logo-heading

ถ้าจะบอกว่าทีมไหนฟอร์มร้อนแรงที่สุดในไทยลีกเวลานี้ คงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือ เอฟซี ที่ล่าสุดขึ้นนำจ่าฝูง และฟอร์มก็กำลังเข้าฝัก ถ้าหากจะคิดถึงแชมป์ ปีนี้คงเหมาะที่สุดแล้ว

ศึกไทยลีก 2019 เพิ่งจะผ่านมา 8 นัด หรือ 1 ใน 4 ของฤดูกาลเท่านั้น มันคงจะเร็วเกินไป ถ้าเราจะสรุปว่าทีมไหนจะเป็นแชมป์หรือตกชั้น แต่กระนั้นมันก็พอจะมองได้อยู่เหมือนกันว่าทีมไหนดีพอมีโอกาสจะลุ้นแชมป์ ถึงตอนนี้ทีมที่นำจ่าฝูงอยู่ก็คือลูกทีมของ "มาดามแป้ง" และเซอร์เด็จ อย่าง "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือ เอฟซี ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาออกสตาร์ทได้ดีและนำเป็นจ่าฝูงแบบนี้ ในอดีตก็เคยทำได้ แต่สุดท้ายก็ยังไปไม่ถึงฝันกับคำว่าแชมป์อยู่ดี แต่กับฤดูกาลนี้ ผมไม่รู้ว่าสุดท้ายปลายทางแล้วแชมป์ไทยลีกจะมีชื่อว่า "การท่าเรือ เอฟซี" หรือไม่ แต่ผมมั่นใจอย่างหนึ่งว่า ทีมดังย่านครองเตยจะได้ลุ้นแชมป์ยาวๆ และไม่จบด้วยแชมป์ก็คงเป็นรองแชมป์ ไม่ที่ 1 ก็ที่ 2 แน่นอน ผมเชื่ออย่างนั้น ถามว่าอะไรทำให้ผมมั่นใจแบบนั้น อย่างแรกเลยก็คือฟอร์มการเล่นของทีมสิงห์เจ้าท่าที่ผ่านมา บวกกับองค์ประกอบอื่นๆ ซึ่งเดี๋ยวจะเหลาให้ฟังต่อไปจากนี้ ผลงาน 8 เกมที่ผ่านมาของทีมการท่าเรือ พวกเขาชนะ 5 เสมอ 2 แพ้ 1 เก็บได้ 17 คะแนน นำรองจ่าฝูงอย่างบุรีรัมย์ และพีที ประจวบ อยู่ 4 คะแนน แต่แชมป์เก่าเซราะเล่นน้อยกว่า 1 นัด คืออย่างน้อยก็ยังนำอยู่ 1 แต้มถ้าบุรีรัมย์เก็บสามแต้มนัดตกค้างได้ พูดถึงผลงานของทีมสิงห์เจ้าท่า ในเวลานี้ต้องบอกว่าร้อนแรงสุดๆ โดย 3 นัดหลังชนะรวด ยิงได้ถึง 11 ประตู เสียไปแค่ 2 ประตูเท่านั้น โดยเกมเดียวที่ปราชัยคือการบุกไปโดนค้างคาวไฟ เปิดบ้านชนะไป 3-1 สิ่งที่สิงห์เจ้าท่า มีเหนือทีมอื่นในเวลานี้ ก็คือเกมรุกอันดุดัน ยิงแต่ละเกม 2-3 ลูก บางเกมก็ 4-5 ลูก แถมส่วนใหญ่เป้นนักเตะไทยด้วยที่ยิงได้ ทำให้ตอนนี้ลูกทีมของ "เซอร์เด็จ" เป็นทีมที่มีนักเตะยิงรวมกันมากที่สุดถึง 11 ประตู โดย 3 เกมล่าสุดซัดไป 8 ประตู ทำให้จ่อจะคว้าเงินล้านสำหรับอัดฉีดพิเศษจากสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่มีนักเตะไทยยิงเยอะสุดงวดที่ 2 นัดที่ 6-10 นี่ยังเหลืออีกตั้ง 2 เกม น่าจะทะลุ 10 ประตูแน่นอน นอกจากเกมรุกจะยอดเยี่ยมแล้ว เกมรับก็ไม่ถือว่าขี้เหร่ ซึ่งพวกเขามีนายทวาร 3 คน ที่พร้อมจะก้าวขึ้นมาเป้นมือหนึ่งได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น รัตนัย ส่องแสงจันทร์, วรวุฒิ ศรีสุภา และ วัชระ บัวทอง ที่ช่วงหลังยึดตำแหน่งตัวจริงแล้วก็ทำได้ดีมากๆ พูดถึงขุมกำลัง ซีซั่นนี้ได้นักเตะอย่าง โก ซุล กิ กับ สุมัญญา ปุริสาย เข้ามาเติมเต็มในแผงกลางทำให้แน่นปึ๊ก มีเกมรุกที่หลากหลายขึ้น แถมตรงกลางก็ครองบอลได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา ถ้าจะบอกว่ามีอะไรที่การท่าเรือ ยังต้องปรับปรุงให้ดีขึ้นก็คือเรื่องของการเล่นเป็นทีมเยือน ต้องแน่นอนให้เหมือนกับตอนเล่นในบ้าน อย่างน้อยต้องพยายามมีแต้มให้ได้ทุกเกม ส่วนเกมรุกทุกอย่างดีหมด ยกเว้นหน้าเป้าอย่าง ดราแกน บอสโควิช ที่ยังขาดความแน่นอน และไม่คมเหมือนแต่ก่อน ถ้าสามารถเรียกฟอร์มเพชฌฆาตของดาวยิงมอนเตเนโกร กลับมาได้ ทีมสิงห์เจ้าท่า จะน่ากลัวมากกว่านี้เป้นสองเท่า แต่อย่างไรก็ดี เรื่องของขุมกำลังปีนี้ถือว่ามีนักเตะให้เลือกใช้อย่างเต้มพิกัด แม้ว่าช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลจะเสียกำลังหลักอย่าง รัตนัย, โรเชล่า และ นูรูล ไป แต่ก็มีตัวทดแทนได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะชั่วโมงนี้นักเตะที่ฟอร์มพีคสุดๆ ก็คือ บดินทร์ ผาลา ที่ผลงานโดดเด่นมากๆ เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง สุมัญญา, ปกรณ์ และ นิติพงษ์ ชั่วโมงนี้ก็เข้าฝักเช่นกัน แน่นอนว่าเป้าหมายของทีมการท่าเรือ ในทุกๆ ฤดูกาลพวกเขาก็หวังถึงแชมป์ และพื้นที่ไปเตะถ้วยเอเชีย แต่ก็อกหักมาทุกปี แต่ผมว่าปีนี้พวกเขามาถูกทางแล้ว และมีโอกาสมากๆ เรื่องของการคว้าแชมป์ ต้องบอกเลยว่า ปีนี้เป็นโอกาสดีสุดๆ จะว่าไปแล้วถึงตอนนี้คงมีคู่แข่งเพียงทีมเดียวที่จะเบียดลุ้นแชมป์ก็คือแชมป์เก่าบุรีรัมย์ ที่ยังประมาทไม่ได้ นอกนั้นผมมองว่ายังไม่ดีพอ ทั้งรองแชมป์เก่าอย่างทรู แบงค็อก ที่ปีนี้ผลงานไม่เปี้ยงเหมือนที่ผ่านมา ผมว่าลุ้นแชมป์ยาก ทีมอย่างเอสซีจี เมืองทองฯ ไม่ต้องพูดถึงฟอร์มแบบนี้ถึงกลับมาได้ ก็คงไม่ถึงขั้นมาลุ้นแชมป์ ส่วนทีมม้ามืดอย่างพีที ประจวบ พอสุดท้ายแล้วก็คงจะได้แค่ลุ้นท็อปทรี หรือท็อปไฟว์ นอกนั้นผมมองว่าไม่มีทีมไหนเลยที่จะมาเป้นคุ่ต่อกรณ์ของทีมเจ้าท่า ที่จะบอกก็คือปีนี้การลุ้นแชมป์ไทยลีก คงเป็นการแย่งชิงกันระหว่างบุรีรัมย์ กับการท่าเรือ เท่านั้น (ความคิดเห้นส่วนตัว) และจะว่าไปผลงานของทีมเซราะกราว ก็ไม่ได้น่ากลัวเหมือนกับทุกๆ ฤดูกาลที่ผ่านมา และถ้ามาเจอกันชั่วโมงนี้ ผมว่าการท่าเรือ มีโอกาสเอาชนะได้

ดังนั้นหากทีมการท่าเรือ เอฟซี คิดที่ยากจะเป็นแชมป์ไทยลีกแล้วละก็ ปีนี้มันเป้นโอกาสดีที่สุดแล้ว ที่พวกคุณจะต้องไขว้คว้ามันมาให้ได้ ไม่เช่นนั้นคงต้องรอไปอีกหลายปี

 

มูซาชิ

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline