logo-heading

ปลายเดือน ก.พ.นี้ ทีมชาติไทย ยู 22 มีคิวจะทำศึกชิงแชมป์อาเซียน ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งจะเป็นทัวร์นาเม้นทืทางการครั้งแรกของ อเล็กซานเดร กาม่า กุนซือคนใหม่ แน่นอนเป้าหมายของเราต้องเป็นแชมป์ แต่ดูจากสภาพการเตรียมทีม บอกเลยว่าคงไม่ง่าย

ในช่วงระหว่างวันที่ 17-26 ก.พ.62 ทีมชาติไทย รุ่น อายุไม่เกิน 22 ปี หรือทีมชาติไทย ชุด ยู 23 นั่นแหละ ทีมเดียวกัน ซึ่งมี อเล็กซานเดร กาม่า กุนซือชาวบราซิลคุมทัพ จะมีคิวลงแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน ที่กัมพูชา และนี่จะเป็นทัวร์นาเม้นท์ทางการทัวร์นาเม้นท์แรกของอดีตกุนซือเชียงราย ในการทำทีมชาติไทย ไม่นับเกมอุ่นเครื่องที่เมืองจีนช่วงปลายปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าการมาของ กาม่า ทำให้แฟนบอลมีความหวัง และมั่นใจว่าทีมชาติไทยชุดนี้จะต้องมีผลงานที่ยอดเยี่ยม เพราะได้กุนซือทีดีที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยลีกมาคุมทีม เช่นเดียวกับฟุตบอลิชงแชมป์อาเซียน ที่กำลังจะมาถึงนี้ ทุกคนก็คงคาดหวังว่าเราจะสามารถเป็นแชมป์ได้ ด้วยดีกรีที่เราเป็นแชมป์เก่าซีเกมส์เมื่อ 2 ปีก่อน และด้วยศักยภาพตัวผู้เล่นอะไรต่างๆ ทีมของ กาม่า! U-22 ชิงแชมป์อาเซียน จะเป็นแชมป์ ไม่ง่ายอย่างที่คิด มันควรจะเป็นเช่นนั้นครับ ถ้าทีมชาติไทยของเราฟูลทีม และได้ตัวผู้เล่นที่ดีที่สุด ที่ กาม่า เลือกมาเพื่อไปใช้ในรายการนี้ แต่ด้วยขุมกำลังที่มีอยู่ตอนนี้ หลังจากประกาศรายชื่อไป 38 คน มีนักเตะเข้ามาสู่ทีมเพียงแค่ 23 คนเท่านั้น หายไปเกินครึ่ง ซึ่งทั้งหมดนั้นขอถอนตัวเนื่องจากเป็นตัวหลักของสโมสรในศึกไทยลีก ที่จะเปิดฤดูกาลกันในช่วงเวลาเดียวกัน เรื่องนี้ไม่มีใครผิดครับ สโมสรที่เป็นเจ้าของนักเตะก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะไม่ปล่อยนักของตัวเองมาเล่นรายการนี้ เพราะมันไม่ใช่รายการของฟีฟ่า หรือรายการระดับเอเอฟซี นี่เป็นแค่การแข่งขันในระดับอาเซียน ซึ่งจะว่าไปก็ไม่ถือว่าเป็นทางการซะทีเดียว ก็คล้ายๆ กับซูซูกิ คัพ นั่นแหละครับ ที่สโมสรมีสิทธิ์จะไม่ปล่อยนักเตะไปเล่นให้ทีมชาติได้ ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้งาน คือถ้าโปรแกรมฟุตบอลไทยลีก 2019 มันมาเตะในช่วงเวลาเดียวกันนี้พอดี หรือบอลอาเซียน คัพ ไปเลือกเตะช่วงที่ตรงกับฟีฟ่าเดย์ ก็จะไม่มีปัญหา ผมเชื่อว่าทุกๆ สโมสรพร้อมให้ความร่วมมือปล่อยตัวนักเตะมาแน่นอน แต่นี่โปรแกรมมันชนกันเต็มๆ เราก็ต้องเข้าใจสโมสรด้วย ทั้งนี้และทั้งนั้น ทำให้ขุนพลช้างศึก ยู 22 ของเราในทัวร์นาเม้นท์นี้ จึงไม่ค่อยฟูลทีมเท่าไหร่ และนักเตะทั้งหมดที่ถูกปล่อยตัวมาก็คือบรรดาผู้เล่นที่ไม่ได้เป็นตัวหลักของสโมสร และอีกอย่างนักเตะชุดนี้ส่วนใหญ่ก็มีอายุเฉลี่ยนอยู่ที่ 19-20 ตามที่ กาม่า บอก เท่ากับว่าเราจะต้องแบกอายุถึง 2 ปี ไปแข่งขันรายการนี้ ซึ่งฟุตบอลในระดับนี้การแบกอายุมากๆ มีผลนะครับ กาม่า บอกอีกด้วยว่า ชาติอื่นๆ นั้นดูเหมือนจะเอานักเตะเต็มรุ่นกันมา ก็คือ 21-22 ปี ทำให้เราดูจะเป็นรองพอสมควร และกุนซือบราซิล ก็ถึงกับต้องออกตัวก่อนเลยว่า การจะไปเป็นแชมป์อาเซียน ครั้งนี้คงไม่ง่าย แต่ก็ทิ้งท้ายว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด มามองกันที่เรื่องตัวผู้เล่น เอาจริงๆ ผมคุ้นชื่อคุ้นหูอยู่ไม่กี่คน เราลองไปดูรายชื่อ 23 คนสุดท้ายของยู 22 กันอีกครั้ง แล้วเมื่อคุณเห็นรายชื่อแล้วลองบอกสิว่า รู้จักกี่คน ทีมของ กาม่า! U-22 ชิงแชมป์อาเซียน จะเป็นแชมป์ ไม่ง่ายอย่างที่คิด ผู้รักษาประตู 1.กรพัฒน์ นารีจันทร์ ขอนแก่น เอฟซี 2.แจ๊ค เคราซ์ สุโขทัย เอฟซี 3.กฤศน์วัต คงคต ชัยนาท ฮอร์นบิล เอฟซี 4.วรวุฒิ สุขุนนา ชลบุรี เอฟซี กองหลัง 5.กฤษฏา นนท์รัตน์ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 6.กิตติพงษ์ แสนสนิท เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 7.สัมพันธ์ เกษี ชลบุรี เอฟซี 8.กิตติธัช ประนิธิ ชลบุรี เอฟซี 9.มาร์โค บัลลินี่ ชัยนาท ฮอร์นบิล 10.ศฤงคาร พรมศุภะ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 11.พัชรพล อินทนี เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 12.ชาติชาย แสงดาว เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 13.ศรายุธ สมพิมพ์ พีทีที ระยอง เอฟซี กองกลาง 14.เจษฎากร ขาวงาม อาร์มี่ ยูไนเต็ด 15.หัสวรรษ นพเนตร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 16.ณัฐวุฒิ ชูติวัตร ชลบุรี เอฟซี 17.ธัญพิสิทธิ์ คุขะละโม อุบล ยูไนเต็ด 18.อนนต์ สมากร การท่าเรือ เอฟซี 19.เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ สมุทรปราการ ซิตี้ กองหน้า 20.สีหนาท สุทธิศักดิ์ อุดรธานี เอฟซี 21.สกุลชัย แสงโทโพธิ์ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 22.กรวิชญ์ ทะสา เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 23.ฤทธิเดช เพ็ญสวัสดิ์ ภูเก็ต ซิตี้ เอาตามตรงที่พอจะรู้จักและเคยเห็นเล่นอยู่ในไทยลีก ผู้รักษาประตูก็จะมี กรพัฒน์ นารีจันทร์ นายทวารบีจี ที่ตอนนี้ไปอยู่ขอยแก่น อีกคนรู้จักเพราะเป็นข่าวคือ แจ็ค เคราซ์ ลูกครึ่งเยอรมันจากสุโขทัย แต่ไม่เคยเห็นฟอร์ม กองหลังมีที่รู้จักก็ มาร์โก บัลลินี่,ศฤงคาร พรมศุภะ,ศรายุธ สมพิมพ์ กองกลางมี อนนต์ สมากร จากท่าเรือคนเดียวที่รู้จัก ส่วนกองหน้าก็คงต้องฝากความหวังไว้ที่ กรวิชญ์ ทะสา ที่เพิ่งไปเทสต์แข้งที่ญี่ปุ่นมาหมาดๆ กับเจฟ ยูไนเต็ด ทีมของ กาม่า! U-22 ชิงแชมป์อาเซียน จะเป็นแชมป์ ไม่ง่ายอย่างที่คิด ลองไปดูรายชื่อตัวหลักๆ ที่ไม่ได้มาร่วมทีม มีอย่าง นนท์ ม่วงงาม,เควิน ดีรมรัมย์,ชินภัทร์ ลีเอาะ,สุภโชค สารชาติ,วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ,สหรัฐ สนธิสวัสดิ์,รัตนากร ใหม่คามิ,ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา,ศุภชัย ใจเด็ด,สิทธิโชค ภาโส,ปรเมศย์ อาจวิไล โอ้โห!! ดูจากรายชื่อ ถ้าได้พวกนี้มา ยังไงก็แชมป์ บอกเลย คราวนี้ก็อยู่ที่ฝีมือของ กาม่า กับ บรรดานักเตะชุดนี้ว่าจะเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้มากน้อยแค่ไหน อย่างน้อยนักเตะเหล่านี้ก็ได้โอกาสที่จะพิสูจน์ฝีเท้าตัวเอง ว่าดีพอจะได้ไปลุยในทัวร์นาเม้นท์ อื่นๆ อีกไหม เพราะยังมีทั้ง ยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก ยังมีซีเกมส์ และ ยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้ายในปีหน้ารออยู่ ถ้าใครฟอร์มดีก็มีโอกาสติดทีมในทัวร์นาเม้นใหญ่ ก่อนจากกันไปเราไปดูโปรแกรมของทีมชาติไทย ในศึกชิงแชมป์อาเซียนกันหน่อยว่าจะไหวไหม ทีมชาติไทย อยู่สายเอ ร่วมกับ เวียดนาม, ติมอร์ เลสเต และ ฟิลิปปินส์ โปรแกรมรอบแรก มีดังนี้ 17 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา 18.30 น. พบ ติมอร์-เลสเต 19 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา15.30 น. พบ ฟิลิปปินส์ 21 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา 15.30 น. พบ เวียดนาม ดูจากโปรแกรมแค่รอบแรกก็เหนื่อยแล้ว ถ้าผ่านไปได้ถือว่าสุดยอดมากๆ ยังไงก็เอาใจช่วย และเชียร์เต็มที่ครับ ยังไงก็ทีมชาติไทยของเรา และข่าวดีก้คือมัวร์นาเม้นท์นี้มีถ่ายทอดสดกลับมาบ้านเราทุกนัดนะครับ ทางช่อง PPTV ก็ตามลุ้นตามเชียร์กันได้ แต่อย่างให้เข้าใจกันไว้ล่วงหน้าว่า รายการนี้การจะไปถึงแชมป์ มันคงยาก ดังนั้นอย่าคาดหวังกับทีมชาติไทยมากเกินไป เอาเป็นว่าเรารอดูวิธีการเล่นก็แล้วกัน ว่าจะโอเคไหม

แล้วสมมติว่าไม่ได้แชมป์ขึ้นมาจริงๆ เดี่ยวเราค่อยไปแก้ตัวในศึกซีเกมส์ ที่ฟิลิปปินส์ ช่วงปลายปีนี้กันอีกครั้งนึงก็แล้วกัน

มูซาชิ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline