logo-heading

ต้องบอกว่าชัยชนะที่ นิวคาสเซิ่ล มีเหนือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 นั้น 2 นักเตะที่ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมากคงหนีไม่พ้น 2 มิดฟิลด์คู่พี่น้องอย่าง ฌอน และแม็ทธิว ลองสต๊าฟฟ์ ที่ประสานงานกันได้อย่างยอดเยี่ยม ชนิดที่เรียกได้ว่าเอาชนะแผงกองกลางของ "ปีศาจแดง" ได้อย่างราบคาบ

และที่มากไปกว่านั้นก็คือ แม็ทธิว ผู้น้อง ก็กลายเป็นคนซัดประตูปลิดชีพ ปีศาจแดง ด้วยปลายสตั๊ดของเขาเอง ทำให้แสงสปอร์ตไลท์ได้สาดส่องมาหาตัวเขาได้แบบที่ไม่ทันตั้งตัว ว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม ของเราจะพาไปรู้จักกับ 2 พี่-น้อง คู่หูคู่นี้กันให้มากขึ้น ว่าเส้นทางสายนักเตะฟุตบอลของเขานั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง ... ไทม์ไลน์ชีวิตการค้าแข้งของ 2 พี่-น้อง ลองสต๊าฟฟ ชีวิตเริ่มต้น สองพี่น้อง ลองสต๊าฟฟ์ มีอายุห่างกันทั้งสิ้น 3 ปี ผู้พี่อย่าง ฌอน ลืมตาดูโลกเมื่อปี 1997 ก่อนที่ปีปฎิทิน 2000 แม็ทธิว จะคลานตามออกมาแบบติดๆ ส่วนในเรื่องของเกมลูกหนัง ฌอน ผู้เป็นพี่ได้รับโอกาสเข้ามาเป็นเด็กฝึกของ นิวคาสเซิ่ล ตั้งแต่ปี 2015 โดยได้ลงเล่นกับทีม "สาลิกาดง" ไล่เรียงมาตั้งแต่ชุด ยู-18 ปี ขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมีชื่อติดทีมชุดใหญ่  แต่ทว่าเส้นทางระหว่างนั้นเจ้าตัวถูกปล่อยยืมตัวไปออกไปถึง 2 ครั้งติดต่อกัน คือเมื่อซีซั่น 2016-17 ไปฝึกปรือฝีเท้ากับ คิลมาร์น็อค ซึ่งเจ้าตัวก็ทำผลงานได้ดีในระดับนึง ด้วยการซัดไป 3 ประตู จากการลงสนาม 17 นัด  ก่อนที่ในฤดูกาลถัดมา ฌอน จะถูกปล่อยยืมตัวอีกครั้ง โดยครั้งนี้ไปอยู่กับทีมในประเทศอังกฤษอย่าง แบล็คพูล แน่นอนที่แห่งนี้เจ้าตัวได้โชว์ของออกมาอย่างเต็มที่ และได้เป็นแข้งตัวหลักของทีม รวมแล้วในซีซั่น 2017-18 เขาลงสนามไปทั้งสิ้น 45 นัด ซัดไป 9 ประตู พ่วงด้วย 6 แอสซิสต์ นำมาซึ่งการที่ นิวคาสเซิ่ล ดึงตัวกลับมาเมื่อซีซั่นที่แล้ว และเป็นแข้งตัวหลักของทีมจวบจนทุกวันนี้ ส่วนฝั่งน้องชายอย่าง แม็ทธิว ก็เดินตามทางพี่ชายมาแบบติดๆ เดินเข้าสู่รั้ว นิวคาสเซิ่ล ก่อนไต่เต้าขึ้นมาทีละชุด โดยไล่ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา แม็ทธิว ลองสต๊าฟฟ์ ลงเล่นให้ทีมชุดเล็กของ นิวคาสเซิ่ล ทั้ง ยู-18 ปี และยู-23 ปี ไปทั้งสิ้น 73 นัด ซัดไป 6 ประตู พร้อมทำอีก 11 แอสซิสต์ เปิดซิงกับทีมชุดใหญ่ สาลิกาดง อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ฌอน ลองสต๊าฟฟ์ พึ่งได้รับโอกาสลงสนามกับทีมชุดใหญ่ของ นิวคาสเซิ่ล ไปเมื่อฤดูกาลที่แล้วนี่เอง ภายใต้การคุมทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ โดยนัดเปิดซิงของ ฌอน เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2018 ในเกมที่ "สาลิกาดง" บุกไปพ่ายเละให้กับ ลิเวอร์พูล 4-0  โดยในเกมดังกล่าว ฌอน ได้โอกาสลงสนามในฐานะตัวสำรองแทนที่ เคนเนดี้ ในช่วงนาทีที่ 73 ซึ่งหลังจากนั้นเจ้าตัวก็ได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องก่อนที่ ก่อนที่ในเดือนมีนาคม ที่ผ่านมาเจ้าตัวจะมีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่า ทำให้ต้องปิดซีซั่นดังกล่าวตั้งแต่ช่วงนั้นเป็นต้นมา ข้ามมาที่ฝั่งน้องชายอย่าง แม็ทธิว กันบ้าง เกมเมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ คือการได้โอกาสลงสนามในทีมชุดใหญ่ นิวคาสเซิ่ล เป็นครั้งแรก และมันเป็นการออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เจอทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกด้วย และมากไปกว่านั้นมันเหมือนฝันตรงที่เขาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม และยิงประตูชัยให้ทีม พร้อมได้รับรางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ หลังจบเกมอีกต่างหาก ไทม์ไลน์ชีวิตการค้าแข้งของ 2 พี่-น้อง ลองสต๊าฟฟ สถิติของ แม็ทธิว ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ในเกมๆ เดียว จะทำสถิติมากมายให้กับเด็กหนุ่มอายุ 19 ปี 199 วัน รายนี้ ไม่ว่าะเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูเปิดตัวในเกมพรีเมียร์ลีกให้กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด  หรือว่านักเตะที่อายุน้อยที่สุดอันดับ 2 ที่ยิงประตูชัยในศึกพรีเมียร์ลีก ที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดย เจอร์เมน เดโฟ คือผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุด ที่เคยทำได้ตอนที่เล่นให้ เวสต์แฮม ด้วยอายุเพียง 19 ปีกับ 62 วัน เมื่อเดือนธันวาคม 2001 ความฝันที่ได้เล่นด้วยกัน แน่นอนว่าการมีพี่-น้อง ร่วมสายเลือด และได้เดินตามทางเส้นสายนักฟุตบอลอาชีพด้วยกันแล้ว การได้ยืนเล่นเคียงข้างกันคงเป็นอะไรที่เฟอร์เฟ็คไม่ใช่น้อย ซึ่งทั้งสองพี่น้องตระกูล ลองสต๊าฟฟ์ ก็ได้ทำแบบนั้นอย่างกับวาดฝันด้วยตัวเอง การคุมเกมแดนกลางให้กับ 'สาลิกาดง' ในการเผชิญหน้ากับทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันยิ่งกว่าการบรรลุเป้าหมาของชีวิต ถึงแม้คู่แข่งในตอนนี้จะหลงเหลือความน่ากลัวแค่เรื่องราวในอดีตก็เถอะ  ซึ่งภายหลังจบเกมที่ ที่ผู้น้องอย่าง แม็ทธิว เป็นผู้พังประตูชัยนั้น ฌอน ผู้เป็นพี่ก็อดภูมิใจในตัวน้องคนนี้ไม่ได้จริง ถึงขนาดที่ต้องเอ่ยปากชื่นชมสายเลือดของตัวเองแบบสุดใจ "ผมมีความสุขมากๆ เหมือนลอยออกไปถึงดวงจันทร์เลย ผมไม่เคยภูมิใจในตัวเขามากขนาดนี้มาก่อนเลย" ส่วน แม็ทธิว ก็ออกมากล่าวด้วยความปลื้มปริ่มกับดารได้สู้รบเคียงข้างพี่ชายตัวเองว่า "ผมคิดว่าการเล่นร่วมกับ ฌอน มันเป็นอะไรที่เหลื่อเชื่อมากจริงๆ เราเคยใช้สนามหญ้าในการเตะบอลเพื่อเติบโตมาอยู่ในทีมเดียวกันกับสโมสรบ้านเกิด และเพื่อเอาชนะทีมที่ยอดเยี่ยมอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ตอนนี้แม่งเหมือนฝันเลย" 
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline