logo-heading

ไทยลีก 2019 เปิดฉากออกสตาร์ทซีซั่นใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เผลอแปปเดียวบอลลีกสูงสุดเมืองไทย มีอายุ23 ปีแล้ว จากทีมองค์กรที่กระจุกฟาดแข้งในกรุงเทพฯ มาวันนี้บอลลีกแดนสยามไม่เหลือเค้าโครงเดิมอีกเลย กลายเป็นเวทีของทีมต่างจังหวัด การต่อสู้ฟาดฟันในสนาม เพื่อช่วงชิงพื้นที่แชมป์ รวมถึงกลุ่มที่สู้เพื่อความอยู่รอด

วีคแรกสู้กันอย่างบ้าระห่ำ และทีมงานขอบสนามได้เห็นหลายสโมสรยังคงใช้แข้งแกนหลักประสบการณ์สูงวาดรวดลายในสนามอยู่หลายราย เราจึงคัดสรร 7 แข้งเก๋าชาวไทยที่ไร้วี่แววเลิกเล่นมาให้อ่านกันตามอัธยาศัยครับพี่น้อง 1. สุเชาว์ นุชนุ่ม ความกระหายยังมี! 7 แข้งไทยจอมเก๋าที่ไร้วี่แววเลิกเล่นบอล อดีตนักมวยเดินสายในจังหวัดกาญจนบุรี สู่นักเตะล่าเงินรางวัลในละแวกภาคตะวันตก สู่แข้งเยาวชนทีโอที ทั้งที่ความเป็นจริง สุเชาว์ นุชนุ่ม และสุขสำราญ ปรางทอง คัดตัวไม่ผ่านในทีแรก ทว่าสมฤทธิ์ อ่อนสมจิตร ทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชของ "น้าก็อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ที่รั้งตัวไว้ไม่ยอมให้กลับบ้าน สุเชาว์ ได้รับการฝึกเบสิคจาก "โค้ชต้น" สมฤทธิ์ 2 ปีเต็ม และไปคัดตัวติดทีมชาติในยุคของชาญวิทย์ ผลชีวิน โดยเล่นในตำแหน่งปีกขวา จากเด็กหนุ่มโนเนม เขากลายเป็นดาวดังข้ามคืนทันที เมื่อกลับมาพร้อมเหรียญทองซีเกมส์ 2005 ที่ฟิลิปปินส์ แม้จะมีหน้าตาที่คมคายหล่อเหลา แต่ฝีเท้าที่ผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก ทำให้ "กบไซเบอร์" มีทีเด็ดทีขาดมากมาย ทั้งการครอบครองบอลที่เชื่องเท้า, ลูกตั้งเตะที่ทรงพลัง, ความฟิตที่วิ่งได้ไม่มีหมดตลอด 90 นาที ทำให้ยืนหยัดอยู่ในสนามได้สบายไร้ปัญหา และสวมบทบาทกัปตันทีมบุรีรัมย์ พร้อมเสื้อหมายเลข 8 ต่อไป แม้จะมีอายุอานามเตะหลัก 36 ปีเข้าไปแล้ว 2.สุรีย์ สุขะ ความกระหายยังมี! 7 แข้งไทยจอมเก๋าที่ไร้วี่แววเลิกเล่นบอล ฟูลแบ็คชั้นเชิงสูงจากสกลนคร ผู้ที่หอบเสื้อผ้ามาวิ่งตามหาความฝันที่เมืองชล ณ โรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา จากนั้นชะตาชีวิตและพรสวรรค์ก็นำพา "เปรม" ก้าวไปกระโดดไกลทั้งการออกไปเรียนบอลอาชีพที่สิงคโปร์ ติดทีมเยาวชนโลก 17 ปีไปนิวซีแลนด์ และขยับขึ้นมาเล่นทีมชุดใหญ่ของฉลามชลในระดับโปรลีก และเป็นแข้งคนสำคัญช่วยทีมแดนบูรพาเลื่อนชั้นสู่ไทยลีกในซีซั่น 2006 สุรีย์ ฉายแววความเจ๋งในเรื่องการเล่นเกมรับ และเติมเกมบุกได้อย่างเมามันส์ จนติดทีมชาติไทยชุดยู-23 และชุดใหญ่ในยุคของ"โค้ชหรั่ง" ชาญวิทย์ ผลชีวิน ดูแล้วกราฟชีวิตจะพุ่งไม่หยุดไปไกลถึงการเซ็นสัญญากับแมนฯซิตี้, กราฟฮอปเปอร์ ซูริค แม้ฝันในต่างแดนจะไม่เป็นจริงและเป็นรูปเป็นร่าง จนต้องซบซานกลับบ้านหลังเดิมชลบุรี ปักหลักประจำตำแหน่งที่คุ้นเคยกับทีมแดนบูรพา ก่อนจะโยกย้ายไปร่วมทีมบุรีรัมย์ 4 ปี กวาดแชมป์ถึง11 รายการ ตามด้วยการโยกย้ายไปร่วมทีมอุบล ยูเอ็มที และราชบุรี ปัจจุบันเดอะเปรม อายุเตะเลข 36 และกำลังเข้าใกล้วัย 37 กลางเดือนกรกฎาคมนี้ และไร้วี่แววที่จะหมดไฟในการเล่นฟุตบอลเหมือนเพื่อนร่วมรุ่นรายอื่นๆ 3.สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ความกระหายยังมี! 7 แข้งไทยจอมเก๋าที่ไร้วี่แววเลิกเล่นบอล เด็กหนุ่มจากสกลนคร ผู้พลาดหวังในการคัดตัวเข้าสู่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ก่อนที่จะเข้าสู่โควต้าโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา และก้าวไปติดทีมชาติไทย17 ปีไปชิงแชมป์โลกที่นิวซีแลนด์ ปี1999 และได้เล่นบอลไทยลีกหนแรกกับสโมสรพนักงานยาสูบ "บอล" เคยผิดพลาดสํามะเลเทเมา จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อปี2001 ส่งผลให้เขาหลุดออกจากทีมชุดเหรียญทองซีเกมส์ที่มาเลเซีย และนั้นทำให้เขาประพฤติปฏิบัติตัวใหม่ จนได้รับโอกาสติดทีมชาติอีกครั้งในปี 2003 จากนั้นก็ปักหลักอยู่โยงยาวนานมาเกือบ 15 ปีเต็ม ด้วยความเป็นคนนอบน้อมอัธยาศัยดี จึงทำให้โค้ชมากมายอยากร่วมงานกับ "สินทวีชัย" 2 ปีเต็มกับทีมหนีตกชั้นอย่างยาสูบ เขาตัดสินใจตอบรับคำชวนของ ชัชชัย พหลแพทย์ ในการย้ายไปเฝ้าเสาให้โอสถสภา แต่อยู่ได้แค่1 ปีเขาเลือกไปหาความท้าท้ายยังต่างแดนกับเปอร์ซิบ บังดุงในอินโดนีเซีย และหวนคืนบ้านหลังแรกในชีวิตฟุตบอลกับสโมสรชลบุรี ในปี 2007 พาทีมได้แชมป์ลีกครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตของเขา และตัดสินใจบอกลาอู่ข้าวอู่น้ำเดิมเพื่อไปร่วมทีมสุพรรณบุรี เมื่อปี 2016 และปักหลักพิทักษ์หลังบ้านให้ทีมขุนแผนมาเป็นเวลา 4 ปีเต็ม แม้จะไร้ความสำเร็จ แต่"เดอะบอล" กลายเป็นที่รักของผู้คนมากมายเหมือนเฉกเช่นเดิม ปัจจุบัน สินทวีชัย เฉียดเข้าใกล้วัย 37 ปี ทั้งที่หน้าตายังหนุ่มแน่น แต่ยังคงมีความกระหายในการลงเล่นฟุตบอลเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน 4.พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ ความกระหายยังมี! 7 แข้งไทยจอมเก๋าที่ไร้วี่แววเลิกเล่นบอล เด็กหนุ่มจากราชบุรี ผู้ที่เริ่มต้นชีวิตด้วยการเล่นรักบี้ให้แก่โรงเรียนภ.ป.ร. ราชวิทยาลัย ในสามพราน จ.นครปฐม และแอบฝึกปรือทักษะลูกหนังแบบลับๆเพียงเพราะอยากทำในสิ่งที่เขารัก และสิ่งที่จะทำให้ "เบนซ์" เข้าใกล้ความฝันคือการไปเป็นเด็กเก็บบอลให้สโมสรนครปฐม ในโปรลีก จนสุดท้ายเขาได้ถูกใส่ชื่อเป็นแข้งเมืองส้มโอ พร้อมทั้งศึกษาคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาที่มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อความไม่แน่นอนของสโมสรนครปฐม ส่งผลให้ พีรพงศ์ เดินหน้าเข้ากรุงเทพเพื่อคัดตัวกับสโมสรธนาคารกรุงไทย และมีชื่อได้เล่นไทยลีก 2008 และลงเตะบอลสโมสรเอเชีย หลังความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่เมื่อกรุงไทย ไม่สามารถส่งทีมลงแข่งบอลอาชีพได้อีกต่อไป และเป็นทางบีจี ที่สวมสิทธิ์มาลงแข่งแทน "เบนซ์ " ปักหลักคุมเกมในแดนกลางให้สโมสรดังย่านรังสิตคลอง 3 ยาวนาน 9 ปีครึ่ง แม้จะประสบความสำเร็จได้แชมป์แค่ครั้งเดียว คือเอฟเอ คัพ ปี 2014 ไม่ว่าสโมสรแห่งนี้จะมีการเปลี่ยนนักเตะหรือโค้ชบ่อยแค่ไหน แต่ชื่อของ พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ มักอยู่ในแผนของทีมอยู่เสมอ กระทั่งผลพ่วงการตกชั้นและอายุอานามของนักเตะที่กำลังเข้าวัย 35 ปี ทำให้ เขาและบีจี ถึงคราวแยกทางอย่างถาวร และสุดท้ายเป็นทางเชียงราย ยูไนเต็ด ดึงเขากลับไปช่วยประคองเกมในแดนกลางอีกคำรบในปี 2019 5.ชยพัทธ์ กิจพงษ์ศรีธาดา ความกระหายยังมี! 7 แข้งไทยจอมเก๋าที่ไร้วี่แววเลิกเล่นบอล "แบ็กซ้ายพลังเทอร์โบ" โคตรดาวรุ่งวงการลูกหนังเมื่อ 18 ปีก่อน เด็กหนุ่มผู้หาญกล้าเล่นบอลอาชีพตั้งแต่17 ปีกับสโมสรราชประชา ด้วยฝีเท้าที่ดีเกินกว่าจะเล่นบอลดิวิชั่น 1 จึงถูกแบงก์กรุงเทพดึงตัวไปร่วมทีม และฉายแววความเก่งกาจจนคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมไทยลีก ครั้งที่ 6 ปี 2544-45 และขยับไปติดทีมชาติไทย ชุด23 ปี และทีมชุดใหญ่ และถูกดึงไปร่วมทีมบีอีซี เทโรศาสน พร้อมกับได้รับการจับตามองว่าจะมาเป็นตัวตายตัวแทน ดุสิต เฉลิมแสน ชีวิตเหมือนจะรุ่งสุดขีด แต่ด้วยความเป็นคนไร้วินัย และมีสไตล์การเล่นบอลที่ใช้พละกำลัง อาการบาดเจ็บเริ่มถามหา "บอยเทอร์โบ" จนเขาท้อแท้และเตรียมตัวเตรียมใจที่จะหันหลังกับกีฬาฟุตบอลไปซิ่งมอเตอร์ไซค์ในย่านพระราม2 กระทั่งปี 2010 บอย ได้รับโอกาสสำคัญจากธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล ที่เวลานั้นทำทีมพัทยา ยูไนเต็ด เขาโชว์ฟอร์มได้เหนือความคาดหมาย จนถูกชลบุรีดึงตัวไปร่วมทีม และได้โอกาสหวนคืนทีมชาติอีกครั้ง จากนั้นเขาพเนจรไปเรื่อยทั้งบีอีซี เทโรศาสน, อุดรธานี และ ตราด เอฟซี ต้นสังกัดปัจจุบันที่ไว้วางใจให้เขาอยู่กับทีมต่อไปในปี 2019 ส่งผลให้แบ็กมากประสบการณ์รายนี้ ได้รีเทิร์นกลับมาร่วมงานกับพยงค์ ขุนเณร อีกคำรบ 6.พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ความกระหายยังมี! 7 แข้งไทยจอมเก๋าที่ไร้วี่แววเลิกเล่นบอล ชายหนุ่มจากยโสธร ผู้ที่เป็นดาวดังของโรงเรียนกีฬาสุพรรณบุรี จนก้าวไปติดทีมชาติไทย17 ปีที่นิวซีแลนด์ ตามด้วยทีมชาติชุด23 ปี และทีมชาติชุดใหญ่ และถูกดึงตัวมาเป็นมิดฟิลด์ตัวหลักของ "นกวายุภักษ์" ธนาคารกรุงไทย "แป๊ะ" คือกองกลางมันสมองครบเครื่องสมบูรณ์แบบในสายตาผู้เขียน เล่นเกมรุก ปั้นเกม ออกบอลสั้นยาว ลูกยิงไกลหรือฟรีคิกที่คมและอันตราย นอกจากนี้เขายังมีวิสัยทัศน์ในเรื่องคุมเกมตัดบอลคู่ต่อสู้ออกจากเท้าได้ที่ฉลาดเฉลียว เขาคือนักเตะในอุดมคติของโค้ชชาวไทย เพราะตำแหน่งการเล่นแบบนี้ค่อยๆตายไปจากสารบบฟุตบอลไทยเรื่อยๆ โปรไฟล์เก่าในไทยลีก 7 ปีกับธนาคารกรุงไทย พร้อม 2 แชมป์ไทยลีก ไปเล่นบอลเอเชีย 3 สมัย, ปี 5 ในสีเสื้อเมืองทอง พร้อม 3 แชมป์ไทยลีก เมื่อหมดความท้าท้ายในเมืองกรุง "เดอะแป๊ะ" ขึ้นเหนือไปช่วยเชียงราย ยูไนเต็ด ยาวนานถึง 3 ฤดูกาล ตามด้วยการย้ายมาเล่นให้บีอีซี เทโรศาสน และโยกไปเล่นให้เชียงใหม่ เอฟซี จนเลื่อนชั้นกลับสู่ไทยลีก ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านสมรภูมิลูกหนังมาอย่างโชกโชน พิชิตพงษ์ คือแข้งคนสำคัญที่คาร์ลอส เอดูอาร์โด้ ปาร์ไรร่า ขาดไม่ได้ในต่อสู้บนเวทีไทยลีก หนแรกของสโมสร แม้ว่าเขาจะมีอายุครบ 37 ปีในเดือนสิงหาคมนี้ 7.อดุลย์ หมื่นสมาน ความกระหายยังมี! 7 แข้งไทยจอมเก๋าที่ไร้วี่แววเลิกเล่นบอล แบ็กซ้ายแมวเก้าชีวิตจากสตูล ที่เรียกได้ว่าเป็นยอดนักเตะแม้อาจจะไม่ได้มีดีกรีทีมชาติประดับบารมีก็ตามที จากนักศึกษารั้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สู่แข้งไทยลีกยุคไร้คนดูกับสโมสรองค์การโทรศัพท์ ในยุคกุนซือสมองเพชรผู้ร่วงลับพงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ "บังดุล" เป็นนักกีฬาอาชีพไทยที่น่ายกย่อง ทั้งความฟิตที่เด็กรุ่นหลังต้องยกนิ้วยอมรับ, ความเป็นผู้นำที่แสดงออกชัดเจนในสนาม , การไล่บี้เข้าสกัดคู่ต่อสู้ที่ชาญฉลาด ไม่น่าเชื่อว่าแข้งรายนี้จะได้ชื่อว่าเป็นผู้เล่นที่ผ่านการเลื่อนชั้นจากลีกพระรองของประเทศสู่เวทีไทยลีก ถึง 6 ครั้ง จากทีโอที (องค์การโทรศัพท์) 2 ครั้ง, บีบีซียู (จุฬา-สินธนา) 2 ครั้ง, เพื่อนตำรวจ 1 ครั้ง และ พีที ประจวบ 1 ครั้ง วันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนแต่ดูเหมือนสภาพร่างกาย "บังดุล" จะฟิตเปรี๊ยะวิ่งได้ตลอด 90 นาทีโดยที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และปักหลักเป็นแบ็กซ้ายหมายเลข1 ให้กับพลพรรคต่อพิฆาต แม้เขาจะอายุไปเข้าไปถึง 37 ปีแล้วก็เถอะ

เอ็มเร่

[email protected]

   
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline