logo-heading

รายชื่อขุนพลนักเตะทีมชาติไทยที่เตรียมลงเตะกับ เวียดนาม ใน “ฟุตบอลโลก 2022” รอบคัดเลือก โซนเอเชีย นัดแรก วันที่ 5 ก.ย. กำลังจะถูกประกาศในวันที่ 20 ส.ค.นี้

แน่นอนว่าต้องมีทั้งที่ถูกใจและไม่ถูกใจอยู่แล้ว รวมถึงคงมีคำถามออกมาอีกมากมาย เอาเป็นว่าของแบบนี้เข้าสูตร “ลางเนื้อชอบลางยา” คนเราสายตาและความชอบไม่เหมือนกัน อย่าลืมว่า อากีระ นิชิโนะ ถือเป็นกุนซือโปรไฟล์หรูระดับเป็นที่ยอมรับในสากล ผ่านร้อนผ่านหนาวในวงการฟุตบอลมาหลายสิบปีย่อมมีแนวทางการทำทีมเป็นของตัวเอง

นักเตะที่ถูกเลือกคือคนที่ “นิชิโนะ” ต้องการ แต่จะตรงใจคนอื่นหรือไม่...เป็นอีกเรื่อง

คำว่า “โค้ชชอบ” ถือว่าสำคัญที่สุด เพราะโค้ชคือคนที่มีหน้าที่ต้องทำทีม ที่สำคัญคือ “ต้องรับผิดชอบ” กับผลงานที่ตัวเองเลือกมา เงื่อนไขมีง่ายๆ แค่นี้ละว่า “โค้ชต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองเลือกมา” ดังนั้นเรื่องรายชื่อนักเตะจะถูกใจหรือไม่ถูกใจแฟนบอลคงเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ ทุกคนมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้ว แต่คำตอบสุดท้ายอยู่ที่ “ผลงาน” ที่ตามมาเท่านั้น ถึงตรงนี้การเตรียมทีม “ฟุตบอลโลก 2022” น่าจะเริ่มคลี่คลายไปจากเดิมเยอะแล้ว ทั้งรายชื่อนักเตะที่กำลังจะประกาศและ “ทีมงาน” ของ “นิชิโนะ” ที่เริ่มเห็นโฉมหน้าค่าตากัน แผนที่พลาด (จะ) ทำให้เป้าหมาย “โตเกียวเกมส์” พัง !!! ที่น่าเป็นกังวลคือการเตรียมทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีที่เรียกกันว่า “ยู-23” มากกว่า จริงๆ แล้วหากเป็นสมัยก่อนอาจเรียกว่าชุด “ปรีโอลิมปิก” เหตุเพราะทีมชุดนี้มีภารกิจสำคัญในการแข่งขัน “ยู-23ชิงแชมป์เอเชีย 2020” รอบสุดท้าย ในเดือนมกราคม 2020 ที่ประเทศไทยรับหน้าที่เป็น “เจ้าภาพ” เป้าหมายคือการคว้าสิทธิ์เป็น 1 ใน 3 ตัวแทนทวีปเอเชียไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 “โตเกียว เกมส์” ที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงกลางปี 2020 แต่ถึงตรงนี้การเตรียมทีมยังเป็นสิ่งที่น่ากังวลใจ เพราะดูไม่คืบหน้าสักเท่าไร ทั้งที่นี่คือเป้าหมายที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คิดการใหญ่ไว้ตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว สมาคมฯ ตั้งความหวังเอาไว้ในตอนนั้นว่าจะสร้างทีมระยะยาวเพื่อเป้าหมายตีตั๋วไป “โอลิมปิกเกมส์” อีกครั้ง หลังฟุตบอลไทยเคยไปโอลิมปิกมาแล้ว 2 สมัยเมื่อครั้งวันวาน   แผนที่พลาด (จะ) ทำให้เป้าหมาย “โตเกียวเกมส์” พัง !!! แผนล่าตั๋วโอลิมปิกเริ่มต้นตั้งแต่การเตรียมทีมไปแข่งขัน “กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27” ที่มาเลเชีย เมื่อปี 2017 โดยมี “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ รับผิดชอบทำทีม นักเตะที่เกิดตั้งแต่พ.ศ.2540 ถูกเรียกมาติดทีมหลายคน แม้ไม่เต็มรุ่นในซีเกมส์หนนั้น แต่เป็นการเตรียมไว้ระยะยาวสำหรับลุย “ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2020” ในอีก 3 ปีต่อมา แต่ทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผน “โค้ชโย่ง” พาทีมได้เหรียญทองซีเกมส์แต่อยู่ต่อไม่ได้ กระแสไม่ดีมีเสียงวิพากษ์มากมาย สมาคมฯ รับไม่ได้สั่งเปลี่ยนโค้ชใหม่แม้ทำผลงานเข้าเป้า !!! ทว่าการเปลี่ยนโค้ชใหม่ไม่ได้ดีไปกว่าเดิม สมาคมฯ วางแผนผิดอีก ตอนแรกจะให้ มิโลวาน ราเยวัช ควบคุมทีมชาติไทยชุดใหญ่ไปกับ “ยู-23” ด้วย แต่สัญญาจ้างระบุแค่ให้กุนซือเซอร์เบียคุมแค่ทีมชาติไทยชุดใหญ่ สมาคมฯ เลยเลือกคนใกล้ตัวเอา โซรัน ยานโควิช ทีมงานของ “ราเยวัช” มาคุมทีมแทน ปรากฏว่าผลงานหลังจากนั้นเละเทะไม่เป็นท่า พังตั้งแต่ทัวนาเมนต์อุ่นเครื่องจนถึง “ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2018” ตกรอบแรกแบบหมดสภาพ ที่สุดแล้ว “โซรัน” ต้องโบกมือลา สมาคมฯไปเรียก “โค้ชโย่ง” กลับมาทำทีมใหม่ แต่เกิดกระแสใน “เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18” อีก เพราะทีมไม่ใช้แข้งโควต้าอายุเกิน 23 ปีสักคนเนื่องจากต้องการสร้างทีมลุ้นตั๋วโอลิมปิก แผนที่พลาด (จะ) ทำให้เป้าหมาย “โตเกียวเกมส์” พัง !!! พอผลงานไม่ดีตกรอบแรก “โค้ชโย่ง” จึงต้องกระเด็นอีกครั้ง คราวนี้ทีมไปดึงเอา อเลกซานเดร กาม่า ที่สร้างผลงานในลีกไทยอย่างมากมายเข้ามาทำทีมแทน กระแสตอบรับ “กามา” ดีมากๆ หลายคนแซ่ซ้องบอกใช่เลย คนนี้ใช่แน่ๆ แต่ที่ไหนได้ดัน “ผิดแผน” อีก !!! อยู่ทำทีมไปได้ไม่นานกุนซือบราซิลดันขอบ๊ายบายหน้าตาเฉย หลายคนยังงงไม่หายว่าสมาคมฯเซ็นสัญญาอีท่าไหนถึงโดนบอกเลิกกลางคันซะอย่างนั้น !!! ไปๆ มาๆ จากที่ควรต้องเตรียมทีมต่อเนื่องมาตลอด 3 ปีกลายเป็นแทบจะเริ่มนับ 1 ใหม่หมดในช่วง 6 เดือนก่อนแข่งเมื่อต้องมาหาโค้ชกันใหม่อีกแล้ว สมาคมฯตัดสินใจให้ “นิชิโนะ” ทำทีมชาติไทยควบทั้งชุด “ฟุตบอลโลก 2022” และ “ยู-23 เอเชีย 2020” ตามจริงแล้วแนวทางนี้น่าจะดีหากมีระยะเวลาเตรียมทีมที่เพียงพอ แต่พอเห็นเวลาที่กระชั้นชิดเข้ามาทั้ง 2 รายการแล้วถือว่าน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะทีม “ยู-23” แผนที่พลาด (จะ) ทำให้เป้าหมาย “โตเกียวเกมส์” พัง !!! ตอนนี้ความสนใจมุ่งเป้าไปที่ “ฟุตบอลโลก 2022” ที่กำลังจะเตะ แต่ “ยู-23” เงียบไปเลย “นิชิโนะ” จะแบ่งทีมงานไปทำยังไงก็ยังไม่รู้ แล้วจะเริ่มนับ 1 เมื่อไรก็ไม่มีใครทราบ ช่วง “ฟีฟ่าเดย์” ปลายเดือนนี้แว่วว่าจะไม่มีการเคลื่อนไหวของทีม “ยู-23” ด้วย ถือว่าเสียเวลาไปเปล่าๆ ทั้งที่ควรทำอะไรได้บ้างไม่มากก็น้อยเพื่อให้เริ่มต้นนับ 1 ใหม่ จากสภาพและแผนการเตรียมทีมของ “ยู-23” เท่าที่เห็นจึงแทบไม่กล้าหวังตั๋วไป “โตเกียว เกมส์” เลย ขนาดว่าชุดที่เตรียมทีมดีๆ นักเตะดีๆกว่ารุ่นนี้ยังจอดป้ายแค่รอบแรก นี่อุตสาห์เสนอตัวเป็น “เจ้าภาพ” หวังได้เปรียบเพื่อโอกาสในการไปเล่นโอลิมปิกเกมส์ แต่แผนการทำทีมดันเกิดความผิดพลาดและเปลี่ยนแปลงมาตลอด ดังนั้นหากเป้าหมาย “โตเกียว เกมส์” จะพังคงไม่มีอะไรให้น่าประหลาดใจ เพราะดูแววแล้วจะแพ้ตั้งแต่เตรียมทีมแบบยังไม่ทันลงสนามด้วยซ้ำ !!!  

“บับเบิ้ล”

 
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline