เมื่อไม่กี่วันก่อนมีภาพ ดัสกร ทองเหลา อดีตกัปตันทีมชาติไทยไปส่ง คุนิเอะ คิทาโมโตะ ตำนานนักเตะ วิสเซล โกเบ เดินทางกลับญี่ปุ่นหลังถูกเบี้ยวค่าจ้างจากทีม “สีหมอก” !!!
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำที่สร้างความอับอายให้วงการฟุตบอลไทยจากผู้บริหารของทีม “สีหมอก” ที่เพิ่งเข้ามาทำทีมเพื่อส่งแข่งขันใน “ไทยลีก 3” ฤดูกาลนี้ “คูนิเอะ” เป็นนักเตะตำนานของ วิสเซล โกเบ ที่ลงเล่นให้สโมสรเดียวเป็นเวลากว่า 19 ปี ก่อนตัดสินใจมาค้าแข้งที่เมืองไทยกับ “สีหมอก” แต่การย้ายทีมครั้งแรกในชีวิตของปราการหลังจอมเก๋าวัย 37 ปีกลับต้องเจอฝันร้าย เมื่อ “สีหมอก” ค้างค่าจ้าง ไม่จ่ายเงินค่าเหนื่อยให้นักเตะ จนกระทั่งถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้ร่วมแข่งขัน !!!
นักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ทีมไม่ต่ำกว่า 30 คนต้องตกงานแบบเคว้งกลางทาง !!!
เงินเก่ายังไม่ได้ งานใหม่ก็ยังทำไม่ได้ เพราะ “ไทยลีก” เปิดฤดูกาลไปหมดแล้ว กว่าจะย้ายทีมได้อีกทีต้องรอ “เลกสอง” ช่วงมิถุนายนนู้นเลย นักเตะคนไหนที่พอมีเหลืออาจไม่ลำบาก แต่คนที่ไม่พอหรือกำลังสร้างชีวิตล่ะทำยังไง การไม่มีรายได้เข้ามาหลายๆเดือนแบบนี้พวกเขาจะใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างไรนี่คือสิ่งที่ผู้บริหารทีม “สีหมอก” ได้ก่อกรรมทำเวรเอาไว้กับชีวิตคน !!!
สถานการณ์ล่าสุดจนถึงตรงนี้คงเป็นที่แน่นอนแล้วว่าผู้บริหาร “สีหมอก” ไม่มีความสามารถที่จะหาเงินมาจ่ายหนี้นักฟุตบอล จากที่เคยโม้เอาไว้ตอนแรกที่เข้ามาทำทีมแบบขายฝันแก่ทุกคนว่ามีนายทุนต่างชาติอยากทำทีม เป้าหมายคือเลื่อนชั้นทุกปีจนถึง “ไทยลีก” ที่สุดแล้วคือ “โกหกทั้งเพ !!!” ข้อมูลจากนักฟุตบอลยืนยันว่าตั้งแต่เริ่มต้นสัญญาไม่เคยได้รับค่าเหนื่อยแม้แต่บาทเดียว รวมเบ็ดเสร็จเป็นเวลา 5 เดือนแล้ว หนี้รวมทั้งหมดของทุกคนอยู่ที่ราวๆ “10 ล้านบาท” ช่วงเริ่มต้นฤดูกาลอาจมีการควักจ่ายบ้างนิดหน่อยเพื่อให้ทีมทำการแข่งขันไปได้ แต่แค่ไม่นานเริ่มเบี้ยว ติดค้างนู้น นี่ นั่น ไปๆ มาๆ นักเตะตัวเก๋าต้องลงขันกันเพื่อให้ทีมเดินทางไปแข่งขันตามโปรแกรม ทั้งค่าเดินทาง ค่าข้าว ฯลฯ พวกพี่ๆต้องจ่ายเพื่อให้ทีมได้แข่งก่อน ไม่งั้นทุกอย่างจะล่ม

“ไทยลีก” ไม่มีปัญหาแน่เพราะได้เงินสนับสนุน 20 ล้านบาท แต่ลีกอื่นลดหลั่นไป “ไทยลีก 2” ได้ 3 ล้านบาทพอไหว แต่ “ไทยลีก 3” และ “ไทยลีก 4” แค่ 1 ล้านบาทจะพอเหรอ ?
ที่สำคัญแค่ทุกวันนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แบ่งการจ่ายเงินสนับสนุนทีมเป็นงวดๆ งวดสุดท้ายรอจ่ายหลังจบฤดูกาลเผื่อกันไว้เคลียร์กรณีทีมค้างจ่ายนักเตะยังมีคนด่ากันขรม !!! ดังนั้นแนวทางในเรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่ต้องคิดให้ถ้วนถี่ว่าจะทำอย่างไร แน่นอนว่าคงให้ถูกใจทุกทีมคงไม่ได้ แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยคงต้องมีปัญหาเกิดขึ้นอีกบ่อยหน สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องนึกถึงคือความน่าเชื่อถือของ “ไทยลีก” ขอสนับสนุนให้ใช้ “ยาแรง” เสียที วงการฟุตบอลไทยจะได้หมดเวรหมดกรรมกับเรื่องทำนองนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ต้องมีมาตราการป้องกันและแก้ปัญหา ไม่ใช่เอาแต่ “ตัดปัญหา” อย่างกรณี “สีหมอก” ก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าตัดสิทธิ์ทีมไม่ให้ร่วมการแข่งขัน แต่นักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ทีมที่ต้องตกงานไม่เห็นมีแผนเยียวยาพวกเขาอย่างไร การต่อสู้ทางกฎหมายเพื่อเรียกร้องความเสียหายก็ต้องทำกันเอง กรณี “สีหมอก” จะเป็นเหยื่อรายสุดท้ายหรือแค่รายล่าสุดที่มีปัญหาเรื่องเงินๆทองๆยังไม่มีใครตอบได้ แต่กล้าฟันธงได้เลยว่าถ้ายังไม่มีมาตรการที่ดีกว่าเดิม...ปัญหาแบบนี้จะเกิดซ้ำซาก !!!“บับเบิ้ล”