logo-heading

ไทยลีกผ่านพ้น 7 เกมแรก สถานการณ์ในอันดับตารางก็เป็นไปด้วยตามความคาดหมายของผู้สันทัดกรณีลูกหนังในเมืองไทย ยกเว้นแค่ผลงานของเมืองทอง ที่ผลงานไม่เป็นอย่างที่หวัง หล่นไปอยู่โซนท้ายตาราง เมื่อผลงานไม่ดีก็ต้องเปลี่ยนโค้ชก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป

ไทยลีก ปี 2019 นับเป็นปีที่หลายสโมสรพยายามจะลองใช้งานผู้เล่นไทยเพิ่มมากขึ้น แม้จะมีคำว่าโควต้าอาเซียนเข้ามา หลายๆทีมตื่นตัวเลือกหยิบจับเด็กไทยออกมาใช้งานกันมากกว่าที่เป็นอยู่เป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่น้อย ผู้เขียนอยากนำเสนอแข้งไทยฟอร์มดีจากการออกสตาร์ท  7 เกมแรก ทว่าพวกเขาคือคนนอกสายตาของแฟนบอลและสื่อมวลชนสายลูกหนังไทย ไม่ชักช้าเสียเวลาไปอ่านกันเลยจ้า 1.อาทิตย์ บุตรจินดา 6แข้งไทยฟอร์มเจ๋งในลีกแต่ถูกมองข้าม กองหน้าจากจังหวัดกาฬสินธุ์ผู้ไปผ่านการคัดเลือกให้ไปฝึกฟุตบอลยังศูนย์ฝึกฟุตบอลแอสปาย อะคาเดมี่ ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เป็นเวลานาน 3 ปี ก่อนจะหวนคืนแผ่นดินสยามกับสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วยความที่อายุน้อยและประกอบกับทีมปราสาทสายฟ้าใช้บริการหัวหอกต่างชาติเป็นหลัก มันทำให้ "นุ๊ก" มีโอกาสสอดแทรกที่จะลงสนามยาก และสุดท้ายเขาต้องย้ายไปเล่นให้สุรินทร์ ซิตี้, พิจิตร เอฟซี, ชัยนาท ฮอร์นบิล ทีมพันธมิตรแทน หลังหมดพันธสัญญากับทีมอีสานใต้ จเด็จ มีลาภ เห็นจุดเด่นที่สูงใหญ่ของเขาจึงชักชวนให้มาอยู่ในแคมป์สิงห์เจ้าท่า ปี 2018 จากการเสริมทัพแข้งไทยและเทศเกรดเอของการท่าเรืออย่างบ้าคลั่ง เขาคือผู้เล่นไทยที่ดีกรีไม่ได้โด่งดังเท่าที่ควร และมักจะถูกหย่อนลงสนามช่วงท้ายๆเกมอยู่เป็นประจำ และทำได้ 2 ประตูกับอุบล ยูเอ็มที และชัยนาท เข้าสู่ปี 2019 "นุ๊ก" เริ่มมีบทบาทมากขึ้นกับการท่าเรือ เขาซ้อมหนักมากขึ้น จนเซอร์เด็จ เปิดโอกาสให้ลงเล่นในช่วงท้ายเกมและยิงประตูในปีนี้ไปแล้ว 3 เม็ด ในเกมพบชลบุรี, ประจวบ และตราด จนกลายที่เป็นถูกพูดถึงในหมู่แฟนบอลและผู้สื่อข่าวในฐานะซูปเปอร์ซับชั้นยอดของวงการลูกหนังไทยในชั่วโมงนี้ 2.กฤษณนน ศรีสุวรรณ 6แข้งไทยฟอร์มเจ๋งในลีกแต่ถูกมองข้าม กองกลางตัวรับโนเนมลูกหลานเมืองย่าโม ที่เดิมทีเป็นเพียงแค่นักบอลเดินสายล่าเงินรางวัลไม่ได้มีอะไรที่โดดเด่น ก่อนจะลองไปคัดตัวกับบางกอก เอฟซี เมื่อปี 2016 จนได้รับสัญญาเล่นบอลอาชีพเป็นครั้งแรก 9 เดือนในการสัมผัสบอลระดับดิวิชั่น 1 เปลี่ยนแปลงชีวิตเขาไปทันที และเป็นราชบุรี ที่ตัดหน้าทีมชั้นนำมากมายในการคว้าตัว กฤษณนน ไปร่วมทีม และได้ตัวปล่อยไอ้หนุ่มรายนี้ไปให้ประจวบ เป็นเวลา 2 ปี สไตล์การเล่นของหมอนี่คือมดงานไม่มีอะไรมาก รออ่านจังหวะ ค่อยวิ่งไล่ตัดเกมคู่ต่อสู้ ก่อนที่บอลจากคู่ต่อสู้จะไปถึงหน้าเขตโทษประจวบ ผลงานที่ยอดเยี่ยมของเขากับทีมต่อพิฆาต จึงทำให้ราชบุรี ไม่รอช้าดึงตัวกลับมาใช้งานเองในปี 2019 ไทยลีกปีที่ 2 ของกฤษณนน เขารับหน้าที่ตัดเกมคู่แข่งเหมือนเช่นเคย 7 เกมแรกในลีก เขาลงเล่นเป็นตัวจริงทุกนัดและเป็นฟันเฟื่องที่สำคัญของราชบุรีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 3.สุรวิช โลกาวิทย์ 6แข้งไทยฟอร์มเจ๋งในลีกแต่ถูกมองข้าม ฟูลแบ็คที่เล่นได้ทั้งฝั่งซ้ายและขวา เด็กปั้นจากระบบเยาวชนของสโมสรชลบุรียุคสุดท้าย ที่มาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา ก่อนจะไปเริ่มต้นกับศรีราชา และชลบุรี เอฟซี ด้วยความที่เป็นดาวรุ่งที่ไม่ค่อยมีจุดเด่นมากมายหนัก จนถูกขายออกจากทีมไปให้แก่พีทีที ระยอง 2 ปีเต็มกับทีมพลังเพลิงเขาคือตัวหลัก แต่เมื่อทีมไม่ได้เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก เขาจึงถูกปล่อยตัวไปให้เชียงใหม่ เอฟซี จากแบ็คที่ไร้จุดเด่น ดูเหมือนคาร์ลอส เอดูอาร์โด้ กุนซือทีมล้านนาได้ค้นพบความลงตัวให้แก่เติร์ก ด้วยระบบวิงแบ็คซ้ายทำให้เขาเติมเกมขึ้นลงได้ไม่มีหมด และกลับมายืนรักษาตำแหน่งเพื่อปิดช่องว่างระหว่างคู่เซ็นเตอร์และพื้นที่ริมเส้นที่เขาต้องรับผิดชอบ 6 เกมในไทยลีก 2019 ผู้เขียนรู้สึกว่าเชียงใหม่ เอฟซี คือสถานที่ที่เหมาะสมกับสุรวิช โลกาวิทย์ มากที่สุดในการเล่นบอลอาชีพ เขาลงเล่นโดยปราศจากความกดดัน ปล่อยความสามารถที่มีจากเท้าทั้ง 2 ข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนในเวลานี้เขาทำไปแล้ว 2 แอสซิสต์ในไทยลีก 4.ธีระพล เยาะเย้ย 6แข้งไทยฟอร์มเจ๋งในลีกแต่ถูกมองข้าม มิดฟิลด์ตัวคุมเกมชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ดาวรุ่งโนเนมที่ได้รับขัดเกลาฝีเท้าโดย"โค้ชต้น" สมฤทธิ์ อ่อนสมจิตร โค้ชบอลเด็กย่านนนทบุรี "เอี๊ยง" ได้รับการฝึกสอนเบสิคครบทุกอย่าง ตั้งแต่อายุ14 ปี จากนั้น 4 ปีต่อมาเขาถูกจับเล่นบอลดิวิชั่น 2 กับนนทบุรี เมื่อปี 2012 จากเด็กไร้ชื่อเสียงไม่ได้ผ่านสถาบันลูกหนังชื่อดังฝีเท้ากลับกลายเป็นว่า เขาถูกดึงตัวไปอยู่ในทีมบีซีซี ทีมน้องของบีอีซี เทโรศาสนในเวลานั้น ท่ามกลางเพื่อนร่วมทีมดีกรีทีมชาติมากมาย กระทั่งการเปลี่ยนแปลงของสโมสรกลางปี 2016 เขาขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของสโมสร ตามด้วยการถูกยืมตัวไปอยู่อาร์มี่ หลังติดเกณฑ์ทหาร 18 เดือนผ่านไป และเขารีเทิร์นสู่เทโรอีกคำรบ ทว่าด้วยโอกาสลงเล่นอันน้อยนิด "โค้ชอั่น" สุรพงษ์ คงเทพ โค้ชพัทยา หรือสมุทรปราการ ซิตี้ ชอบในฝีเท้าของหมอนี่จึงดึงตัวมาร่วมทีม ธีระพล เยาะเย้ย ยึดตัวหนักในพื้นที่แดนกลางให้สโมสรตั้งแต่ปลายปี 2018 จนมาถึงปี 2019 เขาคือตัวคุมจังหวะที่ทำให้พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี มีอิสระในการสร้างสรรค์เกมรุกของทัพสมุทรปราการอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย 7 เกมในไทยลีก 5.ธัชนนท์ นคราวงศ์ 6แข้งไทยฟอร์มเจ๋งในลีกแต่ถูกมองข้าม เด็กหนุ่มจากสงขลาที่มาเติบโตกับสถาบันสวนกุหลาบวิทยาลัยในเมืองกรุงฯ เขาคือพาร์ทเนอร์ในแดนหน้ากับสิทธิโชค กันหนู ในการไล่ล่าตาข่ายคู่แข่งในระดับบอลนักเรียน ด้วยความที่เป็นลูกชายอดีตปีกซ้ายทีมชาติไทยยุค 80 ธวัชชัย นคราวงศ์ เขาซึมซับดีเอ็นเอ ลูกหนังมาเต็มเปี่ยม ทว่าเส้นทางบอลลูกหนังไทยยุคใหม่ มันไม่ได้ง่ายดายอย่างที่เขาคิด จบม.6 เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาร์มี่ ก่อนจะย้ายไปการท่าเรือ ที่นั้นเขาทำได้แค่ซ้อมๆเท่านั้น ไร้โอกาส จึงถูกชลบุรี ยืมตัวไปใช้งาน แต่ก็เล่นบ้างไม่ได้เล่นบ้าง สุดท้ายต้องกลับท่าเรือ แต่สถานการณ์หนักกว่าเก่าไร้บทบาท จนกระทั่งช่วงต้นปี 2019 เขาได้รับการแจ้งจากเซอร์เด็จว่าไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีม "คอปเตอร์" ต้องวิ่งวุ่นในการหาสโมสรลงเล่น และไปลงเอยกับตราด เอฟซี ที่มีอ.พยงค์ ขุนเณร คุมทัพอยู่ ทว่าการมาอยู่กับทีมช้างขาวเจ้าเกาะ สโมสรที่ทุนไม่เยอะ แถมผู้เล่นส่วนใหญ่คือการหยิบจับนักเตะที่เป็นส่วนเกินของสโมสรเก่าๆมาร่วมตัวกัน ทำให้ ธัชนนท์ ได้โอกาสสัมผัสเกมไทยลีกอย่างต่อเนื่อง ในฐานะมิดฟิลด์คุมเกม โดยที่มีพิชิต ใจบุญ เป็นคนที่ค่อยเก็บกวาดให้ สร้างความมั่นใจให้ "คอปเตอร์" ฉายความเก่งกาจในเรื่องการผ่านบอลที่แม่นยำออกมาอยู่หลายครั้งในการออกสตาร์ท 5 เกมในไทยลีกซีซั่นนี้ 6.พีระพงษ์ เรือนนินทร์ 6แข้งไทยฟอร์มเจ๋งในลีกแต่ถูกมองข้าม นายทวารจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ ผู้ที่บ้านมีพร้อมทุกอย่าง แต่ใจของเขาเลือกที่จะเดินทางไปกับการป้องกันหน้าปากประตู "เอิร์น" ได้รับการฝึกฝนจากนิพนธ์ มาลานนท์ โค้ชผู้รักษาประตูน้ำดีของเมืองไทย ทำให้เขามีเบสิคการเป็นประตูที่ดีติดตัวมาด้วย แต่เส้นทางมันก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาเป็นสำรองแล้วสำรองเล่า ทั้งกับบางกอก เอฟซี, นครราชสีมา เอฟซี, อุบล ยูเอ็มที จนกระทั่งปี 2019 พีระพงษ์ ถูกดึงไปร่วมทีมพีทีที ระยอง ทั้งที่เดิมทีเขาถูกวางไว้เป็นประตูมือ 2 ทดแทน ภัทร ปิยภัทร์กิติ แต่ด้วยความพ่ายแพ้ 2 เกมแรกในลีก "โค้ชโจ" ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น ตัดสินใจลองให้โอกาสเด็กหนุ่มรายนี้ดูในเกมที่ชนะสมุทรปราการ 2-1 ตามด้วยการเซฟมือเป็นระวิงพาทีมบุกขโมย1แต้มออกจากการท่าเรือ, ตามด้วยการป้องกันหน้าปากประตูในเกมพบชัยนาท คว้า 3 แต้มกลับบ้านอีกครั้ง เรียกว่าไอ้หนุ่มรายนี้แม่งแจ้งเกิดขึ้นในช่วงเวลาแค่เดือนเศษๆเท่านั้น 4 เกมที่ลงสนาม เขาเสียไปเพียงแค่3 ประตูเท่านั้น จุดเด่นที่ทำให้เขาดูมีความมั่นใจคือการกล้าสั่งเกมแผงหลังทีมตัวเองที่เป็นคนที่อาวุโสกว่า ผิดกับประตูดาวรุ่งเมืองไทยที่ยังติดนิสัยเกรงใจ

เอ็มเร่

[email protected]

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline