logo-heading
จบลงไปเรียบร้อยแล้วสำหรับการแข่งขันศึก คอมมูนิตี้ ชิลด์ 2019 ผลการแข่งขันเป็นทางด้านของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เอาชนะดวลจุดโทษทางด้านของ ลิเวอร์พูล ไป 5-4 โดยเสมอในเวลา 1-1 ถือเป็นการย้ำแค้นในถิ่น เวมบลีย์ อีกครั้งหลังครั้งล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล มาเล่นในสนาม เวมบลีย์ ก็แพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในรอบชิงชนะเลิศลีกคัพ เมื่อปี 2016 มาลองดูคะแนนของนักเตะทั้ง 2 ทีมกันสักนิด ลิเวอร์พูล อลิสซอน เบ็คเกอร์ (6) - น่าจะทำได้ดีกว่านี้ในจังหวะเสียประตูแรก แม้จะเป็นลูกยิงในระยะเผาขนก็ตามเนื่องจากบอลไม่ได้แรงมากนัก แต่หลังจากนั้นป้องกันลูกยิงของ เชซุส รวมทั้ง สเตอร์ลิ่ง ได้อย่างยอดเยี่ยม เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (5) - มีปัญหากับการรับมือการวางบอลยาวของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ การตามประกบ เลรอย ซาเน่ และ กาเบรียล เชซุส ก่อนที่ครึ่งหลังจะทำได้ดีขึ้นแต่สุดท้ายก็โดนเปลี่ยนตัวออก โจ โกเมซ (6) - พลาดท่าเสียบอลให้ สเตอร์ลิ่ง ในช่วงต้นเกมก่อนที่จะเรียกจังหวะกลับมาได้หลังพักครึ่งและถูกย้ายให้ไปเล่นแบ็คขวาเมื่อ มาติป ถูกเปลี่ยนตัวลงมา เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (7) - เสียสถิติโดนคู่แข่งเลี้ยงบอลผ่านในที่สุดหลังรักษาสถิติมาถึง 65 นัด อย่างไรก็ตามในเกมนี้เขาก็ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานของตัวเอง มีจังหวะไล่กวด สเตอร์ลิ่ง ที่หลุดเดี่ยวจนทำให้เขาเสียจังหวะ ตามด้วยการแอสซิสต์ให้ มาติป โขกทำประตูตีเสมอ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน (6) - พยายามเติมเกมรุกที่ริมเส้นแต่บอลไม่ค่อยเป็นใจให้กับเจ้าตัวนัก ก่อนที่ครึ่งหลังจะสามารถจับจังหวะของตัวเองได้ดีมากขึ้นกว่าเดิม ฟาบินโญ่ (7) - เสียบอลอยู่บ่อยครั้งในช่วงเริ่มต้นเกม ตามด้วยการกลายเป็นห้องเครื่องเคลื่อนบอลคนสำคัญของทีมเมื่อเป็นฝ่ายคุมเกมได้ จากนั้นก็ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงครึ่งหลัง จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม (6) - มีจังหวะขึ้นเกมสวย ๆ ให้เห็นอยู่ได้บ้างในครึ่งแรก และดูเหมือนจะหายไปจากเกมก่อนมีบทบาทมากขึ้นในครึ่งหลัง อย่างไรก็ตามเขาเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวของ ลิเวอร์พูล ที่พลาดลูกจุดโทษ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (6) - ครึ่งแรกตัดบอลและเก็บบอลไม่ค่อยอยู่เท่าไหร่ แต่ก็แสดงความมุ่งมั่นให้เห็นในหลายจังหวะเพื่อพาทีมกลับมาสู่เกม ครึ่งหลังดูจะมีส่วนร่วมกับทีมมากขึ้นกว่าเดิม ​โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (7) - ต้องบอกว่าขยันสุด ๆ และเด่นที่สุดในแนวรุกของ ลิเวอร์พูล ในวันนี้ พยายามไล่ตามบอล พาบอลจี้เข้าหาเขตโทษ เกือบทำประตูได้ แต่ถูกเสาปฏิเสธไว้ และมีโอกาสอีกหลายครั้งในการจบสกอร์ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน (7) - มีช็อตได้ลุ้นเองรวมทั้งสร้างโอกาสให้กับ ซาลาห์ อยู่บ้าง ประสานงานกับดาวเตะ อียิปต์ อย่างรู้ใจ พยายามเพรสซิ่งสูงใส่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดิว็อค โอริกี้ (6) - ได้โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้ มีทั้งจังหวะที่เล่นได้น่าตื่นตาตื่นใจ และน่าผิดหวังในเกมเดียวกัน อย่างไรก็ตามปัญหาของเขายังคงเป็นจังหวะสุดท้ายที่ไม่สามารถสร้างความกดดันให้คู่แข่งได้ ต้องยกระดับตัวเองให้เด็ดขาดกว่านี้หากหวังที่จะเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริง 3 ประสานในแดนหน้า ตัวสำรอง โจเอล มาติป (7) - ลงมาแล้วเกม ลิเวอร์พูล ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แถมเป็นคนโหม่งพังประตูตีเสมอได้อย่างเด็ดขาด นาบี เกอิต้า (6) - วูบวาบกับการเลี้ยงพาบอลไปข้างหน้าและได้ส่อง 1 หน อดัม ลัลลาน่า (5) - พยายามไล่บีบพื้นที่ผู้เล่น เรือใบสีฟ้า แต่ก็ช่วยทีมได้ไม่มากนัก อเล็กซ์ อ็อกซ์เหลด-แชมเบอร์เลน (5) - ลงมายืดเส้นยืดสายเรียกจังหวะหลังจากอาการบาดเจ็บระยะยาว เซอร์ดาน ชากิรี (6) - เกือบจะทำประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล ได้ในเกมนี้ ตัดเกรด! เรือใบ หักปีก หงส์แดง ดวลโทษชนะคว้าแชมป์ คอมมูนิตี้ ชิลด์ 2019 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เคลาดิโอ บราโว่ (8) - งัดเซฟช่วยทีมนับครั้งไม่ถ้วนในครึ่งหลัง ก่อนที่จะเซฟลูกจุดโทษของ ไวนัลดุม ไว้ได้สำเร็จ ถือเป็นฮีโร่ของเกมนี้เลยทีเดียว ไคล์ วอล์คเกอร์ (6) - ไม่ค่อยได้มีส่วนร่วมกับเกมรุกมากอย่างที่เคย เว้นแต่จังหวะแทงทะลุช่องให้ สเตอร์ลิง หลุดเดี่ยวในครึ่งแรกก่อนจะเติมขึ้นไปเป็นทางเลือกในการจบสกอร์ มีส่วนช่วยเคลียร์บอลจากบนเส้นประตูในช่วงท้ายเกม จอห์น สโตนส์ (6) - เสียสมาธิจนทำให้ ซาลาห์ ฉกแย่งบอลไปได้ในช่วงต้น โชคดีที่ไม่เป็นจังหวะให้ทีมเสียประตู ตั้งสติกลับมาได้หลังจากนั้นและยังคงผ่านบอลในแนวรับได้อย่างแม่นยำเช่นเคย นิโคลัส โอตาเมนดี้ (5) - มีปัญหาในการรับมือกับแนวรุกที่รวดเร็วของ หงส์แดง แต่ยังมีลูกเก๋าที่สามารถป้องกันจังหวะอันตรายได้ ก่อนที่ช่วงท้ายจะพลาดง่าย ๆ เปิดโอกาสให้กับ ซาลาห์ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ (7) รับมือกับ ซาลาห์ ได้น่าพอใจระดับหนึ่ง โดยรวมไม่มีข้อผิดพลาดให้เห็นแม้ว่าจะเผชิญหน้ากับหนึ่งในแข้งตัวรุกที่ดีที่สุดของ พรีเมียร์ลีก เควิน เดอ บรอยน์ (6.5) - ดูสภาพความฟิตยังไม่เต็มถัง แต่ถือว่าทำได้ดีในเกมนี้ โรดรี้ (7) - แสดงให้เห็นถึงสัญญาณที่ดีในฐานะแข้งใหม่ เทียบได้กับ แฟร์นันดินโญ่ เวอร์ชั่นอัพเกรดความแข็งแกร่ง, ความว่องไว และส่วนสูง ดาบิด ซิลบา (7) - นับเป็นการลงสนามใน เวมบลีย์ ครั้งที่ 15 มากที่สุดในผู้เล่นของ ซิตี้ ประสบการณ์ ทำให้เขาเป็นหนึ่งหัวใจสำคัญของทีม และทำแอสซิสต์สวย ๆ ให้ สเตอร์ลิ่ง ยิงออกนำ ลิเวอร์พูล อีกด้วย แบร์นาร์โด้ ซิลวา (7) - วิ่งไม่หยุดทั้งในเกมรับและเกมรุกอีกเช่นเคย ตั้งแต่นาทีแรกไปจนถึงนาทีสุดท้าย น่าประทับใจกับการลงไปกวดไล่ช่วยเกมรับจนถึงมุมธง น่าเสียดายที่ไม่ได้มีจังหวะสุดท้ายที่เด็ดขาดเท่าไหร่นักในเกมรุก ราฮีม สเตอร์ลิง (6.5) - วูบวาบให้เห็นเป็นระยะก่อนที่จะพังประตูด้วยเท้าซ้ายข้างไม่ถนัดในระยะเผาขน พลาดแบบน่าเขกกระโหลกจนไม่สามารถทำการฝัง ลิเวอร์พูล ได้สำเร็จ เลรอย ซาเน่ (6) - เผาเครื่อง อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จนถูกตัดฟาวล์และได้รับบาดเจ็บจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามตั้งแต่ต้นครึ่งแรก ตัวสำรอง กาเบรียล เชซุส (6) แสดงความมุ่งมั่นให้เห็นจากการวิ่งหาช่องว่างสร้างจังหวะให้เพื่อนร่วมทีมแต่บอลไปไม่ค่อยถึงเจ้าตัวนัก อิลคาย กุนโดกัน (5) - มีส่วนร่วมกับเกมน้อย ดูจะยังไม่ฟิตเท่าใดนัก ฟิล โฟเด้น (N) - เวลาในสนามน้อยเกินไปที่จะให้คะแนน แต่ก็ลงมายิงลูกจุดโทษได้อย่างเฉียบขาด
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline