logo-heading

เสร็จสิ้นภารกิจในศึกเอเชียน คัพ 2019 กันไปเรียบร้อย สำหรับขุนพลช้างศึก หลังจากนี้ก็กลับมาพักผ่อน แล้วก็ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป จากนั้นก็มาลุยกันต่อกับภารกิจทีมชาติ ที่มันกำลังจะมาถึงในเวลาอันใกล้นี้อีกครั้ง

คงพอแล้วนะครับกับการวิพากษ์ วิจารณ์ หรือหาแพะให้กับทีมชาติไทย หลังตกรอบ 16 ทีมเอเชียน คัพ 2019 พูดไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เรามาว่ากันที่อนาคตหลังจากนี้กันดีกว่า ว่าจะเอายังไงกันต่อดี? หลังจบเอเชียน คัพ 2019 ทีมชาติไทย จะมีโปรแกรมแข่งขันอีกครั้งก็จะเป็นช่วงฟีฟ่าเดย์เดือนมีนาคมนี้ ซึ่งก็มีแนวโน้มที่เราจะบินไปอุ่นเครื่องที่จีน ตามที่สมาคมฟุตบอลแดนมังกรร่อนจดหมายเชิญมา แต่ก็ต้องรอการยืนยันอีกครั้ง จากนั้นก็จะเป็นคิงส์ คัพ 2019 ที่จะเตะกันในช่วงเดือนมิถุนายน นี่เป็นช่วงสองช่วงเวลาที่ทัพช้างศึก จะได้สังคายนากันใหม่ ก่อนจะเจอของจริงในช่วงเดือนกันยาเป็นต้นไป ที่จะมีศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบสอง ที่เราจะต้องลงแข่งขัน ดังนั้นเราไม่มีเวลาพักร้อนแล้ว โดยเฉพาะสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่จะเอายังไงต่อคงต้องเริ่มคิดกันแล้ว หลังจากท่านนายกกลับมาจากยูเออี คงต้องรีบเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้ามาถกกันโดยด่วน ว่าจะเอายังไงต่อไปสำหรับทีมชาติไทย เอายังไงที่ว่า หลักๆ ก็คงจะเป็นเรื่องตัวกุนซือทีมช้างศึก จะเอาคนนอกหรือคนไทย จะเอาใครมาคุมก็ต้องรีบจัดการ อย่างช้าที่สุดก็คือก่อนถึงแมตช์ฟีฟ่าเดยืในช่วงเดือนมีนาคม แต่ถ้ารอไปถึงตรงนั้นก็อาจจะช้าไปอีกสำหรับโค้ชใหม่ที่จะมาดูฟอร์มนักเตะ หรือถ้าไม่ทันจริงๆ ก็ให้โค้ชโต่ย รักษาการไปก่อน แล้วพยายามหากุนซือคนใหม่ให้ได้เร็วที่สุดก่อนถึงเดือนมิถุนายน เพื่อที่จะให้โค้ชคนใหม่ได้มีเวลาดูฟอร์ม เรียกนักเตะเข้ามาก่อนจะลุยคิงส์ คัพ เพื่อเป็นการลองทีม ก่อนไปถึงรอบคัดเลือกบอลโลก เกริ่นไปอย่างนี้ หลายคนคงจะคิดว่าแบบนี้ก็ตัดช้อยส์ที่จะให้ "โค้ชโต่ย" คุมทีมถาวรไปแล้วละสิ ก็ยังไม่เชิงหรอกครับ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับท่านนายกสามคมฯ และที่ปรึกษา อาจจะเป็นพี่โต่ยที่ได้ทำต่อก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องมีความชัดเจน ว่าจะให้แกทำแบบถาวรหรือขัดตาทัพไปถึงไหนอย่างไร เราจะได้วาลแผนถูก แต่ถ้าความคิดผม ในเมื่อเดือนกันยายนเรามีทัวร์นาเม้นท์สำคัญรออยู่ ก็ควรจะให้ชัดเจนไปเลยว่าจะให้คุมถาวร หรือเอาคนใหม่เข้ามา คนใหม่ที่ว่าก็คงเป็นโค้ชนอก เพราะโค้ชไทยตอนนี้ก็ยังมองใครไม่เห็น แต่อย่างไรก็ตาม ทั้ง "โค้ชโต่ย" และ "โค้ชโชค" ถ้าไม่ไปรับงานคุมทีมที่ไหน ก็ควรจะให้ทั้งสองคนนี้เป็นสตาฟฟ์โค้ชของทีมชาติไทยต่อไป ดังนั้นโค้ชใหม่ที่จะมาก็ต้องรับเงื่อนไขตรงนี้ด้วย ไม่ใช่เอาทีมงานตัวเองมา แล้วเอาโค้ชคนไทยออกไปจากทีม มันพังมาหลายครั้งแล้วแบบนี้ เรื่องของ "โค้ชโต่ย" ผมเองก็ต้องยอมรับตามตรงว่าก่อนหน้านี้ สนุบสนุนเต็มที่ให้แกได้คุมทัพถาวร โดยเป็นการขัดตาทัพไปก่อนจนกว่าจะเรียนโปรไลเซนส์จบ แต่พอเห็นกระแสโซเชียลที่มันน่ากลัวขนาดนั้น ก็เลยคิดว่าพี่อย่าเพิ่งเอาตัวมาเสี่ยงดีกว่า เป็นผู้ช่วยเหมือนเดิมดีแล้ว ไม่อยากให้พี่กลายเป็นเหยื่อของโลกโซเชียล เอาไว้พร้อมเมื่อไหร่ค่อยกลับมาในฐานะเฮดโค้ชใหญ่ทีมช้างศึก ตอนนี้ก็สะสมประสบการณ์ไปก่อน แต่ก็นั่นแหละ จากความล้มเหลวที่เกิดขึ้นของทีมงานราเยวัช ก็ทำให้เราเหมือนจะขยาดโค้ชนอกไปแล้ว แต่จริงๆ มันไม่ใช่ว่าโค้ชนอกไม่ดีหรอกครับ ถ้าเราได้คนเก่งจริงๆ เข้ามา ยังไงมันก็ดี ดูอย่างชาติอื่นๆ ทั่วโลก เอาใกล้ตัวก็เวียดนาม เขาก็ยังใช้โค้ชนอก แล้วแม่งโคตรดีเลย เพราะเขาได้ของจริงมา แต่เราดันไปได้ของเก๊ หรือโค้ชนอกที่มันไม่เหมาะกับทีมชาติไทยของเรา ก็เลยเป็นอย่างที่เห็น ก็ไม่มีอะไรจะพิมพ์ไปมากกว่านี้ เพียงแต่จะบอกว่า จะเอายังไงก็เอา จัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด อยากเห็นอนาคตทีมชาติไทย หลังจากนี้ เราจะได้กลับมาทวงเจ้าอาเซียนอีกครั้ง

มูซาชิ

 
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline