logo-heading

เรื่องราวของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ฮีโร่ของเด็กในหมู่บ้าน นากริก อียิปต์

ฟอร์มร้อนแรงของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในปัจจุบัน รวมถึงการเป็นฮีโร่พาทีมชาติอียิปต์ ตีตั๋วไปลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายในรอบ 28 ปี ทำให้เขากลายเป็นไอดอลของเหล่าเด็ก ๆ ในอียิปต์มากมายนับไม่ถ้วน แน่นอนว่าก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นมาเป็น ซูเปอร์สตาร์แถวหน้าของวงการลูกหนัง จนมีผลงานทำประตูคู่แข่งถล่มทลาย และทำลายสถิติมามากมายเช่นนี้ เส้นทางของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ [caption id="attachment_8333" align="aligncenter" width="756"] “ซาลาห์” ฮีโร่ของเด็กในหมู่บ้าน นากริก อียิปต์ AFP[/caption] ชีวิตของนักเตะหลายคนสามารถนำมาทำเป็นภาพยนตร์บอกเราเป็นแรงบันดาลใจให้กับเหล่าเด็ก ๆ ได้ ซาลาห์ ก็เช่นกัน เขาเกิดใน นากริก หมู่บ้านเกษตรกรรมขนาดเล็กที่ซ่อนตัวอยู่นอกเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อ ไคโร เมืองหลวงของอียิปต์ กับ อเล็กซานเดรีย เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ ซาลาห์ นั้นถีบตัวเองขึ้นมาจากความจนที่เป็นอยู่ ด้วยการเป็นพี่ชายคนโตที่สุดจาก พี่น้อง 4 คน ทำให้เขามีแรงผลักดันมากกว่าใครเพื่อน โดยเริ่มจากการเล่นให้สโมสรประจำเวที อียิปต์ พรีเมียร์ลีก อย่าง เอล โมคอว์ลูน เพียงแค่ 3 ปี ก็ได้ย้ายไปอยู่กับสโมสรมีชื่ออย่าง บาเซิ่ล ของสวิตเซอร์แลนด์ จากนั้นเขาก็เริ่มไต่เต้า จนปัจจุบันเป็นดาวยิงของสโมสรขวัญใจมหาชนอย่าง ลิเวอร์พูล แม้ว่าเขาจะมีชีวิตที่อยู่ดีกินดี แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยลืมคือ กลับไปยังบ้านเกิดเป็นประจำ แม้ไม่ได้ไปด้วยตนเอง แต่ก็ส่งข้าวของเครื่องใช้จำเป็นกลับไปเสมอ เขาได้ริเริ่มสร้างเครื่องออกกำลังกายประจำชุมชน รวมถึงปรับปรุงสนามฟุตบอลเพื่อให้เด็กอียิปต์ มีแรงบันดาลใจทำตามฝัน โดยมีเขาเป็นแบบอย่าง ซึ่งเขาถือเป็นอีกหนึ่งฮีโร่ และไอดอลในดวงใจของเด็ก ๆ ในหมู่บ้านเกิดของเขา เปรียบได้ว่า “ราชาแห่งหมู่บ้าน” เลยก็ว่าได้ โมฮาเหม็ด อับเดล-กาวัด วัย 12 ปี ได้กล่าวถึงความประทับใจและความชื่นชมที่เขามีต่อ ซาลาห์ กับ AFP ว่า “เมื่อผมโตขึ้น ผมอยากเป็นแบบ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เพราะความอ่อนน้อมถ่อมตนและมีจริยธรรมที่เขามีทำให้เขาก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพได้ในปัจจุบัน” ขณะที่ ซาลาห์ เคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวชีวิตวัยเด็กสู่การมาค้าแข้งในยุโรปไว้ว่า [caption id="attachment_8332" align="aligncenter" width="756"] “ซาลาห์” ฮีโร่ของเด็กในหมู่บ้าน นากริก อียิปต์ AFP[/caption] “มันไม่ง่ายเลยนะ สำหรับนักเตะอียิปต์ทุกคนที่เข้ามาเล่นในยุโรป และลงเล่นในระดับสูงสุด มันเต็มไปด้วยแรงกดดัน ผมพยายามดูแลตนเองเต็มที่ และทำงานหนักเพื่อให้ตัวเองอยู่ในจุดสูงสุดของตัวเองตลอดเวลา ตอนนี้มันก็อยู่ในเส้นทางที่ดี และผมพยายามเดินตามเส้นทางของผม นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการให้มันเป็น” “ตอนผมมายุโรปครั้งแรก ผมพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้เลย ครอบครัวยังอยู่ที่อียิปต์ทั้งหมด นั่นทำให้ผมเจอเรื่องยากลำบาก แต่มันก็ชัดเจนว่าผมจะไม่กลับไปจนกว่าตัวเองจะกลายเป็นนักเตะระดับท็อป หรือไม่ก็เลิกเล่นไปเลย นั่นหมายความว่าทางเลือกในการกลับบ้านไม่มีในหัวของผม ไม่เคยคิดว่าจะมายุโรปเพื่อเล่นฟุตบอล 2-3 เดือนแล้วกลับบ้าน ลืมเรื่องนั้นไปได้เลย” “สมัยเด็ก ผมก็เป็นเด็กทั่วไปคนหนึ่ง อยู่บนท้องถนนทุกวัน รักในการเล่นฟุตบอล และนั่นทำให้มันอยู่ในหัวของผมเสมอ ในทุกก้าวคือความฝัน ฝันที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวันผมลงเล่นฟุตบอลกับเพื่อนบนถนน ผมไม่ใช่นักเรียนที่ดีนัก แต่นากริก นี่คือบ้านของผม ทุกครั้งที่ได้กลับไปที่นั่น ผมมีความสุขมากเพราะนั่นคือที่ที่ผมจากมา และผมจะไม่มีวันลืม” [caption id="attachment_8334" align="aligncenter" width="756"] “ซาลาห์” ฮีโร่ของเด็กในหมู่บ้าน นากริก อียิปต์ AFP[/caption] “ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เมื่อตอนเล่นฟุตบอลจนถึงอายุ 16 กับทีม อาหรับ คอนแทรกเตอร์ โค้ชเลือกผมเข้าทีมขุดใหญ่ และนั่นคือจุดเริ่มต้นในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของตัวผมเอง มันเป็นอะไรที่เร็วมาก ตอนนั้นผมอายุน้อย ผมบอกตัวเองว่านี่คือโอกาส และไม่ต้องการเสียมันไป หลังจากนั้นก็พยายามอย่างหนักเพื่อให้ตัวเองเป็นนักเตะที่ดีให้ได้” ซาลาห์ เล่าถึงชีวิตและความตั้งใจที่ผ่านมา นอกจากสิ่งที่เขาได้แสดงให้เหล่าเด็ก ๆ เห็นแล้ว คำพูดที่เขาได้พูดนั้น มีส่วนสร้างแรงบันดาลใจและเป็นพลังให้กับเด็กชาวอียิปต์เดินหน้าตามความฝันอีกด้วย “อย่าหยุดฝัน และอย่าหยุดศรัทธา” เขากล่าวหลังได้รับรางวัลแข้งแอฟริกายอดเยี่ยม เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา นั่นคือคำพูดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาล
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline