logo-heading

ทันทีที่รายชื่อนักเตะทีมชาติไทย 30 คนแรกในชุด ไชน่า คัพ ที่จะบกพลไปเตะกันที่ประเทศจีน ช่วงวันที่ 21-25 มี.ค.นี้ ได้ประกาศมาให้แฟนๆ ฟุตบอลไทยได้ทราบทั่วกัน

เชื่อว่าน่าจะเป็นนักเตะชุดที่แฟนๆ "เห็นต่าง" น้อยที่สุดเลยก็ว่าได้ แม้ว่าบางคนอาจจะยังไม่โดนใจ แต่ภาพรวมส่วนใหญ่เชื่อว่าน่าจะประทับใจมากกว่า เพราะแต่ละคนที่เลือกมาต่างมีผลงานที่ดีกับสโมสรทั้งนั้น วันนี้ทีมงาน "ขอบสนามบอลไทย" ขอพูดถึง 3 นักเตะที่ถูกใจพวกเราที่สุด และคู่ควรกับการติดทีมชาติในครั้งนี้มากที่สุด ซึ่งประกอบไปด้วย จิตปัญญา ทิสุด มิดฟิลด์จาก พีที ประจวบ , สุรชาติ สารีพิมพ์ ดาวยิงไทยลีก 2 จาก บีจีพียู และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ เบอร์ 10 คนใหม่ของ ชลบุรี เอฟซี   "ทีมชาติไทย" ที่พวกคุณ "คู่ควร" คนแรก "จิตปัญญา ทิสุด" ห้องเครื่องต่อพิฆาตจ่าฝูงร่วมไทยลีกในเวลานี้ ถ้าปีที่แล้ว "หน่อง คลาสสิค" ไม่เจ็บยาวทุกคนน่าจะได้เห็นฟอร์มของเขากับ ประจวบ แบบเต็มๆ มากกว่านี้ แต่ด้วยช่วงเวลาที่ฟอร์มกำลังดี เขาดันได้รับบาดเจ็บยาว ทำให้ชีวิตนักเตะที่กำลังรุ่งๆ ต้องจบลง และต้องไปเริ่มใหม่ตั้งแต่การทำกายภาพ จนมาถึงในปีนี้ที่ "หน่อง คลาสสิค" กลับมาฟิตเต็มร้อยอีกครั้ง และการเล่นตลอด 2 เกมแรกกับ พีที ประจวบ เขาถูกยกให้เป็นห้องเครื่องคนสำคัญที่ทีมจะขาดไม่ได้ไปแล้ว เพราะ มิดฟิลด์แบบนี้ที่ไปกับบอลได้ดี วางบอลได้แม่นๆ อีกทั้งยังสามารถพลิกเล่นเองได้ และมีลูกยิงไกลเป็นอาวุธเด็ด ทำให้ "จิตปัญญา" ถือว่าครบเครื่องเรื่องกองกลางอีกคนหนึ่งของไทยลีก   "ทีมชาติไทย" ที่พวกคุณ "คู่ควร" คนต่อมา สุรชาติ สารีพิมพ์ หรือ "กัปตันเก่ง" แห่ง บีจีพียู ทีมจ่าฝูงของไทยลีก 2 ในตอนนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วชื่อของ "สุรชาติ" หลายคนเรียกร้องให้เขากลับมาติดทีมชาติอีกครั้งตั้งแต่ยุคของ มิโลวาน ราเยวัช แล้ว เพราะด้วยเรื่องของผลงานอย่างหนึ่งที่เขายิงกับ บีจี อยู่ในระดับที่โอเคทุกๆ ปี นั่นหมายถึงว่าต่อให้เวลาผ่านไปแค่ไหน ยังไง แต่ "เก่ง บีจี" ก็แสดงให้เห็นว่าเขายังมีความคมอยู่เสมอ และที่สำคัญยามที่เราไร้กองหน้าทุกคนต่างพูดพร้อมกันว่าสุรชาติ สารีพิมพ์ คือคนที่คู่ควรกลับมายืนในจุดๆ นี้มากที่สุด   "ทีมชาติไทย" ที่พวกคุณ "คู่ควร" คนสุดท้าย เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ใครจะยังไงไม่รู้ แต่พวกเราเชื่อว่า "ก้อง" เป็นอีกหนึ่งคนที่คู่ควรกับการกลับมาติดทีมชาติไทยในครั้งนี้เป็นอย่างมาก เพราะจากผลงานที่โคตรดีตั้งแต่ไทยลีกเลกที่ 2 ของปีที่แล้ว จนกลับมาเป็น "ก้องคนดีคนเดิม" อีกครั้ง แม้ว่าจะต้องใช้เวลาร่วมๆ 2 ปี แต่ "ก้อง" ก็ไม่เคยท้อ แม้จะเคยฟอร์มแย่ที่สุด "ก้อง" ก็ไม่ท้อ และค่อยๆ กลับมาเล่นดี จนเคยเข้าไปเป็นตัวสำรองของทีมชาติยุค "ราเยวัช" มาแล้ว แต่ครั้งนี้เขามาในฐานะ 30 คนสุดท้าย ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะถ้าเรามีความคิดจะใช้เกมริมเส้นโจมตีคู่แข่ง ชื่อของ "ก้อง" ก็น่าจะอยู่ในลิสต์ 23 คนสุดท้ายด้วย
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline