (ง้วน) สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ ช่วงแรกยอมรับว่าไม่ชินนะ แต่พอเล่นไปสักพักเราก็ปรับตัวได้ 3 เกมในเอเชียน คัพ 1996 ที่ยูเออี เจอทีมชั้นนำของเอเชีย แน่นอนละว่าเขาเหนือกว่าเรา ช่วงแรกที่ลงสนามเหมือนจะสูสีสู้ได้ แต่พอแข่งไปสักพักความต่างคือเล่นของฟิตเนสพละกำลัง บอลบ้านเราสมัยก่อนไม่ได้มีทีมฟิตเนสเหมือนสมัยนี้ มันจึงส่งผลให้ทีมชาติไทยสมัยก่อนสู้กับใคร จะมีปัญหาเรื่องความฟิตยืนระยะช่วงท้ายเกมไม่ได้" "ใครจะไปคิดละว่าผลงานทีมชาติไทยในครั้งนั้นก็ไม่ดี ตกรอบแรกอีกตั้งหาก ผมเองก็เล่นแบ็คซ้ายเป็นครั้งแรก แต่อีก 1 ปีต่อมา พ.ศ.2540 สมาคมฯแจ้งมาว่าเรามีชื่อเป็นผู้เล่นออลสตาร์เอเชีย (ดาราเอเชีย) ไปเล่นฟุตบอลกระชับมิตรกับรวมดาราโลก ที่ฮ่องกง ด้วยก็เป็นเรื่องที่แปลกเหนือความคาดหมายสำหรับตัวเราในครั้งนั้น" "สำหรับมุมมองทีมชาติไทยในเอเชียน คัพ 2019 ผมเองก็ติดตามและเป็นกำลังใจให้ คิดว่าตัวหลักที่ไปเล่น 3 ประเทศ 3 คนจะช่วยทีมชาติไทย ทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่อยู่ในฟอร์มที่กำลังดีพลิกเกมเปลี่ยนเกมได้, ธีราทร บุญมาทัน และ ธีรศิลป์ แดงดา ก็เชื่อว่ามีโอกาสไปรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้" 2.สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ อดีตที่ผ่านไป! 5แข้งทีมชาติไทยเล่าความทรงจำอช.คัพ 1996 อดีตกองกลางคุมเกมทีมชาติไทย เมื่อช่วงทศวรรษ 90 ผู้ที่มีดีกรีมากมาย ทั้งการเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมในรายการเอเอฟซี เอเชียน คัพ แชมเปี้ยนส์ชิพ (1994) หลังพาธนาคารกสิกรไทย คว้าแชมป์สโมสรเอเชียในปีดังกล่าว นอกจากนี้ผ่านการหยิบจับแชมป์มาไม่หวาดไม่ไหว ทั้งเหรียญทองซีเกมส์ 4 สมัย (1993,1995,1997,1999), คว้าแชมป์อาเซียน คัพ 3 สมัย (1996,2000,2002), ติดทีมไปโม่แข้งเอเชียน คัพ รอบสุดท้าย 3 หน (1992,1996,2000), มีชื่อเป็นขุนพลชุด 10 ทีมสุดท้ายคัดบอลโลก โซนเอเชีย 2002 โดยที่ปัจจุบัน "เดอะง้วน" รับหน้าที่ผู้อำนวยการสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด "เรื่องมันก็นานมากแล้วนะ จำไม่ค่อยได้นะ ในตอนนั้นเราไปแข่งเอเชียน คัพ ปี 1996 ที่ยูเออี ผมคิดว่าทีมชาติไทยชุดที่ไปน่าจะแข็งแกร่งดีสุดในประเทศแล้ว มีทั้งนที ทองสุขแก้ว, ดุสิต เฉลิมแสน, อภิชาติ ทวีเฉลิมดิษฐ์, เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์, เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ฯลฯ แต่พอไปเจอ 3 ทีมจากอาหรับในครั้งนั้น ทั้งซาอุดิอาระเบีย ที่ผู้เล่นส่วนใหญ่จับพวกแอฟริกันมาโอนสัญชาติ ส่วนอิหร่าน พวกเขามีอาลี ดาอี และกลุ่มผู้เล่นที่หลายๆคนไปเล่นในยุโรป ส่วนอิรักที่แข็งแกร่งในเรื่องของระบบทีมเวิร์ค เราต้องยอมรับว่าทีมเราดีแล้วนะ แต่ทั้ง 3 ชาติดีกว่าเรา ทั้งเรื่องความสามารถเฉพาะตัว, แท็คติก, ความฟิต, การเล่นเป็นทีม ซึ่งเราเป็นรองพวกเขาหมดทุกด้าน สมัยก่อนบ้านเราไม่ได้มีระบบการจัดการที่เป็นมืออาชีพ เวลาลงสนามเราจึงเสียเปรียบ มันจึงทำให้เราไปสู้ในระดับเอเชียไม่ค่อยได้" "ส่วนถ้าถามว่าทีมชาติไทย ในเอเชียน คัพ 2019 ครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ผมยังมองว่าทีมชุดนี้มีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้แน่นอน เพราะว่ากลุ่มเอไม่ได้มีความแข็งแกร่งมาก สำหรับเพื่อนร่วมสายบาห์เรน, อินเดีย รวมถึงยูเออี เจ้าภาพ การได้ผู้เล่น 3 คนที่ไปเล่นบอลอาชีพในญี่ปุ่น จะทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น ผมคิดว่าผู้เล่นน่าจะโชว์ฟอร์มออกมาให้ดีสุด เพื่อมอบเป็นของขวัญแก่แฟนบอลชาวไทย" 3. นิพนธ์ มาลานนท์ อดีตที่ผ่านไป! 5แข้งทีมชาติไทยเล่าความทรงจำอช.คัพ 1996 ยอดนายทวารดีกรีแชมป์สโมสรเอเชีย 2 สมัยกับสโมสรธนาคารกสิกรไทย เขาคือคนที่เคยโดนคำครหาดูถูกดูแคลนว่าเป็นประตูตัวเล็ก ประตูน้ำ แต่ใครจะไปคิดละว่า นี่คือผู้พิทักษ์ปากประตูเบอร์ต้นๆของแวดวงลูกหนังไทย ผู้ที่เต็มไปด้วยหลักธรรมคำสอนพระพุทธศาสนาที่มาเป็นเครื่องยึดเหนียวจิตใจ กระทั่งได้รับฉายา "มหาโต" จนกลายเป็นคนที่สร้างมือกาวฝีมือดีมาประดับวงการมากมาย ในปัจจุบัน ทั้ง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, ทศพร ศรีเรือง, วีระ เกิดพุดซา ฯลฯ "การไปเล่น เอเชี่ยนคัพ 1996 ที่ยูเออี การติดไปชุดนั้นเป็นการภูมิใจ ได้เล่น เพราะชุดนั้น เป็นชุดที่ดีสุดของเมืองไทยสมัยนั้น ผมได้เล่นกับยอดกองหลังอย่าง นที ทองสุขแก้ว, กองกลางฝีเท้าคุณภาพ สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ แต่การไปเล่นกับ ทีมชั้นนำของทวีป แต่ละทีมมีนักเตะที่มีคุณภาพ ทั้งนั้น ความสามารถเฉพาะตัวดีทั้งนั้น การได้ลงในนามทีมชาติของผมนั้น" "ผมดีใจมากที่ได้มาเล่นกับแต่ละทีมคุณภาพ ผมได้ลงกับทีมซาอุดิอาระเบีย 0-6 ถ้าผมจำไม่ผิด วัชระพงศ์ โดนใบแดงช่วงครึ่งแรก (นาทีที่10) โดนจุดโทษผมต้องลงไปรับจุดโทษเลย วันนั้นผู้เล่นเราเหลือ สิบคน วันนั้นเป็นวันที่ผมรับเยอะที่สุด แมตซ์ที่สองผมลงเล่นกับอิหร่าน ก็โดนไป สามลูก ในทัวร์นาเมนต์นั้นผมเสียรวมทั้งสิ้น 9 ประตู ความพ่ายแพ้ครั้งนั้นผมได้อะไรมากกว่านั้นเยอะ เรากลับไปขวนขวาย เพื่อทำให้เรารู้วันหนึ่งจะได้เป็นผู้รักษาประตูที่ดีได้อีกครั้ง" 4.วรวุธ ศรีมะฆะ อดีตที่ผ่านไป! 5แข้งทีมชาติไทยเล่าความทรงจำอช.คัพ 1996 อดีตกองกลางจากจังหวัดสงขลาผู้ที่มีรูปร่างที่สูงใหญ่กว่าชาวบ้าน  ด้วยจุดเด่นดังกล่าวจึงถูกปรับมายืนเป็นกองหน้าตัวเป้า พักบอลให้เพื่อนร่วมทีม รวมถึงการสังหารประตู จากการเป็นยอดนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากมายในชีวิตการค้าแข้ง กวาดทุกแชมป์ระดับสโมสรและทีมชาติ ทั้งไทยลีก, ถ้วยก., แชมป์ควีนส์ คัพ, เอเชียน คลับ แชมเปี้ยนชิพ (เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก) แอฟโฟร่ คัพ (แชมป์เอเชีย-ชิงกับแชมป์ทวีปแอฟริกา), อาเซียน คัพ, คิงส์ คัพ, ซีเกมส์, อยู่ในชุดคัดบอลโลก 10ทีมสุดท้ายเอเชีย ปี 2002 "ตอนนี้เราไปเอเชียน คัพ 1996 ที่ยูเออีในฐานะแชมป์กลุ่ม3 เป็นตัวแทนจากอาเซียนไปเล่นรอบสุดท้ายร่วมกับอินโดนีเซีย ตอนนั้นเราคือเบอร์1 อาเซียน เพิ่งจะได้แชมป์อาเซียน ครั้งแรกที่สิงคโปร์ เราว่าทีมชุดนั้นที่ไปแข่งรอบสุดท้ายคิดว่าพีคสุดแล้วนะ แต่พอไปเจอซาอุดิอาระเบีย, อิหร่าน, อิรัก ซึ่งเป็นขาใหญ่ของทวีปเอเชีย ที่ช่วงชิงโควต้าฟุตบอลโลก เราเป็นรองพวกเขาทุกด้าน ทั้งทีมเวิร์ค ความฟิต รูปแบบการเล่น คุณภาพนักเตะ 3 แมตซ์ที่ลงสนามแพ้รวดทุกนัดไม่น่าจดจำสักเท่าไหร่" "สิ่งที่ได้สัมผัสเวทีระดับเอเชียในหนนั้นแล้วผมได้กลับมา คงเป็นเรื่องความสามารถเฉพาะตัว 1 ต่อ 1 เราสู้กับชาติอาหรับไม่ได้เลย โดนพวกเขาบดขยี้ ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นว่าฟุตบอลระดับสูงของทวีปมีเวลาแค่แปปเดียวในการตัดสินใจ ถ้าพลาดก็เสียบอลให้คู่ต่อสู้ทันที จุดนี้เองผมนำมาปรับใช้กับการเล่นฟุตบอลและการเป็นโค้ชสอนเด็กรุ่นหลัง" "ส่วนความคิดเกี่ยวกับทีมชาติไทย ชุดเอเชียน คัพ 2019 ผมมองว่า การได้นักเตะ 3 ตัวที่ไปเล่นในญี่ปุ่น กลับมาช่วยชาติทำให้ทีมดีขึ้น มีโอกาสเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ถ้าเด็กเราพีค มองยังไงก็ผ่านอินเดีย, บาห์เรน ไปได้ ส่วนยูเออี ขีดความสามารถไม่ได้เหนือกว่าไทย เขาคือเจ้าบ้าน ถ้าเตรียมทีมดีๆผมมองว่ายังไงก็ผ่านไปได้แน่" "อีกอย่างเอเชียน คัพ ยุคนี้ไม่เหมือนยุคผม สมัยก่อนวัดกันที่คุณภาพผู้เล่น ชั้นเชิงลูกหนัง ซึ่งผมมองว่าจำนวนทีมที่เพิ่มขึ้น ยังไงทีมไทยมีโอกาสเข้ารอบได้อยู่แล้ว" 5.สุรชัย จิระศิริโชติ อดีตที่ผ่านไป! 5แข้งทีมชาติไทยเล่าความทรงจำอช.คัพ 1996 ยอดเซ็นเตอร์แบ็คแถวหน้าเมืองไทยยุค 90 ผู้ที่ไหวพริบดี เก่งในการเข้าประกบคู่ต่อสู้ในระยะประชิด เขาปักหลักพิทักษ์หลังบ้านทีมชาติไทย มาไม่นานกว่า 11 ปี "จั๊บ" สุรชัย มีเกียรติประวัติระดับทีมชาติที่นับไม่ถ้วย แชมป์ซีเกมส์ 2 สมัย (1997,1999), แชมป์อาเซียน คัพ (1996,2000), ติดทีมรอบ 10 สุดท้ายบอลโลก 2002, ไปรอบสุดท้ายเอเชียน คัพ 1996,2000 "เป็นความประทับใจสูงสุดในชีวิตครั้งหนึ่งของผม เราเริ่มรอบคัดเลือกไม่ค่อยดี อันที่จริงแล้วเกือบจะไม่ได้ไปรอบสุดท้ายเลยด้วยซ้ำ ต้องมาลุ้นจนถึงนัดสุดท้ายเกมกับสิงคโปร์ ที่เราตามตีเสมอ 2-2 จบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม 3 ในรอบคัดเลือก การไปเล่นเอเชียน คัพ 1996 ถือเป็นหนแรกของเราในทัวร์นาเมนต์นี้ ผลการแข่งขัน 3 เกมจะสู้ไม่ได้ แต่การได้ลงเล่นกับทีมชั้นนำของทวีป ทั้งซาอุดิอาระเบีย, อิหร่าน และอิรัก เป็นสิ่งที่เราภูมิใจไม่มีวันลืม ทุกนัดเป็นเกมที่หนักครับ 3 ทีมมีผู้เล่นคุณภาพ แข็งแกร่ง สูงใหญ่ เต็มไปด้วยเทคนิคระดับแถวหน้าเราเป็นรองพอสมควร แต่เป็นประสบการณ์ที่มีค่าครับ"

เอ็มเร่

[email protected]

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline