logo-heading

เรียบร้อยช้อยเก็บฉากสำหรับศึกฟุตบอลคิงส์ คัพ 2018 ด้วยการคว้าแชมป์สมัยที่ 2 ของทีมชาติสโลวาเกียบนผืนแผ่นดินไทย หลังบุกมาชนะทีมช้างศึก 3-2 ในนัดชิงชนะเลิศ เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (25 มี.ค.)

แต่ถึงเกมนี้ไทยจะแพ้ แต่ก็เล่นได้ประทับใจแฟนบอลกว่า 45,000 คน ในสนามราชมังฯ และอีกหลายสิบล้านคนที่ดูอยู่ทางหน้าจอทีวี การแพ้ต่อทีมอันดับ 29 ของโลก 2-3 ไม่มีอะไรเสียหาย และรูปเกมเราก็สู้ได้อย่างสูสี และสนุก ซึ่งแฟนบอลก็อยู่จนจบเกม นี่แสดงให้เห้นถึงศรัทธาของแฟนบอลไทย ยังคงเข้มจ้นและเหนียวแน่นอเหมือนเดิม อารัมภบทกันไปเยอะละ เรามาว่ากันที่ฟอร์มของนักเตะทีมชาติไทยในวันนี้กันดีกว่า ใครเล่นเป็นไงบ้าง และจะได้ผลสอบกันกี่คะแนน ตัวจริง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (6) เกมนี้แทบไม่ได้ออกแรงเซฟเลย เพราะลูกยิงแต่ละลูกของสโลวาเกีย คือต่อให้มี สามกวินทร์ ก็คงลำบาก แต่ก็ถือว่าทุกจังหวะเจ้าตองก็ทำดีแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าทั้งสามประตูที่โดนคู่แข่งยิงได้ดีจริงๆ ฟีลิป โรลเลอร์ (5) สองประตูแรกที่เสียไปมาจากบ่อน้ำมันทางฝั่งขวา ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ ฟีลิป ดูแล พอเสียประตูแรกไปก็ดูจะเสียความมั่นใจและเหวอไปเหมือนกัน คิดว่าจะโดนเปลี่ยนครึ่งหลังซะแล้ว แต่ลุงวัชยังให้โอกาส และก็ทำได้ดีขึ้นใน 45 นาทีหลัง พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา (6) เป็นเกมที่เจ้าบาสเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานเยอะมาก และการตัดสินใจในเกมนี้ก็ไม่ดี จะเปิดก็ไม่เปิด จะทำอะไรก็เสียไปหมด คงต้องใช้เวลาเรียกฟอร์มและความมั่นใจกลับมาอีกสักพัก เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว (6.5) โดยรวมถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐาน แต่การที่ทีมเสียถึง 3 ประตู กองหลังก็มีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย ขณะที่ฟอร์มส่วนตัวก็มีเสียบอลง่าย และเหวออยู่ครั้งสองครั้ง แต่ทุกครั้งที่เสียก็จะแก้ตัวได้ดี ส่วนตัวน่าพอใจ พรรษา เหมวิบูลย์ (7) การยิงได้หนึ่งประตูทำให้แต้มสูงขึ้นมา แต่กองหลังจากบุรีรัมย์ ก็ถือว่าเล่นในดีที่สุดในสี่แผงหลัง โดยเฉพาะลูกกลางอากาศของสโลวาเกีย วันนี้เอาอยู่หมัด ที่เข้าตาเลยก็คือช็อตขึ้นมาทำประตูไล่มา 2-3 นี่แหละ ถือว่ายอดเยี่ยมกระเทียมเจียว จักรพันธ์ แก้วพรม (7) ครึ่งแรกเล่นได้ดี คุมจังหวะตรงกลางช่วยทีมได้เยอะ แถมยิงได้หนึ่งประตู ปต่ครึ่งหลังต้องยอมรับว่า จักรพันธ์ ดูจะหมดจริงๆ และยังต้องพิสูจน์ตัวเองในนามทีมชาติต่อไป ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (7) เป็นแข้งไดนาโม ที่เล่นได้ใจจริงๆ วิ่งขึ้นวิ่งลงไม่มีหมด และทุ่มเททุกจังกวะ อาจจะมีหัวเสียช่วงท้ายๆ บ้างหลังโดนดึงเสื้อ พี่แกก็ไล่เอาคืนเบอร์ 8 สโลวาเกียอย่างเดียวเลย แต่ฟอร์มโดยรวมถือว่าสอบผ่าน แถมมีลุ้นเกือบยิงให้ไทยได้ตั้งสองครั้ง ธีราทร บุญมาทัน (6.5) กลับมาไทยหนนี้ดูจะฟอร์มตกไปเหมือนกันสำหรับ บุญจัง แต่เกมนี้ดูดีกว่าเกมก่อน แต่ก็ความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฏ ทั้งสองเกมในคิงส์ คัพ หนนี้ต้องยอมรับตามตรงว่ามันยังไม่ใช่ ธีราทร ที่เราเคยเห็น มงคล ทศไกร (5) ได้เล่นแค่ 45 นาทีในครึ่งแรก โดนบอลไม่กี่จังหวะ จ่ายบอลเสียบ่อยครั้ง แต่ที่ทำได้ดีคือลูกขยันช่วยวิ่งไล่บอลทางขวาได้ดี แต่เกมรุกถือว่าสอบตก มีหลุดไปครั่งนึงแต่ยิงน่าผิดหวัง ชนาธิป สรงกระสินธ์ (7.5) ถ้าจะถามว่าวันนี้แข้งไทยใครเล่นดีสุดก็คือ ชนาคุง นี่แหละ โดนคู่แข่งดึงเสื้อแทบขาดนับครั้งไม่ถ้วน พลิ้วหลับผู้เล่นสโลวาเกียหัวหมุนไปหลายคน แถมเสียท่าให้กับเจ ด้วยการดึงเสื้อหลายครั้ง ครึ่งแรกโดดเด่นมาก แต่ครึ่งหลังถูกตัดออกจากเกมไป ก่อนจะมามีส่วนกับเกมในช่วงท้ายอีกนิดหน่อย แต่ดูๆ แล้ว สเต็ปของเมสซี่ มันไกลกว่าเพื่อนร่วมทีมไปแล้ว ธีรศิลป์ แดงดา (6.5) ครึ่งแรกอาจจะทำได้น่าผิดหวังถ้าพูดถึงฟอร์มโดยรวม แต่ก็ยังมีแอสซิสให้ จักรพันธ์ ยิงตีไจ่แตกได้ ครึ่งหลังกลับมามีส่วนร่วมกับเกมเยอะ และช่วยทีมเก็บบอลได้ดี แต่อาจเป็นเพราะเราคาดหวังกับ ธีรศิลป์ มากเกินไป จึงทำให้ผิดหวังกับฟอร์มเล็กน้อย แต่จะว่าไปวันนี้ เจ้ามุ้ย ก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดแล้ว เพียงแต่ว่าไม่ค่อยมีโอกาสได้ง้างเท้าทำประตูสักเท่าไหร่ สำรอง บดินทร์ ผาลา (6.5) ลงมาตั้งแต่ต้นครึ่งหลังช่วงแรกก็มีหวือหวา มีส่วนร่วมกับเกมเยอะอยู่ มีได้ยิงไกลครั้งสองครั้ง โดยรวมก็ถือเป็นสำรองที่ลงมาแล้วเกมดีขึ้น นูรูล ศรียานเก็ม (6.5) ลงมากลางๆ ครึ่งหลัง ช่วงแรกดูตื่นๆ วิ่งไล่บอลไปมา บางทีวิ่งเลย เปิดบอลเสียบ้าง แต่ก็เป็นคนที่เปิดฟรีคิกแล้วทำให้ไทยได้ลูกที่สอง สิโรจน์ ฉัตรทอง (6) ลงมายืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้า แต่เวลาคงน้อยเกินไปทำให้ ปีโป้ ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากวิ่งเบียดคู่แข่ง แต่ก็มีช็อตที่เบียดชนะแย่งบอลมาได้ แต่จังหวะสุดท้ายก็จับยาวบ้าง เลี้ยงบอลไปเข้าทางผู้รักษาประตูบ้าง
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline