logo-heading

สกอร์ 7-5 ที่ชลบุรี สเตเดียม กลายเป็นประเด็นฮอตจาก “ไทยลีก” สัปดาห์ที่ผ่านมา นี่คือสถิติใหม่การยิงประตูสกอร์รวมกันนัดเดียวมากที่สุดในประวัติศาสตร์ลีกสูงสุดเมืองไทย

แต่ 7 ประตูที่ ชลบุรี ชนะ เชียงใหม่ มีอีกประเด็นที่น่าสนใจในลูกยิงสุดท้ายของเกม เมื่อ “ย้า” สิทธิโชค ภาโส หัวหอกวัย 20 ปีสามารถยิงประตูแรกในการเล่นฟุตบอลอาชีพได้เสียที หลายๆ คนอาจรู้สึกเฉยๆ แต่ถ้าใครเคยติดตามเรื่องราวของ “ย้า” มาต้องบอกว่าน่าสนใจ เพราะนี่คืออดีตดาวรุ่งที่ไม่ได้ถูกจับตามองแค่วงการฟุตบอลไทย ดาวรุ่ง (ชลบุรี) หลงทาง  !!! เด็กปั้นของ “ชลบุรี อคาเดมี” รายนี้ฉายแววเจิดจรัสตั้งแต่หัวนมเริ่มแตกพาน  กระทั่งก้าวสู่ระดับดีกรีเยาวชนทีมชาติไทยมาทุกชุด สื่อดังอังกฤษ “เดอะการ์เดียน” เคยเลือก “ย้า” เป็น 1 ใน 60 นักเตะดาวรุ่งที่น่าจับตามองจากทั่วโลกมาแล้ว รวมถึงCalciomercato” เว็บไซต์อิตาลีเคยลงบทความและยกให้ “ย้า” เป็น 1 ใน 5 ดาวรุ่งของเอเชียในสมัยที่ ชลบุรี ปล่อยตัวให้ “คาโงชิมา ยูไนเต็ด” ทีมใน “เจลีก 3” ยืมใช้งาน แต่โอกาสทองที่ได้ไปล่าฝันบนเส้นทางนักเตะอาชีพที่ญี่ปุ่นของ “ย้า” ในครั้งนั้นดูจะไม่ได้ผลที่น่าพอใจนัก ด้วยวัยละอ่อนที่ต้องไปใช้ชีวิตในต่างแดนทำให้มีข่าวออกมาเป็นระยะๆว่า “ย้า” อยากกลับบ้าน ขณะที่ผลงานในสนามไม่ค่อยเป็นที่ปรากฎเท่าไร กระทั่งสุดท้ายเมื่อจบครบฤดูกาล แม้หลายๆคนจะพยายามทั้งผลักและดันให้ “สู้ต่อ” แต่สุดท้าย “ย้า” เลือกกลับเมืองไทย   ดาวรุ่ง (ชลบุรี) หลงทาง  !!! การตัดสินใจหนนั้นทำให้หลายคนเริ่่มมองว่า “ทัศนคติ” ของ “ย้า” ยังไม่ได้ เพราะหลายคนต้องการโอกาสไปล่าฝันที่ญี่ปุ่น แต่เขาดันเลือกปฏิเสธ !!! หลังจากนั้นชีวิตของ “ย้า” เหมือน “ขาลง” แม้จะยังได้รับโอกาสในระดับเยาวชนทีมชาติ แต่ผลงานไม่โดดเด่น รูปร่างอวบอ้วน อีกทั้งมีข่าวชีวิตนอกสนามพอสมควร ช่วงเวลานั้นใครหลายคนมองว่า “ย้า” คงไม่กลับมาสู่เส้นทางที่ควรจะเป็นอีกแล้ว แต่ผู้ใหญ่ของชลบุรีไม่ได้คิดแบบนั้น คำว่า “โอกาส” ยังมีออกมาจาก “ห้องเย็น” เสมอ !!! ดาวรุ่ง (ชลบุรี) หลงทาง  !!! กระทั่งเกมนัดล่าสุด “ย้า” สามารถยิงประตูแรกได้แล้ว แม้ไม่ใช่ฟอร์มที่หวือหวา แต่นี่อาจเป็น “จุดเปลี่ยน” ให้กลับมาเป็นดาวรุ่งที่น่าจับตามองอีกครั้ง จริงๆแล้วไม่ใช่แค่ “ย้า” แต่ดาวรุ่งของ “ฉลามชล” หลายคนถูกจับตามองอยู่ตลอด ทั้งที่มองว่า “ต้องดี” หรือไม่ก็คอยดูว่าจะ “ล้มเหลว” ตอนไหน ผลงานของ ชลบุรี ในฤดูกาลนี้ยิ่งทำให้เป็นประเด็น เพราะหลังพักดาวรุ่งหลายคนเป็นสำรอง ผลงานกลับดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ดีผู้บริหารของ ชลบุรี ยังคงยึดมึนในแนวทางปั้นดาวรุ่งต่อไปเหมือนเดิม แต่มุมมองของ “คนทำ” กับ “คนดู” ไม่เหมือนกัน แฟนบอลอาจคาดหวังว่าการปั้นเด็กแต่ละรุ่นต้องได้ผลผลิตคุณภาพมากมายหลายคน แต่คนที่ลงมือทำตรงนี้มาเกือบ 30 ปีมองต่างออกไป ผู้บริหารชลบุรีมองว่าแต่ละรุ่นได้ของดีระดับ “เกรดเอ +” แค่ 1-2 ถือว่าโอเคแล้ว ทุกวันนี้ “ฉลามชล” ถูกวิพากษ์เรื่องการสร้างเยาวชนมากมาย อาจเพราะเป็น “จุดขาย” แต่เมื่อผลงานยังไม่เป็นที่พอใจจึงถูกวิจารณ์หนัก แต่เท่าที่เห็น ชลบุรี ยังคงเจตนารมย์เดิมและไม่ได้คิดว่าเดินหลงทาง  สร้างทีมอคาเดมีไล่รุ่นกันแบบต่อเนื่อง ตระเวณแข่งทั้งในและต่างประเทศเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะการส่งทีมไปหาประสบการณ์ต่างประเทศนี่ต้องบอกว่าเยอะมากๆ เผลอๆไปแข่งมากกว่าเยาวชนทีมชาติด้วยซ้ำ เดี๋ยวไปๆ ล่าสุดเห็นว่าไปญี่ปุ่นมาอีกแล้ว ดาวรุ่ง (ชลบุรี) หลงทาง  !!! ดังนั้นนักเตะดาวรุ่งของ “ฉลามชล” จึงถือว่ามีประสบการณ์ไม่น้อย ทุกคนถูกบ่มเพาะมาตั้งแต่วัยที่ภาษาการอบรมโค้ชเรียกว่า ‘Golden Age’ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นสำหรับเด็กไทยคือช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เมื่อถึงวัยรุ่นมักเจอทางแยก ทางซ้ายไปบ้านสาว ทางขวาไปร้านสุรา อยู่ที่ว่าใครจะเดินตรงต่อไป หรือเลือกเลี้ยวซ้าย-ขวา ดาวรุ่งไทยมักจบเส้นทางกันตรงนี้ บางคนโชคดีแค่เลี้ยวผิดแต่กลับมาใหม่ได้ก็โชคดีไป แต่บางรายเลี้ยวผิดแล้วไปลับไม่กลับมา !!! ทุกวันนี้ฟุตบอลไทยให้รายได้งดงาม เดือนละหลายหมื่นหรือหลักแสน นักเตะรุ่นพี่เคยสอนน้องๆเสมอถึงนิยามคำว่า “หมาล่าเนื้อ” ตัวอย่างนักเตะดาวรุ่งที่ล้มเหลวก่อนเวลาอันควรและทิ้งโอกาสดีๆไปมีมากมาย ดังนั้นต้องท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจ “อย่าเดินหลงทาง” เพราะโอกาสไม่ได้มีบ่อยๆนะไอ้น้อง  

“บับเบิ้ล”

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline