logo-heading

เมื่อวานนี้ (26 พ.ย.) ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ลงประเดิมสนามในศึกซีเกมส์ 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยแพ้ให้กับทีมอิเหนา อินโดนิเซีย ไปอย่างหมดรูป 0-2 ซึ่งมันช่่างเป็นผลการแข่งขันที่น่าผิดหวังมากๆ ในเกมนัดเปิดสนาม และถ้าเล่นด้วยฟอร์มแบบนี้ ใน 4 เกมที่เหลือ รับรองมีโอกาสเก็บกระเป๋ากลับบ้านตั้งแต่รอบแรกแน่

แต่อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งตื่นตูมไป มันเพิ่งเกมแรก และยังมีโปรแกรมให้ทีมช้างศึกแก้ตัวอีกถึง 4 แมตช์ในรอบแบ่งกลุ่ม ถ้าไม่สามารถเข้ารอบได้ ก็คงต้องพิจารณาตัวเองแล้วละครับ ซึ่งไม่แน่ว่าลูกทีมของอากิระ นิชิโนะ อาจจะเป็นประเภทเครื่องร้อนช้า อาจจะค่อยๆ ดีขึ้น และไปพีคสุดๆ จนคว้าแชมป์มาครองก็เป็นได้ ดังนั้นลืมนัดนี้ไปก่อนและรอเชียร์เกมต่อไป ย้อนกลับมาที่เกมแรก ที่ทีมชาติไทยแพ้ให้กับอินโดนิเซีย ไป 0-2 ทั้งๆ ที่ก่อนเกม ทุกคนต่างมันใจว่าแย่ที่สุดก็คงจะเสมอ แต่ไม่น่าจะถึงขั้นแพ้ ซึ่งนอกจากจะแพ้แล้ว ต้องบอกว่ารูปเกมก็ไม่ดีด้วย มันเกิดอะไรขึ้นกับทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ในเกมนี้ เราไปดูเหตุผล 5 ข้อกัน 1.นิชิโนะ ไม่กล้าจัดชุดใหญ่ เกมนี้ อากิระ นิชิโนะ จัดตัวแบบผสมผสาน ทั้งตัวหลักและตัวสำรอง ซึ่งนักเตะอย่าง สุภโชค สารชาติ มีชื่อเป็นสำรอง แต่ก็เข้าใจได้ว่าต้องการจะให้ดาวเตะจากบุรีรัมย์ ได้พักบ้างเพราะกรำศึกหนักมาเยอะทั้งฤดูกาล แถมกับทีมชาติชุดใหญ่ในบอลโลก รอบคัดเลือกอีก ส่วนแกนหลักอย่าง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ก็เพิ่งหายเจ็บเก็บไว้ในเกมสำคัญดีกว่า เช่นเดียวกับ รัตนากร ใหม่คามิ ก็ยังไม่ใช้งานในเกมแรกนี้ ที่กล่าวมานั้นล้วนแล้วแต่เป็นตัวจริงของทีมทั้งสิ้น แต่กุนซือชาวญี่ปุ่น เลือกที่จะใช้ชุดผสม เพราะต้องการให้ทีมมีความสดมากที่สุดในแต่ละแมตช์ เพราะมันต้องเล่นกันแบบวันเว้นวัน ถ้าจัดเต็มทุกนัด กลัวว่าจะมีใครบาดเจ็บ ซึ่งรูปเกมมันก็ออกมาอย่างที่เห็น พอมันไม่ใช่ชุดเต็ม การประสานงานอะไรต่างๆ มันก็ดูติดๆ ขัดๆ และแทบจะไม่มีโอกาสยิงลุ้นประตูด้วยซ้ำ ซึ่งจริงๆ แล้ว เกมนัดแรกนั้นสำคัญ ยิ่งเจอกับอินโดนิเซีย ที่วรรณะก็ไม่ได้ต่างจากไทย ในซีเกมส์ ก็ควรจะจัดเต็มดีกว่า เพื่อเอาชนะไว้ก่อน แล้วเกมต่อๆ ไปที่เจอทั้ง บรูไน, สิงคโปร์ และลาว ค่อยโรเตชั่น ก็ไม่เสียหาย และไปจัดเต็มกับเวียดนามในเกมสุดท้ายอีกครั้ง แต่พอผลเป็นแบบนี้ก็ทำให้ทีมช้างศึกจะพลาดไม่ได้อีกแล้ว ถ้าพลาดอีกเท่ากับต้องกลับบ้าน จำไว้ 2.โดนนำเร็ว จุดเปลี่ยนสำคัญก็คือทีมอิเหนา ดันมาได้ประตูอย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 3 ทำให้พอพวกเขานำก็ลงไปแพ็กเกมรับกันแน่น ซึ่งไทยเองที่ทีมเวิร์คไม่ค่อยจะดีอยู่แล้วด้วย ก็ยิ่งเจาะไม่เข้า ยิ่งเล่นก็ยิ่งกดดัน แถมอินโดเกมรับก็เหนียว และมีนายทวารที่แม่งเหนียวหนึบ เท่านั้นไม่พอ ทั้งหน้าตา รูปร่าง และการเซฟ กูนึกว่า เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ของเชลซี มาเฝ้าเสาให้ ส่วนเกมรุกของไทย ในเกมบอกตามตรงฝากผีฝากไข้ไม่ได้เลย 3.สนามหญ้าเทียมทำพิษ ในซีเกมส์หนนี้ เจ้าภาพฟิลิปปินส์ เลือกใช้สนามหญ้าเทียมเป็นสังเวียนแข่งขัน ซึ่งเราก็รู้ดีอยู่แล้วว่านักเตะไทยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ และยิ่งเห็นพื้นสนามที่ริซาล สเตเดี้ยม ที่ไทยพบอินโดเมื่อวาน บอกเลยแม่งกากกว่าสนามบอลหญ้าเทียมแถวบ้านผมอีก จ่ายบอลทีเม็ดยางดำๆ แม่งกระจายขึ้นมาอย่างเยอะ และดูเหมือนหญ้าก็ไม่ได้เปลี่ยนมานาน บอลเด้งกระดอน และไหลเร็วมาก อย่างกับเตะบนพื้นปูน ซึ่งเห็นได้ชัดว่านักเตะไทยเราเล่นผิดจังหวะไปหมด จ่ายบอลไม่ตรง จ่ายบอลแรง จังหวะจะยิงก็ลื่น วางเท้าบิดเบี้ยวไปหมด แต่ทั้งหมดนี้มันไม่ใช่ข้ออ้าง เพราะอินโดก็เล่นสนามเดียวกัน และเขาก็ยังเล่นได้ เพียงแต่นักเตะไทยเราแม่งเล่นไม่ได้เท่านั้นเอง 4.ความกระหายในชัยชนะ อีกอย่างที่เห้นได้ชัดคือความมุ่งมั่น และความกระหายในชัยชนะ เราเห็นได้จากรูปแบบการเล่น แววตา และความตั้งใจของนักเตะอินโด ดูจะมีมากกว่าเรา มากกว่าเยอะด้วย ถ้าใครได้ติดตามฟุตบอลอินโดฯ จะรู้ว่าช่วงนี้อยุ่ในช่วงขาลงสุดๆ ทีมชุดใหญ่ในบอลโลก ก็แพ้รวด ดังนั้นพวกเขาจึงหมายมั่นปั้นมือที่จะทำผลงานในซีเกมส์ให้ดี ยิงการเจอกับไทย ก็จะได้เป็นการล้างแค้นให้ทีมชุดใหญ่ที่แพ้มาก่อนหน้านี้ด้วย และพวกเขาก็ทำสำเร็จ จะเห็นได้จากอาการดีใจของนักเตะอินโด และโค้ช ที่เห็นชัดว่าพวกเขาดีใจมากๆ ขณะที่นักเตะไทย ของเรา ก็เหมือนเล่นไปตามเกม ไม่ได้มีอะไรตื่นตัว แถมที่ข้างสนาม ท่านอาจารย์ นิชิโนะ ก็นิ่งมาก นิ่งจนไม่รู้ว่าพี่รู้สึกอะไรกับเกมมั่ง ไม่มีการกระตุ้น หรือสตาฟฟ์โค้ชคนอื่นๆ ออกมาสั่งการอะไรเลย ก็หวังว่าเกมหน้ามันจะดีขึ้นนะครับ 5.เกมแรกมักเล่นยากเสมอ ข้อสุดท้าย มันเป็นสิ่งใครๆ เขาก็พูดกันว่า ฟุตบอลนัดแรก มันยากเสมอ อันนี้ผมเห็นด้วย นัดแรกไม่มีใครอยากแพ้ และนัดแรกมันก็เหมือนเป็นการเริ่มต้น อะไรต่างๆ มันยังไม่เข้าที่ เกมนัดเปิดสนามส่วนใหญ่ก็เลยเป็นเกมที่อึดอัด และไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ ซึ่งนั่นมันน่าจะเป็นกับทีมชาติไทยของเราแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็นั่นแหละ ในเมื่อเกมแรกมันยาก และทำไมอินโดฯ เขาถึงเอาชนะเราได้ ทั้งหมดทั้งมวลเราคงต้องตั้งคำถามตัวเอง ว่าแพ้เพราะอะไร และจะกลับมาชนะได้อย่างไร เชื่อว่านักเตะทุกคนพร้อมลงไปเล่นเพื่อชาติ และก็ทำหน้าที่ของตัวเองเต็มที่แน่นอน ก็หวังว่าเราจะได้เห็นสิ่งเหล่านั้นในเกมนัดต่อๆ ไป

นี่ก็เป็นเหตุผลทั้งหมด 5 ข้อที่ทำให้ทีมชาติไทยเราปราชัยในเกมแรก โดยเกมนัดต่อไปเราจะพบกับเศรษฐีน้ำมันอย่างบรูไน ซึ่งก็มั่นใจว่าทีมชาติไทย จะกลับมาได้ในเกมนี้อย่างแน่นอน อยู่ที่ว่าจะยิงได้เท่าไหร่ โดยเวียดนามเขาทำมาตรฐานไว้ 6-0 ต้องรอดูพี่ไทยว่าจะยิงเยอะกว่าทีมดาวทองหรือไม่ วันพฤหัสบดีที่ 28 พ.ย.นี้ บ่ายสามโมงตรง ลุ้นกัน

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline