logo-heading

ต้องบอกเลยว่าชั่วโมงนี้ ประเทศไทย ของพวกเรา กำลังโดนจับตาอย่างใกล้ชิด จากประเด็นที่โคตรละเอียดอ่อน หลังจากเรื่องค่าฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5)ที่ปกคลุมไปทั่วกรุงเทพมหานคร จนส่งผลถึงเรื่องการท่องเที่ยว ล่าสุด #boycottthailand กำลังสร้างชื่อให้กับดินแดน "สยาม" อีกครั้ง เพราะกลายเป็นปัญหาระดับชาติไปแล้ว

ด้วยเรื่อง #boycottthailand และ ตามมาด้วย #SaveHakeem ก็มีต้นตอมาจาก นายฮาคีม อาลี โมฮัมเม็ด อาลี อัลอาไรบี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน ถูกจับกุมในประเทศไทย ที่แค่เดินทางมาฮันนีมูน กับ แฟนสาว ด้วยหมายแดงของทาง บาห์เรน เรียกง่ายๆว่า "เป็นผู้ร้ายข้ามชาติ" พร้อมมีภาพใส่โซ่ตรวนขึ้นศาล โชว์ไปทั่วโลก แต่เรื่องราวความเป็นจริงมันซับซ้อนมากกว่านั้น เพราะ ฮาคีม ได้รับสถานะเป็นผู้ลี้ภัยจาก ออสเตรเลีย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ความผิดที่เขาไม่ได้ทำ กำลังส่งผลมาถึงประเทศไทย และ นี่คือความจริงที่จะต้องมาเล่าสู่กันฟัง

ทำไมทั่วโลกจับตา!ไทม์ไลน์ชีวิต ฮาคีม จากอดีตแข้งทีมชาติบาห์เรน สู่นักโทษโซ่ตรวนเมืองไทย

ทำไม ฮาคีม ถึงถูก บาห์เรน กล่าวหาว่าเป็นผู้ร้ายข้ามชาติ

ฮาคีม มีดีกรีเป็นอดีตเยาวชนทีมชาติบาห์เรน แต่เขาถูกตั้งข้อหาว่าได้ร่วมเคลื่อนไหว และ ทำลายทรัพย์สินราชการ ด้วยการเผาสถานีตำรวจ เมื่อปี 2555 เนื่องด้วยญาติพี่น้องของ ฮาคีม ตั้งตัวอยู่ในกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ แต่ความจริงแล้ว ฮาคีม ไม่ได้มีส่วนร่วม และ มีการบ่งบอกจากถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ว่าเขากำลังแข่งขันฟุตบอลอยู่ในต่างประเทศ แต่ ฮาคีม ก็ทำอะไรไม่ได้ เมื่อเขากลับมา บาห์เรน ก็อ้างว่าถูกซ้อมและทรมานอย่างหนักหน่วง โดยมีการขังคุกอยู่ 3 เดือน พร้อมโดนขู่ว่าจะเล่นงานจนไม่สามารถเตะฟุตบอลได้อีก ก่อนที่ ฮาคีม จะได้สิทธิ์ประกันตัวออกมาสู้คดี ซึ่งในระหว่างนั้น ฮาคีม ก็ออกไปแข่งขันที่ต่างประเทศตามเดิม แต่อาจด้วยเพราะไปขอสถานะเป็นผู้ลี้ภัยกับออสเตรเลีย และ มีประเด็นเรื่องขัดแย้งทางศาสนา ทำให้เขาโดนศาล บาห์เรน สั่งติดคุก 10 ปี จากนั้นจึงตัดสินใจไม่เดินทางกลับไปถิ่นบ้านเกิดอีกเลย และ นั่นเป็นที่มาด้วยคำตราหน้าว่า "ผู้ร้ายข้ามแดน"

หลังจาก ฮาคีม ถูกตราหน้าว่าเป็นผู้ร้ายข้ามชาติ เขาเดินทางไปที่ออสเตรเลีย

เมื่อ ฮาคีม ถูกศาลประเทศตัวเองสั่งจำคุก 10 ปี เขาจึงเดินทางไปที่ออสเตรเลีย เพื่อขอสถานะเป็นผู้ลี้ภัยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่ง ออสเตรเลีย ใช้เวลาตรวจสอบนานราวๆ 2-3 ปี เพื่อสืบหาหลักฐานกับข้อกล่าวหาที่ ฮาคีม ถูกระบุจากรัฐบาล บาห์เรน ว่าทำให้ทรัพย์สินของหลวงเสียหาย ไม่ใช่เรื่องจริง และ " ฮาคีม เป็นผู้บริสุทธิ์" เพราะข้อกล่าวหาที่บอกว่า ทำลายทรัพย์สินราชการและเข้าร่วมเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาล ช่วงเวลาดังกล่าว ฮาคีม กำลังแข่งขันฟุตบอลอยู่ที่ต่างประเทศ และ มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ จนกระทั่งในปี 2017 นายฮาคีม ได้รับสถานะเป็นผู้ลี้ภัยของ ออสเตรเลีย อย่างถูกต้อง และ ได้สิทธิ์พำนักถาวรในแดน "จิงโจ้"

ทำไมถึงมาโดนจับที่ประเทศไทย

หลังจากที่ ฮาคีม ได้สิทธิ์เป็นผู้ลี้ภัยอย่างถูกกฎหมาย นั้น เขาไม่เคยเดินทางออกจากประเทศออสเตรเลีย หรือ ไปที่ไหนเลย จนกระทั่งปลายปีก่อน ในวันที่ 27 พ.ย. เขาตัดสินใจชวนแฟนสาว พามาฮันนีมูน ที่ประเทศไทย โดยทาง ออสเตรเลีย ยืนยันว่า ไม่ต้องกังวลใดๆ สามารถเดินทางไปได้ทั่วโลก ยกเว้นประเทศบาห์เรน แต่หารู้ไม่ว่า บาห์เรน ได้จับตา ฮาคีม อย่างต่อเนื่อง และ ได้แจ้งไปยัง อินเตอร์โพล (องค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ) ถึงให้ประเทศสมาชิกทั่วโลก เพื่อให้ตามตัวมารับโทษในบาห์เรน จนเมื่อ ฮาคีม เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ แห่งประเทศไทย หมายแดงของ ฮาคีม ก็ทำงานทันที อินเตอร์โพล ได้แจ้งมายัง ตม. ไทย พร้อมกับจับกุมตัว ซึ่ง ฮาคีม ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า "ไม่รู้มาก่อนว่า ไทย ติดต่อกับ บาห์เรน" จึงตัดสินเดินทางมาที่ไทย ก่อนโดนจับตัวในที่สุด

ไทย ควรปล่อยตัวหรือไม่

เมื่อ ฮาคีม ถูกจับตัว อินเตอร์โพล ก็ได้รับแจ้งจาก ออสเตรเลีย ว่า ฮาคีม เป็นผู้ลี้ภัยอย่างถูกต้อง จับกุมไม่ได้ตามหลักสิทธิมนุษยชน อินเตอร์โพล จึงถอดหมายแดงในภายหลัง ซึ่งหากเกิดความผิดพลาดแบบนี้ ตามหลักเจ้าหน้าที่ของไทย ควรจะต้องปล่อยตัวหรือไม่ ? แต่สุดท้ายแล้ว บาห์เรน ขอให้ฝากขังเอาไว้ก่อน เพราะต้องการทำเอกสารขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ขณะที่ คุณ มาริส เพย์น รัฐมนตรีต่างประเทศของออสเตรเลีย ก็ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทางการไทยปล่อยตัว กลับสู่แดน "จิงโจ้" เพราะจากข้อบ่งชี้ที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้นั้น แสดงให้เห็นว่า ฮาคีม บริสุทธิ์ ไม่ได้มีความผิดใดๆ

แรงกดดันกำลังถาโถมเข้ามาที่ประเทศไทย กับโอกาสโดนตัดสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 รวมถึง โดนบอยค็อตต์ จากต่างประเทศ

จากการที่ ไทย ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะส่งตัว ฮาคีม กลับประเทศบาห์เรน หรือไม่ จึงได้ส่งไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ต่อให้มีหลักฐานเชื่อมโยงว่าไม่ได้ทำความผิด จึงมีหลายฝ่ายออกมาเรียกร้องให้ ไทย ส่งตัว ฮาคีม กลับสู่ประเทศออสเตรเลีย ไม่ว่าจะเป็น นายกรัฐมนตรีประเทศออสเตรเลีย ก็ส่งจดหมายมาหานายกรัฐมนตรีประเทศไทย ว่าต้องการให้ปล่อยตัว ฮาคีม ไปหาภรรยาที่ ออสเตรเลีย และ ไปเล่นฟุตบอลที่แดน "จิงโจ้" ตามเดิม ต่อมา รองผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียองค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ องค์กรสิทธิมนุษยชน ได้เตือน ไทย ว่า ถ้าหากส่งตัว ฮาคีม กลับสู่ประเทศบาห์เรน มีสิทธิ์อาจโดนคว่ำบาตรทั้ง 2 ประเทศ ในศึก ฟุตบอลโลก 2022 พร้อมจะส่งเรื่องไปถึง 3 สโมสรยักษ์ใหญ่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่าง ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล ให้กดดันเรื่องนี้ ว่าจะไม่มาทำการเตะปรีซีซั่น ถ้าหากส่งตัว ฮาคีม กลับ บาห์เรน

4 ก.พ. ศาลเบิกตัวไต่สวน ฮาคีม

จากประเด็นวันนี้ ทำให้ ฮาคีม กลายเป็นที่สนใจของผู้คนชาวไทย และ ทั่วโลกมากยิ่งขึ้น เมื่อ อดีตแข้งทีมชาติบาห์เรน ต้องสวมเสื้อในชุดนักโทษชาย พร้อมโซ่ตรวนที่ล่ามขาเอาไว้ โดยในช่วงที่เขาเดินผ่านหน้าสื่อมวลชน กำลังเป็นประโยคเด็ดที่ฟังแล้วทราบถึงความรู้สึกไปยังก้นลึกของหัวใจ "ได้โปรดบอกเขา อย่าส่งตัวผมกลับบาห์เรน" และ นั่นทำให้ แฮชแท็ก ที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลก นั่นคือ #boycottthailand และ #SaveHakeem ลุกลามไปมากยิ่งขึ้น ขณะที่การไต่สวนครั้งนี้ ได้มีตัวแทนจากสถานทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย, องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน และ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด

แน่นอนว่าตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่จำเลย ต้องยื่นคำคัดค้านคำร้องอัยการต่อศาล กับการถูกส่งตัวกลับ บาห์เรน และให้ยื่นหลักฐานความเป็นผู้บริสุทธิ์ ทั้งประเด็นเรื่องทำลายทรัพย์สินรัฐบาล, การเมืองเเละศาสนา ให้ทันภายในวันที่ 5 เม.ย. 2562 เเละนัดตรวจหลักฐาน ต่อไปในวันที่ 22 เม.ย. 2562

ซึ่งตรงนี้ทั่วโลกกำลังจับตามองอย่างมาก เพราะรัฐบาลออสเตรเลีย ก็ได้ยื่นคำขาดว่าต้องส่ง ฮาคีม กลับแดน "จิงโจ้" เท่านั้น เพราะสโมสรกึ่งอาชีพของเขาในเมืองเมลเบิร์น กำลังรอ ฮาคีม กลับไปสวมสตั๊ดช่วยทีมให้ได้อีกครั้ง

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline