อีรุงตุงนัง! ไทม์ไลน์สถานการณ์เลือกสนามนัดชิง แชมเปี้ยนส์ลีก

หลังจากฝ่าฟันกันมาอย่างยาวนานศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดุกาลนี้ก็ได้บทสรุปคู่ชิงชนะเลิศออกมาแล้วเป็นที่เรียบร้อย เมื่อ 2 สโมสรยักษ์แห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะต้องโคจรมาพบกับ เชลซี

ซึ่งจากเดิมคู่ชิงถูกกำหนดการแข่งขันไว้ที่สนามอตาเติร์ก โอลิมปิก สเตเดี้ยม ในเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี แต่ทว่าด้วยสถานการณ์โรคระบาด โควิด-19 บวกกับพื้นที่ประเทศตุรกียังคงเป็นสีแดง ของรัฐบาลอังกฤษอยู่ ทำให้ฟูการเดินทางไปแข่งขันมันอาจจะยากลำบากไปเสียหน่อย ฉะนั้นแล้วเลยมีการหารือกันว่าอาจจะต้องโยกสนามแข่งขันมาหวดแข้งกันที่ประเทศอังกฤษแทน เพื่อเป็นการตัดปัญหาเรื่องของการเดินทาง รวมไปถึงป้องกันเชื้อโควิด-19 อีกด้วย แต่ทว่าดูเหมือนตอนนี้สถานการณ์จะไม่ได้ง่ายเสียแแล้วที่แดนผู้ดีจะได้รับเลือกให้จัดการแข่งขันด้วยเงื่อนไขบางอย่าง  ว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม ของเราเลยจะพาไปไล่เรียงดูไทม์ไลน์เหตุการณ์ในครั้งนี้กันหน่อยว่ามันเป็นอย่างไรบ้าง และอังกฤษจะยังคงได้เดินหน้าจัด อิงแลนด์ ไฟนอล ครั้งนี้ ในประเทศของตัวเองได้หรือไม่

แรกเริ่มยูฟ่า เข้าหารือ รัฐบาลอังกฤษ

อย่างที่ได้เกริ่นนำไปในตอนแรกนะครับว่านัดชิงชนะเลิศฤดูกาลนี้อาจมีการโยกย้ายสนามแข่งขันในกรณีพิเศษจากสถานการณ์ของโลกใบนี้ทำให้ทาง สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ได้เข้าหารือกับ รัฐบาลอังกฤษ เพื่อตัดสินใจในประเด็นดังกล่าว  ซึ่งในช่วงก่อนหน้านี้รัฐบาลอังกฤษ ประกาศว่า ตุรกี เป็นพื้นที่สีแดง เพราะการแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 ฉะนั้นแล้วกรณีที่แฟนบอลจะเดินทางไปเชียร์ทีมรัก เมื่อกลับมายังอังกฤษจะต้องมีเข้ารับการกักตัวเป็นระยะเวลา 10 วัน ภายหลัง ยูฟ่า อนุญาตให้กองเชียร์เข้าสนามได้ 1 หมื่นคน โดยประเด็นนี้ยังไม่ได้มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่าจะโยกมาเตะกันที่สนามเวมบลีย์ เพื่อลดความเสี่ยง โควิด-19 หรือไม่ ซึ่งคำตอบชี้ขาดจะออกมาในช่วงวันพุธนี้

เวมบลีย์ อาจไม่ว่างจัดแข่งขัน

ประเด็นนี้กลายเป็นหัวเรื่องล่าสุดที่เข้ามา เพราะเกมนัดชิง แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลนี้มันตรงกับวันที่ 29 พ.ค. ซึ่งจากโปรแกรมเดิมสนามเวมบลีย์ จะถูกใช้จัดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของรอบเพลย์ออฟ ศึกเดอะ แชมเปี้ยนส์ชิพ ทำให้เกิดโปรแกรมชนกันแบบไม่ได้นัดหมาย ซึ่งประเด็นดังกล่าวก็ถูกแบ่งแยกเป็น 3 กรณีที่อาจจะเกิดขึ้น หนึ่งคือขยับเกมตัดสินแชมป์เพลย์ออฟ แชมเปียนชิพ ออกไปอีก 1 วัน หรือเลื่อไปหวดชิงตั๋วขึ้นพรีเมียร์ลีกในวันที่ 30 พ.ค. แทน เพื่อเปิดทางให้คู่ชิงบอลถ้วยบิ๊กเอียร์ได้ลงสนามแข่งขันกันก่อน  ทางเลือกที่สองคือหาสนามอื่นๆ ในอังกฤษที่มีความพร้อมที่จะเปิดให้ใช้บริการในรอบชิงคราวนี้อย่างเช่น โอลด์ แทรฟอร์ด, แอนฟิลด์ หรือ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ สเตเดี้ยม เป็นต้น หรืออีกทางเลือกสุดท้ายคือการที่ ยูฟ่า อาจจะตัดสินใจจัดแข่งขันที่ประเทศตุรกีตามเดิม หรืออาจย้ายไปเตะที่สนามเป็นกลางในประเทศอื่นๆ ที่มีข้อจำกัดเรื่องมาตรการโควิด-19 น้อยกว่า "แดนไก่งวง" เพราะจะได้เข้ากับมาตรการรักษาความปลอดภัยของรัฐบาลประเทศอังกฤษ

สื่อใหญ่ระบุเวมบลีย์ (อาจ) จัดนัดชิงไม่ได้

เดอะ ไทม์ส สื่อชื่อดังได้ออกมารายงานข่าวว่าเกมนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกที่มีการหารือกันนั้นอาจจะหมดสิทธิ์ไม่ได้โยกย้ายมาหวดแข้งกันที่อังกฤษเสียแล้วเนื่องด้วยกฎระเบียบการกักตัวของแขกวีไอพีที่จะเดินทางมาเข้าชมเป็นสักขีพยานในเกมนัดสำคัญนี้ แน่นอนว่าเกมสำคัญระดับนี้ย่อมมีบุคคลระดับบิ๊กเข้ามาเป็นแขกกิตติมาศักดิ์มากมายในสนาม แต่ทว่าปัญหามันอยู่ที่จุดนี้แหละครับถ้าโยกสนามไปแข่งกันที่อังกฤษจริง และด้วยกฎระเบียบการกักตัวของแขกวีไอพีที่ทาง ยูฟ่า มองว่าอยากให้ทางรัฐบาลอังกฤษเว้นกฎระเบียบการกักตัวให้กับเหล่าบุคคลเหล่านั้นที่คาดว่าจะเข้าร่วมชมในสนามราง 2,000 คน รวมไปถึงเจ้าที่ในส่วนต่างๆ และทีมงานถ่ายทอดสด ซึ่งถ้ารัฐบาลอังกฤษไม่สามารถผ่อนปรน หรือยกเว้นให้กับกลุ่มคนดังกล่าวได้ทางฝั่ง ยูฟ่า ก็อาจจะมองหาประเทศที่มีความพร้อมในเรื่องนี้ในการเป็นตัวแทนในรอบชิงชนะเลิศแทน โดยคาดการณ์กันว่าตอนนี้สนาม เอสตาดิโอ ดราเกา สนามของ เอฟซี ปอร์โต นั้นมีความเป็นไปได้มากที่สุด เมื่อมองในเรื่องความพร้อม หากว่าต้องย้ายสนามกันจริง ส่วนที่อังกฤษนั้นพูดเหมือนจะง่าย แต่ว่าในทางปฏิบัติ มันลำบาก และ วุ่นวายเหลือเกิน โดยบทสรุปของเรื่องนี้จะออกมาในรูปแบบไหน อิงแลนด์ ไฟนอล จะถูกจัดขึ้นในดินแดนประเทศตัวเอง หรือสังเวียนเป็นกลาง อีกไม่นานคำตอบกำลังจะออกมาแบบชัดเจน เพราะทุกอย่างต้องได้รับข้อกระจ่างโดยเร็วที่สุด เพราะเหลือเวลาให้เตรียมการจัดแข่งขันอีกไม่นานมากแล้ว  แต่ที่แน่ๆ นี่จะกลายเป็นรอบชิงชนะเลิศศึก แชมเปี้ยนส์ ที่มีความอีรุงตุงนังมากที่สุดครั้งนึงในประวัติศาสตร์การแข่งขันที่จะถูกพูดถึงอย่างแน่นอนในอนาคต

- เปา ขอบสนาม -