logo-heading

หากคุณเป็นแฟนฟุตบอลตัวจริง คงไม่มีทางไม่รู้จักชายที่ชื่อว่า อันโตนิโอ คาสซาโน่ อย่างแน่นอน นอกจากฝีเท้าที่แพรวพราว ความติสท์แตกอันเลื่องชื่อแล้ว อีกอย่างนึงที่พอเอ่ยถึงชื่อนี้ทีไรก็จะต้องนึกถึงคำว่า "เพลย์บอย"

  คาสซ่า ถูกยกให้เป็นหนุ่มเจ้าสำราญตัวเอ้ของวงการลูกหนัง แต่นอกจากเรื่องนี้แล้ว ยังมีความลับและคำสารภาพในเรื่องอื่นๆ ที่จะพูดถึงชายคนนี้อีก แต่ก่อนจะไปเรื่องอื่น เผื่อหลายท่านไม่ทราบวีรกรรมวีรเวรในการเป็นเพลย์บอยของ หนุ่มชาวอิตาเลี่ยนผู้นี้ เราจึงขอนำเสนอเรื่องนี้ก่อนละกัน  

ผู้หญิงและเซ็กส์

  คาสซาโน่ เคยยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดที่เลือกย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด แต่เขาไม่เคยเสียใจเลยเพราะพี่แกใช้ชีวิตอย่างสุขสำราญ ฟันหญิงไปทั่วทุกวันทุกคืน ไม่เป็นอันซ้อม ทำให้ฟอร์มก็ไม่ดีไปด้วย โดย "คาสซ่า" ได้เปิดเผยผ่านหนังสืออัตชีวประวัติของเขาว่า "ที่ มาดริด ผมมีเพื่อนเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ที่โรงแรม หน้าที่ของเขาคือเอาพาย 3-4 ชิ้นขึ้นมาเสิร์ฟ หลังจากผมมีเซ็กส์เสร็จ เขาเอาพายมาให้ผม ผมก็จัดหญิงให้เขา เราทำการแลกเปลี่ยนกัน เขาเอาหญิงไป ผมก็นั่งกินพาย มีเซ็กส์แล้วกินพายต่อ มันเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบมาก"   ในปี 2008 คาสซาน่า โวลั่นว่าเขาฟันหญิงไปแล้วมากกว่า 600 คน แล้วตอนนี้ปี 2018 ผ่านมา 10 ปี ลองคิดดูเล่นๆ ว่าตอนนี้ถึงพันคนหรือยัง?  

ความสามารถ

  ทุกคนต่างก็ทราบดีว่า คาสซาโน่ นั้นมีความสามารถมากแค่ไหน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงได้เล่นให้กับทีมดังๆ ทั้ง อาแอส โรม่า, เรอัล มาดริด และ 2 ทีมยักษ์ใหญ่จากเมืองมิลานอย่าง เอซี และ อินเตอร์ แต่ความเก่งกาจของเขาเหมือนถูกปล่อยออกมาไม่สุด มันต้องสะดุดเพราะตัวเขาเอง   "ผมมีโอกาสที่จะเก่งระดับจักรวาล แต่ผมเป็นคนไม่ชอบซ้อม และผมอยากกินอะไรก็ได้ที่อยากกิน ตามใจปาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันทำร้ายตัวผมเอง ถ้าผมมีอีกร่างนึงนะที่ไม่ทำตัวแบบนั้น ป่านนี้ผมคงจะเก่งระดับเทพเหมือน ลิโอเนล เมสซี่ หรือ เนย์มาร์ ไปแล้ว" คาสซ่า กล่าว  

การควบคุมอารมณ์

  ด้วยความติสท์แตก และหัวร้อน ทำให้ คาสซาโน่ มักจะถูกเพ่งเล็งจากผู้ตัดสิน และคู่แข่งอยู่เสมอ หลายครั้งที่ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเจตนายั่วโมโห คาสซาโน่ เพราะรู้ว่าจุดติดง่าย ทำให้เขามักจะโดนใบเหลืองหรือไล่ออกเป็นประจำ   ครั้งนึง ฟาบิโอ คาเปลโล่ อดีตเจ้านาย คาสซ่า สมัยเล่นให้ โรม่า เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "ความหัวร้อน และอารมณ์ที่รุนแรงฝังลึกอยู่ในตัวของ คาสซาโน่ เสมอ" ซึ่งเจ้าตัวเองก็ดูไม่ได้ยี่หระกับคำพูดเชิงตำหนิของบอส แถมตอกกลับสั้นๆ ด้วยว่า "ก่อนที่จะระเบิดอารมณ์ ผมพยายามนับ 0-1 ก่อนตลอดนะ!"   นอกจากอารมณ์ในสนามที่ทำให้เขาโดนแบนแล้ว ยามอยู่นอกสนามหรือให้สัมภาษณ์อะไรก็ยังเป็นที่จับตามองเช่นกัน เพราะมักมีคำพูดกวนๆ หรือการพูดไม่คิดผลิออกมาเสมอๆ เช่นช่วงยูโร 2012 คาสซาโน่ โดนสื่อถามว่ามีนักเตะที่เป็นเกย์ในทีมชาติอิตาลีหรือไม่?   "ผมหวังว่ามันจะไม่มีนะ" นี่คือคำตอบของ คาสซาโน่ ซึ่งก็ไม่ได้ดูรุนแรงอะไร แต่คนพูดดันเป็น คาสซ่า ที่โดนจ้องอยู่แล้ว คำตอบนี้ทำให้เขาโดน ยูฟ่า สั่งปรับเงิน 13,000 ปอนด์ แต่ถ้าเป็นคนอื่นผมเชื่อว่าคงปล่อยผ่าน  

ความอ้วน

  อย่างที่บอกไปแล้วในหัวข้อ "ความสามารถ" ว่า คาสซาโน่ ชอบกินและก็จะกินทุกอย่างตามใจปาก ปัญหาที่ตามมาคือความอ้วน เพราะกินๆ แต่ขี้เกียจฝึกซ้อม ครั้งนึงเขาเคยบอกว่า แทบอดใจรอวันที่แขวนสตั๊ดไม่ไหวแล้ว เพราะจะได้นั่งกิน นอนกินทั้งวัน จะกินจนเป็นโรคอ้วนเลย แต่ท้ายสุดเขาก็ยังเล่นต่อไปจนได้ย้ายไป เรอัล มาดริด   พอไปอยู่ที่สเปน อาหารการกินคงอร่อยถูกปากมากกว่า อิตาเลี่ยนบ้านเกิด พี่แกกินอย่างหนักหน่วง มีเซ็กส์ไปทั่ว ไม่ตั้งใจซ้อม ทำให้น้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ไปเยอะ จนโดนลดชั้นไปซ้อมกับทีมสำรองของทัพ "ราชันชุดขาว" แต่เจ้าตัวก็ไม่แยแส กูมีความสุขในการกิน ในการฟันหญิง ทำให้ มาดริด ทนไม่ไหวจับเขาขึ้นบัญชีขาย แต่แหงหล่ะใครจะกล้าเสี่ยงซื้อ ท้ายสุดทีมดังแดนกระทิงดุ ตัดใจยอมจ่ายค่าชดเชยเพื่อฉีกสัญญา ขจัดทิ้งพ้นทีม   แต่ครับแต่เวลาพี่แกเอาจริงเอาจังด้านการลดน้ำหนักก็ทำได้นะ ปี 2013 หลังเซ็นสัญญากับ ปาร์ม่า คาสซ่า กระสันติดทีมชาติอิตาลี ไปลุยฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล จึงตั้งใจจริงที่จะลดน้ำหนัก และก็ทำได้ดีมากสลายไขมันไปได้ 10 กิโลภายใน 1 ฤดูกาล และก็ได้ติดธง "อัซซูรี่" ลุยบอลโลกสมใจอยาก ลงเป็นตัวสำรองไป 2 นัด ก่อนที่อิตาลีจะปิ๋วตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม  

ความเพี้ยน

  คาสซาโน่ เคยยอมรับว่าเขาเป็น "ผู้ชายเจ้าปัญหา" หรือพูดง่ายๆ ก็คือติสท์บวกเพี้ยนผสมกันนั่นแหละ อย่างล่าสุดเลยเมื่อกรกฏาคมปีที่แล้ว เขาสะบัดหมึกเซ็นสัญญากับ เวโรน่า แต่หลังจากนั้น 8 วันพี่แกก็บอกว่าไม่เอาละ ไม่อยากเล่นละ ขอแขวนสตั๊ดดีกว่า แต่ไม่ทันพ้นวัน ประกาศรีไทร์ตอนเช้า ตกเย็นพี่แกบอกว่าเปลี่ยนใจละ ขอเล่นต่อดีกว่า ที่พูดไปเมื่อเช้าเพราะจิตใจกำลังอ่อนแอ   ใครก็คิดว่าเรื่องทุกอย่างน่าจะจบลงด้วยการที่ คาสซ่า สวมสตั๊ดโชว์เพลงแข้งให้ เวโรน่า แต่ 6 วันหลังจาก ประกาศเล่นต่อ พี่แกก็เอาอีกแล้ว คราวนี้บอกขอยกเลิกสัญญาพร้อมให้เหตุผลว่า "เวโรน่า คือสโมสรที่ไม่ใช่สำหรับผม มันก็เหมือนเวลาคุณเห็นผู้หญิงแล้วรู้สึกว่าหญิงคนนี้แม่งไม่ดึงดูดใจเลย คุณก็เดินหนีออกมา มันก็แค่นั้น"   ทุกวันนี้ คาสซาโน่ วัย 35 ปี เป็นแข้งไร้สังกัด ส่วนการรีไทร์นั้น สารภาพตามตรงว่าไม่รู้จริงๆ ว่าเลิกหรือยัง เลิกจริงหรือเลิกเล่น เพราะเห็นเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนงงไปหมดแล้ว เอาเป็นว่าสโมสรในไทยทีมไหนอยาก "ลองของ" ก็ลองทาบทามดูได้นะ  

ชิน ชินพัฒน์

 
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline