วันเวลาย่ำต๊อกเดินผ่านไป การแข่งขันฟุตซอลระดับประเทศ ที่สร้างนักกีฬาเด็กและเยาวชน ทั้งชายและหญิง รุ่นอายุ 7-15 ปี มาอย่างต่อเนื่องถึง 10 ปี ได้ฤกษ์งามยามดี กลับมาเติมฝันให้กับน้องๆอีกครั้ง กับรายการ “ไมโล ฟุตซอล 2019 Road to Barcelona”
แน่นอนว่าทัวร์นาเมนต์นี้ เมื่อเติบโตบจนครบรอบ 10 ปี ย่อมต้องมีอะไรพิเศษมากกว่าครั้งก่อนๆ สิ่งพิเศษที่จะสอนให้เด็กๆได้รู้ถึงความเป็นนักกีฬาอย่างถ่องแท้ สิ่งนั้นมีชื่อเท่ๆว่า “ไมโล กรีนการ์ด” (ใบเขียวไมโล)
– ความหมายของ
“ไมโล กรีนการ์ด” ไม่มีอะไรซับซ้อน หรือ ต้องอธิบายอะไรให้ยุ่งยาก มันคือคำที่ต่างประเทศเรียกกันมาตลอดว่า “แฟร์เพลย์” เพราะ ไมโล เล็งเห็นถึงความสำคัญ กับนักกีฬา ที่แสดงออกถึงความมีน้ำใจในการแข่งขัน, เคารพกฎกติกาไม่นอกเกม หรือ ไม่ห้ำหั่นจนคิดถึงแต่ชัยชนะเท่านั้น
เพราะนอกจากฝีเท้าดีแล้ว ต้องมีสปริตที่ยอดเยี่ยม ฉะนั้น “ไมโล กรีนการ์ด” เหมาะสมคู่ควรกับผู้เล่นที่แสดงความมีน้ำใจนักกีฬา
หากน้องๆผู้เข้าร่วมแข่งขัน อยากจะได้
“ไมโล กรีนการ์ด” มาครอบครอง พร้อมเกียรติบัตร จาก ไมโล และ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเป็นรางวัลการันตีการชื่นชมและเชิดชูเกียรติให้กับนักกีฬาที่ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีต่อนักกีฬาคนอื่นๆ
ก็จะขอยกตัวอย่างง่ายๆ ให้เห็นภาพถึงนักเตะที่เล่นแบบใสสะอาด, แฟร์เพลย์ และ ไม่คิดถึงแต่ชัยชนะแค่อย่างเดียว
- ฟิลิปป์ ลาห์ม อดีตแบ็กขวาชุดแชมป์โลกทีมชาติเยอรมัน และ บาเยิร์น มิวนิค จากตำแหน่งของ ลาห์ม เขาจะต้องปะทะกับแนวรุกฝั่งตรงข้ามอยู่ตลอด แต่นักเตะรายนี้เล่นด้วยความเฉลียวฉลาด, ใช้การอ่านเกมดักทางบอล, ใจเย็น และ ไม่มีนอกเกมให้เห็น ทำให้การลงเล่นมากกว่า 700 นัด ตลอดอาชีพ ฟิลิปป์ ลาห์ม ไม่เคยโดนใบแดงเลยสักนัด
- มิโรสลาฟ โคลเซ่ ตำนานหัวหอกทีมชาติเยอรมัน ก็ไม่ขอทำผิดกติกาเพื่อนำพาทีมไปสู่ชัยชนะ โดยเป็นเกมสมัยที่เจ้าตัวยังค้าแข้งกับ ลาซิโอ บุกไปเจอกับ นาโปลี ซึ่งเป็นจังหวะเตะมุม แล้ว โคลเซ่ ใช้มือตบบอลเข้าประตูไป ผู้ตัดสินไม่เห็นเหตุการณ์ พร้อมกับเป่าให้สกอร์ขึ้นนำ ชนิดที่คู่แข่ง ประท้วงเป็นการใหญ่ จนกระทั่งทุกอย่างคลี่คลายลง เมื่อ โคลเซ่ เดินไปบอกผู้ตัดสินว่า “ลูกนี้มันโดนมือผมเข้าประตู” ทำให้กรรมการเปลี่ยนคำตัดสิน ริบสกอร์คืน เรียกว่าได้ใจแฟนบอลและคู่แข่ง เพราะมันคือการเล่นแบบ แฟร์เพลย์
- เรื่องอาการบาดเจ็บก็สำคัญมากเช่นกัน น้องๆคงได้เห็นเหตุการณ์ที่เวลามีผู้เล่นเจ็บ ก็จะมีการเตะบอลทิ้งออกจากสนาม เพื่อให้ทีมแพทย์เข้ามาดูอาการ อยู่บ่อยๆ แต่ถ้ามันเป็นจังหวะที่ก้ำกึ่งกับการได้ประตู มันก็วัดใจเหมือนกันว่าจะทำอย่างไรต่อไป แต่กับ เปาโล ดิ คานิโอ อดีตกองหน้า เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เขาเลือกที่จะใช้มือจับบอลไม่เล่นต่อ เมื่อเห็นผู้รักษาประตูฝั่งตรงข้าม ไม่พร้อมป้องกันทำหน้าที่ เนื่องจากประสบปัญหาเดี้ยง มันเป็นช็อตที่ตราตรึงอยู่ในใจ ไม่ว่าจะผ่านมาแล้วกี่สิบปี
- เรื่องนี้ ก็เป็นเรื่องสำคัญที่หลายๆคนอาจมองข้าม เพราะฟุตบอล เป็นกีฬาที่มีแพ้ มีชนะ ซึ่งทีมที่เป็นฝ่ายคว้าชัย ก็คงมีความสุขจนล้นใจ แต่ฝ่ายที่ต้องพ่ายแพ้ ความผิดหวังย่อมถาโถมเข้ามา อย่างกรณีที่ โอลิเวอร์ คาห์น อดีตนายด่าน บาเยิร์น มิวนิค เคยแสดงความสุภาพบุรุษลูกหนัง ยังไม่ขอดีใจกับเพื่อนร่วมทีม จากการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2001 ก่อนเดินไปปลอบใจ ซานติอาโก้ คานิซาเรส ผู้รักษาประตู บาเลนเซีย ที่ก้มหน้าลงพื้นร้องไห้ด้วยความเสียใจ
4 ข้อแฟร์เพลย์ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น สำหรับการได้ “ไมโล กรีนการ์ด” ยังมีอีกหลายๆเรื่องราว กับการแสดงสปริตเล่นแบบมีน้ำใจนักกีฬา
โดยจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาคณะกรรมการ และ ผู้ตัดสิน ว่าหลังจบเกมการแข่งขันในแต่ละแมตช์ ผู้เล่นคนไหนเหมาะสมกับรางวัล “
ไมโล กรีนการ์ด” ถึงแม้มันจะไม่ได้มีผลต่อสกอร์การแข่งขัน แต่ทว่าน้องๆมีจะเหมือนเครื่องยืนยันการเล่นแบบ
“แฟร์เพลย์” ที่จะใช้ได้ในอนาคตต่อไป
ส่วนเรื่องการแข่งขัน
“ไมโล ฟุตซอล 2019 Road to Barcelona” ก็จะเปิดรับสมัคร 800 ทีม ทั่วประเทศ (แบ่งเป็น รุ่นอายุ 7-8 ปี 10 คน, รุ่นอายุ 9-10 ปี 15 คน, รุ่นอายุ 11-12 ปี 15 คน และรุ่นอายุ 13-15 ปี 10 คน) ก่อนจะไปคัดเลือกนักกีฬา 40 ทีมสุดท้าย จำนวน 50 คน ที่โชว์ทักษะความสามารถและความมีน้ำใจนักกีฬา ไปเข้าอบรม
ไมโล แคมป์ เป็นเวลา 3 วัน กับ ผู้ฝึกสอนระดับแนวหน้าของประเทศ
จากนั้น คณะกรรมการจะทำการคัดเลือกนักกีฬา 8 คน (ที่มาจากรุ่นอายุ 7-12 ปี) เป็นตัวแทนเด็กไทย ไปฝึกทักษะฟุตบอลระดับโลก ณ รั้ว
ลา มาเซีย อะคาเดมี่ชื่อก้องโลกแห่งสโมสร
บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่แห่งเวที ลา ลีกา สเปน ในเดือนพฤศจิกายน 2562
ขอบอกตรงนี้เลยว่าการไป
บาร์เซโลน่า มีแต่ได้กับได้เท่านั้น เพราะ
บาร์เซโลน่า เป็นเหมือนต้นแบบของฟุตบอลสมัยใหม่ สำหรับการเล่นบอลแบบเท้าสู่เท้า ที่แฟนบอลรู้จักกันเป็นอย่างดีคือ
“ติกิ-ตาก้า” ซึ่งผลิตนักเตะระดับโลกมาประดับวงการมากมาย ทั้ง
ลิโอเนล เมสซี่, อันเดรส อิเนียสต้า, ชาบี เอร์นานเดซ หรือ
เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ยังไม่รวมผู้เล่นหลายๆคนที่ออกไปค้าแข้งในหลายๆลีก
ฉะนั้นการได้ฝึกซ้อมกับ
บาร์เซโลน่า นอกจากจะได้ประสบการณ์แล้ว เรื่องของพื้นฐานต่างๆเกี่ยวกับฟุตบอล น้องๆก็จะได้รับความรู้ตรงนี้ไปเต็มๆ อนึ่งว่ามีใบปริญญาด้านฟุตบอลมาเป็นเกียรติประวัติว่า
“ครึ่งหนึ่งเราเคยผ่านการฝึกอบรม ณ รั้ว ลา มาเซีย”
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างมันไม่ได้มาง่ายๆ เหมือนการเขียนตัวอักษรลงบนกระดาษ ทุกสิ่งทุกอย่างมันล้วนจากความพยายาม และ ความฝันต้องวิ่งไล่ตามมัน
นักฟุตบอลหลายๆคน ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ เขาไม่ได้มีเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ หรือ มีชีวิตที่แสนสบาย รับเงินเดือนเป็นแสน เป็นล้าน .. แต่เพราะพวกเขามี
“กีฬาเป็นครูชีวิต” ที่คอยบ่มเพาะตัวเองขึ้นมา และ บทเรียนเหล่านั้น มันก็จะสืบทอดมาสู่น้องๆ อย่างเช่น
- เริ่มต้นเล่นด้วยความสุขและความสนุก
ถ้าอะไรที่เราทำแล้วมีความสุข เราก็อยากทำมันต่อจริงมั้ย ? ฟุตบอล ก็เป็นสิ่งที่เด็กๆทั่วโลกชื่นชอบ โตขึ้นมาอยากจะเป็นเหมือนไอดอล เมื่อเรามีความสุขกับมัน มันจะทำให้เราสนุกไปด้วย เมื่อทั้ง 2 อย่างนี้ มันหลอมรวมกัน ก็จะเป็นบ่อเกิดความสามารถ และ เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นให้เราได้เดินตามล่าฝัน
- ความฝันย่อมมีอุปสรรค ห้ามยอมแพ้
เมื่อ ไมโล ได้เปิดโอกาสให้เด็กๆทุกคนตามล่าความฝันสู่
“Road to Barcelona” การแข่งขันมันก็จะต้องยกระดับมากขึ้น การฝึกซ้อมก็อาจจะต้องหนักมากขึ้นไปด้วย ยามใดที่รู้สึกท้อ ให้ท่องไว้ว่าต้อง “สู้ สู้” เพื่อตัวเองและครอบครัว แต่ถ้าหากวันนั้นมาถึง แล้วฝันไม่เป็นจริง ก็ห้ามยอมแพ้เด็ดขาด เพราะโอกาสยังมีอีกในภายภาคหน้า
- ระเบียบวินัย คือสิ่งที่นักกีฬาพึงมี
ต้องเรียนตามตรงว่า น้องๆเยาวชนอาจยังมีปัญหาเรื่องระเบียบวินัยตามประสาวัย บ้างอาจจะติดเพื่อน บ้างอาจจะติดเกมส์ แต่
“กีฬาจะเป็นครูชีวิต” หล่อหลอมให้กลายเป็นคนมีระเบียบวินัยมากขึ้น อาทิ แบ่งเวลาให้ถูกต้อง เวลาไหนเรียน, เวลาไหนซ้อม หรือ เวลาไหนเล่น, ทานอาหารครบ 5 หมู่ และ พักผ่อนให้เป็นเวลา
- ไม่เคยไม่กล้า ก้มหน้าไม่เป็น
หากเรายังไม่เคยออกไปเจอโลกกว้าง ยังไม่เคยเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลแบบจริงๆจังๆ รายการ
“ไมโล ฟุตซอล 2019 Road to Barcelona” ถือเป็นบันไดที่จะทำให้น้องๆได้พบกับประสบการณ์ลูกหนังเหล่านั้น อย่าไปคิดว่าตัวเองด้อยกว่าใคร เพราะเราก็มีดีในแบบของเรา วันแรกอาจจะประหม่า แต่วันต่อๆไปมันต้องดีขึ้น วันใดที่จิตใจเราเข้มแข็ง พร้อมเผชิญทุกอุปสรรค วันนั้นเราจะกลายเป็นนักฟุตบอลที่ดี อย่างคำที่บอกว่า
“กีฬาเป็นครูชีวิต”
ฉะนั้นรายการ
“ไมโล ฟุตซอล 2019 Road to Barcelona” มีแต่ให้ประสบการณ์กับเด็กๆทุกคน ไปรวบรวบไพร่พลให้ครบ 10 คน ไม่เกิน 12 คน มาสมัครร่วมการแข่งขัน ได้ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม – 16 มิถุนายน 2562 สามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่
www.facebook.com/MILOThailand
#กีฬาคือครูชีวิต #ไมโลฟุตซอล2019 #MILOFutsal2019 #SportIsAGreatTeacher
อย่ารอช้า เพราะความฝันที่ บาร์เซโลน่า กำลังรอน้องๆอยู่น้องๆอยู่
https://www.facebook.com/MiloThailand/videos/617872015375080/