รถไฟขบวนสุดท้ายของ “ดัสกร ทองเหลา”

การเปิดตัวของ ดัสกร ทองเหลา อดีตมิดฟิลด์กัปตันทีมชาติไทยที่ย้ายไปสวมเสื้อ “ฉลามชล” ชลบุรี กลายเเป็นประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากมาย

ไม่แปลกที่บางคนอาจรู้สึกเฉยๆ เพราะวันนี้ “ดัสกร” อายุล่วง 35 ย่างเข้า 36 ปีแล้ว ไม่ใช่นักเตะวัยกระทงสมัยรุ่งๆ ที่เป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทย แต่ก็ไม่แปลกอีกเช่นกันที่หลายคนจะยังสนอกสนใจ เพราะนี่คือนักเตะระดับ “ตำนาน” ที่ติดทีมชาติไทยมาตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปี และรับใช้ชาติมากถึง “100 นัด”

หลายคำถามเกิดขึ้นเมื่อเห็นภาพ “ดัสกร” สวมเสื้อหมายเลข 71 ของชลบุรี ทั้งที่มาที่ไป และอนาคตหลังจากนี้ว่าจะเป็นอย่างไร?

ต้องบอกว่าจุดเริ่มต้นเรื่องนี้เกิดจากการที่ “สีหมอก” ถูกระงับสิทธิ์สมาชิกภาพ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จากเหตุไม่จ่ายเงินค่าเหนื่อยนักฟุตบอล นักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ทีมไม่ต่ำกว่า 30 ชีวิตของ “สีหมอก” ถูกลอยแพ หลังทีมถูกตัดสิทธิ์ไม่ได้แข่งขันต่อใน “ไทยลีก 3”

ทีมล่มสลาย แต่ชีวิตทุกคนยังต้องดำเนินต่อไป “ดัสกร” และเพื่อนนักเตะต้องตระเวณหาทีมใหม่ ชลบุรี คือทีมที่เปิดโอกาสให้ “ดัสกร” ได้เข้ามาร่วมฝึกซ้อมแบบเงียบๆไม่เป็นข่าว ก่อนจะบรรลุข้อตกลงร่วมกันและเซ็นสัญญาเปิดตัวในที่สุด นี่คือ “ดีล” ที่ ชลบุรี รู้อยู่แล้วว่าต้องมี “ดราม่า” แต่สโมสรได้ตัดสินใจไปแล้วว่า “โอเค” การให้โอกาสคนเป็นสิ่งที่ อรรณพ สิงห์โตทอง ผู้บริหารทีมลูกหนัง “ฉลามชล” ได้รับการยกย่องอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ “เดอะเซนต์” จะให้โอกาส “ดัสกร” ยิ่ง “เสี่ยบอล” ศศิศ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีมชลบุรีได้มีการเปิดใจพูดคุยกับ “ดัสกร” เพื่อถามถึงความตั้งใจและมั่นใจจนได้รับการยืนยันแบบแน่ๆ แล้ว ทุกอย่างจึงเดินหน้า เมื่อเช็คสภาพร่างกายแล้วว่ายังไหว อีกทั้งการเจรจารายละเอียดสัญญาต่างๆ ลงตัว การเซ็นสัญญากับ “ดัสกร” จึงเกิดขึ้น

นี่คือรถไฟขบวนสุดท้ายที่นำพา “ดัสกร” กลับสู่ “ไทยลีก” อีกครั้ง

ไม่มีใครตอบได้ในตอนนี้ว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร แต่นี่คือสิ่งที่สโมสรเลือกแล้ว และทุกอย่างต้องพิสูจน์กันที่ผลงานในสนาม มองแบบคิดบวก สโมสรต้องเลือกสิ่งดีๆมาสู่ทีมอยู่แล้ว ยิ่งสถานการณ์ของ ชลบุรี ในฤดูกาลนี้เป็นแบบ 3 วันดี 4 วันไข้ ทุกการเคลื่อนไหวจึงต้องถูกจับตามอง ผู้บริหาร “ฉลามชล” เชื่อมั่นว่า “ดัสกร” ช่วยทีมได้แน่ ไม่ใช่คาดหวังที่จะเล่นได้ 90 นาที แต่ทีเด็ดในช่วงท้ายเกม การวางบอล ฟรีคิก รวมถึงความเป็น “ผู้นำ” ล้วนเป็นประโยชน์ต่อทีม ขณะที่ “ดัสกร” มีความมุ่งมั่นเกินร้อยที่จะพิสูจน์ผลงานของตัวเองอีกครั้งในระดับ “ไทยลีก” เพื่อแสดงให้ทุกคนเห็นว่ายังดีพอที่จะเล่นในลีกสูงสุด “เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา ผมอยากเล่น” นี่คือความในใจของ “ดัสกร” ที่ยืนยันต่อ ชลบุรี ก่อนจรดปากกาเซ็นสัญญาแบบยอมรับเงินค่าเหนือยที่ได้น้อยกว่าเดิมมากๆ แน่นอนว่าการย้ายทีมของ “ดัสกร” เป็นสิ่งที่ถูกวิพากษ์ไปต่างๆนาๆ กระแสมีทั้งปลื้มและไม่ปลื้ม แต่เท่าที่เห็นแฟนๆ “ฉลามชล” ส่วนใหญ่บอก “ยินดีต้อนรับ” ที่เหลือหลังจากนี้เป็นสิ่งที่ “ดัสกร” ต้องพิสูจน์ในสนาม ทั้งเพื่อตัวเองและสโมสรใหม่ ผลงานคือคำตอบในทุกข้อสงสัย ตามขั้นตอนแล้ว “ดัสกร” จะสามารถลงเล่นให้ ชลบุรี ได้ใน “ไทยลีก” เลก 2 ที่มีกำหนดออกสตาร์ทในเดือนกรกฎาคม แต่ก่อนถึงตรงนั้น “ดัสกร” มีลุ้นลงเล่นในฟุตบอลถ้วยได้ ตอนนี้ ชลบุรี เหลือเพียงแค่ “ลีกคัพ” รายการเดียวเท่านั้น เพราะ “เอฟเอคัพ” ตกรอบไปแล้ว อย่างไรก็ตามรายละเอียดตรงนี้ยังไม่ชัดเจนว่า “ดัสกร” จะขึ้นทะเบียนเล่นให้ ชลบุรี ใน “ลีกคัพ” ได้หรือไม่ แม้ยังไม่เคยขึ้นทะเบียนเล่นถ้วยนี้กับ “สีหมอก” แต่ฝ่ายจัดฯยังไม่ยืนยัน แฟนๆ “ฉลามชล” คงค้องตามลุ้นกันต่อไปว่า “ดัสกร” จะประเดิมเกมแรกได้เมื่อไร และหลังจากนั้นจะช่วย ชลบุรี ได้มากน้อยแค่ไหนในฤดูกาลนี้

ส่วนตัวของ “ดัสกร” เองรู้อยู่เต็มอกว่าถูกจับตามองแน่ๆ ถ้าผลงานดีคือรอดตัว แต่ถ้าผลงานแย่รับรองโดนกระหน่ำชัวร์ๆ ชีวิตของ “ดัสกร” ใช่ว่าไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เล่นทีมชาติไทยมาเกือบ 20 ปีตกเป็นเป้าสายตาให้ถูกด่ามาตลอดอยู่แล้ว แต่การตอบโต้เสียงด่าที่ดีที่สุดคือผลงาน การอ้าปากด่าคนหรือพิมพ์ด่าใครมันง่าย แต่การติดทีมชาติไทยเป็นร้อยนัดไม่ใช่เรื่องง่าย “ดัสกร” เคยพิสูจน์ตัวเองตรงนี้มาแล้ว