logo-heading

เอเชียน คัพ 2019 มหกรรมลูกหนังหมายเลข 1 ทวีปเปิดฉากฟาดแข้งกัน ณ เวลานี้การแข่งขันอยู่ในรอบ 8 ทีม ซึ่งเราได้เห็นโฉมหน้าค่าตาทีมที่เข้ารอบรองชนะเลิศไปแล้ว ทั้งญี่ปุ่น และอิหร่าน

อย่างไรก็ดีเอเชียน คัพ หนนี้ผู้เขียนสะดุดตาสะดุดใจกับการพัฒนาลูกหนังของหลายๆชาติ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีจากประเทศล้าหลัง ที่มีสงครามกลางเมือง บางชาติอาจตกรอบแรกก่อนเวลา แต่หากเรามองดูแบ็คกราวด์ย้อนหลัง ชาติเหล่านี้เต็มไปด้วยสงคราม แต่กลับใช้ฟุตบอลสร้างความสุขให้คนประเทศ จนเราต้องกลับมาดูตัวเองเหมือนกันว่า ขนาดที่พวกเขาเต็มไปด้วยอุปสรรคแต่กลับต่อสู้จนถีบตัวเองขึ้นมาเป็นทีมขาประจำในการแข่งขันอีเวนต์สำคัญของทวีป ขอบสนามคัดสรร 6 ชาติภัยสงครามที่ซุ่มเงียบพัฒนาลูกหนังเพื่อไปเวทีระดับโลก 1.ซีเรีย 6ชาติภัยสงครามเอเชีย พัฒนาลูกหนังเพื่อเวทีระดับโลก ชาติลูกหนังที่อุดมไปด้วยไฟสงครามกลางเมืองยาวนาน 6-7 ปี ซึ่งไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเสียที แต่ถึงกระนั้นประเด็นดังกล่าวไม่ใช่ปัญหาในการพัฒนาความสามารถผู้เล่นในประเทศเลย แม้ว่าที่ผ่านมาทีมชาติซีเรียต้องอพยพไปซ้อมฟุตบอลต่างบ้านต่างเมือง เช่น คูเวต, ยูเออี, กาตาร์ ฯลฯ ทว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่ปัญหา ระยะเวลา 2-3 ปีหลังสุดพัฒนาการซีเรียดีขึ้น ตามลำดับแรงกิ้งฟีฟ่า ขยับขึ้นไปสู่ 73 ของโลกสูงสุดนับตั้งแต่มีการจัดอันดับมา ซึ่งผลพวงมาจากการเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายบอลโลก 2018 แม้จะไปพลาดท่าแพ้ต่อออสเตรเลีย ในการชิงตั๋วเพลย์ออฟ โซนเอเชีย แต่ผลงานดังกล่าวกลายเป็นใบเบิกทางให้แข้งชาวซีเรียน ได้ออกไปค้าแข้งในลีกชั้นนำย่านอาหรับ โอมาร์ คาร์บิน แข้งยอดเยี่ยมเอเชีย 2017 ที่ไปเล่นให้อัล-ฮิลาล, โอมาร์ อัล โซม่า กองหน้ากัปตันทีมไปที่ไปเล่นให้อัล-อาลี รวมถึงแข้งรายอื่นๆที่เป็นตัวหลักทีมชาติชุดปัจจุบัน ปักหลักอยู่กับทีมชั้นนำในลีกกาตาร์, อิรัก ซีเรีย อาจจะยังไม่เคยไปฟุตบอลโลก แต่ในส่วนของระดับเยาวชน ชุด 17 ปี เคยไปโลดแล่นรอบสุดท้าย 2 สมัยในปี 2007, 2015 จุดเด่น1 ข้อของซีเรีย คือการให้ผู้เล่นเยาวชนทีมชาติ ได้มาสัมผัสฝึกซ้อมกับแข้งซีเนียร์ชุดใหญ่เพื่อให้เด็กได้ซึมซับบรรยากาศ สร้างแรงจูงใจให้ไอ้หนูเหล่านั้นกลับไปปรับปรุงฝีเท้าเพื่อขึ้นมาเป็นกำลังหลักทีมชาติ แม้ผลงานในเอเชียน คัพ 2019 ซีเรีย อาจจะจอดป้ายตกรอบแรก แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการเลือกใช้โค้ชนอกที่ตกยุคไปแล้ว อย่าง แบรนด์ สเตนเก้ ซึ่งมันไม่เวิร์คสุดท้ายก็ต้องแยกทางแล้วกลับมาใช้บริการโค้ชท้องถิ่นที่ความรู้ความเข้าใจผู้เล่นในประเทศอีกหน  ทีมกลับมาน่าเกรงขามขึ้นอีกครั้ง ซึ่งในการคัดบอลโลก 2022 โซนเอเชีย กลางปีนี้ ซีเรียจะกลับมาน่ากลัวเหมือนในตอนคัดบอลโลก 2018 อีกครั้ง 2.อิรัก 6ชาติภัยสงครามเอเชีย พัฒนาลูกหนังเพื่อเวทีระดับโลก ทีมหัวแถวย่านอาหรับ ผู้มีดีกรีแชมป์เอเชียน คัพ 2007 แม้ว่าในอดีตอิรักจะประสบปัญหาไม่ต่างจากซีเรีย คือไม่มีโอกาสได้ซ้อมฟุตบอลในประเทศ เพราะภัยสงคราม และต้องรอนแรมไปในหลายประเทศทั้งอิหร่าน, กาตาร์, ยูเออี และ คูเวต แต่หลังจากสถานการณ์คลี่คลายกลับเข้าสู่ความสงบ กีฬาฟุตบอลสร้างความสุขให้ผู้คนในดินแดนเมโสโปเตเมียมาช้านาน เพียงแต่โมงยามนี้ อิรักกลับเข้าสู่ยุคทองอีกครั้ง หลังทีมเยาวชนไปโลดแล่นรอบสุดท้าย หลายทัวร์นาเมนต์ ทั้ง17 ปี ที่ไปเล่นรอบสุดท้าย ปี 2013, 2017 (เป็นแชมป์เอเชีย16 ปี 2016) ตามด้วยทีม 20 ปี จบอันดับ 4 เยาวชนโลก ชุดที่มีอาลี อัดนาน แบ็คซ้ายของอตาลันต้า เท่านั้นไม่พอทีม23 ปี จบด้วยการเป็นอันดับ 3 ไปเล่นบอลชายโอลิมปิก 2016 ที่บราซิล ความดีความชอบตรงนี้คงต้องยกให้ อับดุล คาลิก มาสูด นายกสมาคมฟุตบอลของพวกเขาที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ การวางโครงสร้างรูปแบบการพัฒนาเยาวชนใหม่ทั้งระบบ ในเมื่ออิรักมีปัญหาในเรื่องเงิน สิ่งเดียวที่จะทำให้มันยั่งยืนคือการเน้นสร้างผู้เล่นใหม่ขึ้นมาทดแทนกลุ่มเดิมที่วัยโรยรา เมื่อเด็กเติบโตประสบความสำเร็จไปพร้อมๆกันทีมชุดใหญ่ก็มีตัวเลือกให้หยิบใช้มากพอ โมฮานัด อารี, โมฮัมเหม็ด แดวู๊ด 2 แข้งจากทีมชุดแชมป์เอเชีย ยู-16 ปี 2016 ที่อินเดีย มีเวลาพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่อง และใช้เวลา 3 ปี ก้าวขึ้นมาเป็นหลักทีมชาติในเอเชียน คัพ 2019 โดยวัย 18 ปีเศษเท่านั้น 3.เกาหลีเหนือ 6ชาติภัยสงครามเอเชีย พัฒนาลูกหนังเพื่อเวทีระดับโลก “โสมแดง” ทีมจอมฟิตแห่งทวีปเอเชีย ในแง่ของประวัติศาสตร์นี่คือชาติที่น่าเกรงขามของทวีป บอลสไตล์วิ่งสู้ฟัดกัดไม่ปล่อย ผู้เล่นทุกคนถูกปลูกฝังให้เปรียบเสมือนตัวแทนภายในชาติ “สู้เพื่อความอยู่รอด” นั้นคือสิ่งที่ผู้เขียนได้รับมาจาก รี ควาง ชอน อดีตกองหลังเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่เคยบอกเล่าเรื่องราวคราวๆให้ฟัง สมาคมฟุตบอลเกาหลีเหนือจะอยู่ในความดูแลองค์กรกีฬาในประเทศ เพราะฉะนั้นเงินสนับสนุนจากฟีฟ่าคงมาไม่ถึงพวกเขาแน่นอน แม้จะดูเหมือนล้าหลังไร้ซึ่งการพัฒนา แต่ดีเอ็นเอของแข้งโสมแดงไม่แพ้ใครในเอเชีย นักกีฬาทุกชนิดรู้ดีว่า การเล่นกีฬาให้ประเทศชาติคือช่องทางหลีกเลี่ยงการไปทำงานในเหมือง นั้นจึงทำให้หลายๆคนสู้วิ่งลืมตายเพื่อติดทีมชาติ ไม่เว้นแม้แต่ฟุตบอล ในแง่ของฟุตบอลระดับเอเชีย เกาหลีเหนือแข็งแกร่งในระดับเยาวชน 17 ปี ไปเล่นรอบสุดท้ายเยาวชน 5 ครั้ง ชุด 20 ปี ไปเล่นเยาวชนโลก 3 ครั้ง ส่วนทัวร์นาเมนต์อื่นๆในทวีปมีเอี่ยวแทบทุกรายการ แต่อุปสรรคที่ทำให้เกาหลีเหนือไปได้ไม่ไกลในแง่ของฟุตบอล แม้ว่าจะมีดีกรีไปเวิลด์ คัพ ปี 2010 คือการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นใช้งานที่มากเกินไป นอกจากนี้ตัวโค้ชเองเมื่อทำทีมล้มเหลวตกรอบแรกก็คล้ายๆพี่ไทยเราคือโดนเฉดหัวออกจากตำแหน่ง ว่าง่ายๆคือความต่อเนื่องไม่มีนั้นแหละ 4.เวียดนาม 6ชาติภัยสงครามเอเชีย พัฒนาลูกหนังเพื่อเวทีระดับโลก แชมป์อาเซียน ปี 2018 ตามด้วยการเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายเอเชียน คัพ 2019 แม้จะปราชัยต่อญี่ปุ่น 0-1 แต่ผลงานดังกล่าวก็สร้างความสั่นสะเทือนให้แก่องค์กรฟุตบอลบางประเทศในภูมิภาคเดียวกัน เวียดนามคือประเทศคอมมิวนิสต์ แน่นอนว่าการปกครองในระบบนี้ส่งผลให้ประเทศล้าหลังพัฒนาช้า แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า เวียดนามค่อยๆปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบเยาวชนทีละขั้นแต่ทำเป็นระบบ ปี 2014 ทีมชุด 20 ปีที่พวกเขาฟูมฟักมากว่า 3 ปีเป็นความหวังคนของในชาติ จอดป้ายตกรอบแรกเอเชียที่เมียนมา นอกจากนี้การได้ เกิธ ไฮซ์ ชาวเยอรมัน มาช่วยวางระบบรากฐานปรับปรุงโครงสร้าง ทั้งศูนย์ฝึกฟุตบอล, นำบุคลากรที่มีความรู้เชิงพัฒนามาสอนโค้ชทั่วประเทศ จนทีมชุด 19 ปี เข้ารอบรองฯ ชิงแชมป์เอเชียน ที่บาห์เรน ปี 2016 จนได้ตั๋วไปรอบสุดท้ายบอลโลก20 ที่เกาหลีใต้ปี 2017 ตามด้วยการเข้ามาทำทีมของ ปาร์ค ฮัง ซอ โค้ชแดนโสมขาว กลางปี 2017 หยิบจับใช้งานเด็กที่อายุไม่ต่ำกว่า 23 ปีขึ้นมาเป็นแกนหลัก เลือกใช้แท็คติกเล่นเป็นทีม, ปรับทัศนคติแข้งเหงียนใหม่ทั้งหมด ไม่เน้นให้ผู้เล่นเป็นบอลวันแมนโชว์เหมือนที่ผ่านมา ผลลัพธ์ดังกล่าวช่วยให้เวียดนาม เขย่าวงการลูกหนังเอเชีย ด้วยการเป็นรองแชมป์เอเชีย 23 ปีที่จีน เมื่อปี 2018 ตามด้วยการเป็นอันดับ 4 บอลชายเอเชียน เกมส์ เรียกว่าในขวบปีที่ผ่านมา ปาร์ค ฮัง ซอ กลายเป็นฮีโร่ของคนสกุลหยวนไปซะแล้ว 5.เมียนมา 6ชาติภัยสงครามเอเชีย พัฒนาลูกหนังเพื่อเวทีระดับโลก อดีตคู่ปรับสำคัญของแข้งพลทีมชาติไทย ในช่วงยุค60 ถึงต้นยุค 90 ในการช่วงชิงความเป็นเจ้าลูกหนังอาเซียน ก่อนที่ปัญหาความขัดแย้งในประเทศจะส่งผลให้พัฒนาการฟุตบอลของแข้งสกุลหม่องสะดุดลงอย่างรวดเร็ว เมียนมา เหมือนถอยหลังลงคลอง ทว่าการเข้ามารับงานโดยชายชาวเยอรมัน ที่มีนามว่า แกร์ด ซีเซ่ ที่เริ่มจับงานทีม19 ปี กลางปี 2011 ขรัวเฒ่ารายนี้มองเห็นศักยภาพผู้เล่นดินแดนสาละวินที่เล่นบอลสั้นเคลื่อนที่รวดเร็วฉับไหว จึงเฟ้นหานักเตะดางรุ่งสายเลือดใหม่ ซึ่งใช้เวลาบ่มเพาะ 3 ปีเศษ จึงออกมาเป็นรูปเป็นร่าง อ๋อง ธู,ทัน เมียง ฯลฯ แกนหลักชุดสร้างประวัตศาสตร์พาบ้านเกิดเมืองนอน เข้ารอบรองยู19 ชิงแชมป์เอเชีย 2014 จนนำธงชาติไปโบกสบัดฟุตบอลเยาวชนโลก 20 ปีที่นิวซีแลนด์ กลางปี 2015 แม้พัฒนาการในระดับเยาวชนของเมียนมา ภายใต้การดูแลทีมของ ซีเซ่ จะดีขึ้น แต่ทีมชุดใหญ่ยังคงเป็นรองเวียดนาม, ไทย และสุดท้ายก่อนที่ทีมไม่ผ่านเข้ารอบเอเชียน คัพ 2019 ทำให้โค้ชชาวเยอรมัน เลือกลาออก เพื่อเปิดทางให้  เอริค อับรามส์ ปธ.เทคนิคชาวเบลจีเจี้ยน ผู้อยู่เบื้องหลังการพลิกโฉมวงการฟุตบอลปีศาจแดงแห่งยุโรปเข้ามาดูโครงสร้างทีมแทน 6.ปาเลสไตน์ 6ชาติภัยสงครามเอเชีย พัฒนาลูกหนังเพื่อเวทีระดับโลก ชาติลูกหนังที่อาจจะไม่ใช่แถวหน้าเอเชีย แถมยังไม่มีแผ่นดินอยู่อาศัยถาวร และยังมีปัญหาสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้นกับอิสราเอล ปาเลสไตน์ ถือเป็นชนชาติที่ไม่มีอะไรน่าจดจำในวงการฟุตบอลเอเชีย ทว่าปัจจุบันอันดับโลกอยู่ที่ 99 ในอดีตปาเลสไตน์คือชาติสมัยเล่นที่มักจะโดนคู่แข่งในย่านอาหรับถล่มกระจุยกระจาย แต่ขอโทษทีปัจจุบันพวกเขาปรับเปลี่ยนไปจากเดิม นับตั้งแต่ปี 2014 พวกเขาจบด้วยการเป็นแชมป์เอเอฟซี ชาลเลนจ์ คัพ เวทีที่เอเอฟซีให้โอกาสชาติเกรดรองได้ประชันฝีเท้าเพื่อหาแชมป์ไปเล่นรอบสุดท้าเอเชียน คัพ 2015 ซึ่งแข้งจากเขตเวสต์แบงก์ ก้าวไปคว้าแชมป์ได้ แม้เอเชียน คัพ ที่ดินแดนจิงโจ้จะล้มเหลวแพ้รวด 3 เกม โดนยิงกระจาย แต่นั้นคือบทเรียนสำคัญในการกลับมาแก้ไข เอเชียน คัพ 2019 ปาเลสไตน์ตีตั๋วเข้ารอบสุดท้าย แต่การเป็นทีมรองบ่อนที่สามารถยันเสมอกับทีมจอมแสบของทวีปอย่างซีเรีย และ จอร์แดน นอกจากนี้สิ่งที่น่ากลัวสำหรับฟุตบอลปาเลสติเนียน นั้นคือเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชุดที่ถล่มไทยยับเยิน 5-1 ในรายการชิงแชมป์เอเชีย ซึ่งค่าเฉลี่ยนเด็กชุดนี้อยู่ที่ 20 ปี โดยทีมชุดนี้เก็บตัวฝึกซ้อมที่กาตาร์และยูเออี นั้นจึงทำให้พวกเขาไม่ต้องมาวิตกกังวลกับอุปสรรคเรื่องสงครามในแผ่นดินเกิดของตัวเอง ไม่แน่ว่าอีกไม่นานปาเลสไตน์ อาจประกาศให้โลกได้รู้ว่าพวกเขาไม่ได้มีเรื่องให้น่าจดจำแค่ข้อผิดพลาดแย่งชิงแผ่นดินอยู่อาศัยกับอิสราเอล แต่ฟุตบอลกำลังจะเป็นเรื่องใหม่ที่จะบอกกล่าวให้คนลูกหนังได้รับรู้เช่นกัน

เอ็มเร่

[email protected]

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline