logo-heading

 ยุทธการเดือดเชือดนาซี ที่เดือดดุ พล่ามกันทั้งเรื่อง แต่โคตรมีเสน่ห์ และที่สำคัญเควนตินก็ขีดเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ไม่ต้องไปอิงกับเรื่องจริง

. ความชอบ ขอไม่พูดหรือไปสปอยเนื้อหานะครับ เพราะผมเชื่อว่ายังมีคนที่ยังไม่ดูเรื่องนี้อยู่พอสมควร แม้ว่าหนังจะมีอายุครบ 10 ปีแล้ว ปกติหนังของเควนตินจะมีกลิ่นอายยุค 70 ที่เขาเติบโตกับการเสพย์งานภาพยนตร์แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ มีสิ่งหนึ่งที่เห็นได้อย่างแน่ชัดคือ มันต้องเลือดสาดตามแบบฉบับของเขานั้นแหละ เพราะเรื่องนี้เลือดเพียบเพราะสังหารคนได้มีชั้นเชิง โอเคละนี่คือเรื่องที่อ้างอิงจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เกี่ยวกับพวกนาซีที่ครอบครองฝรั่งเศส ส่งทหารสุดเหี้ยม นักล่ายิว มาตามไล่จับไล่ฆ่าชาวยิวที่หลงเหลืออยู่ ในขณะที่ฝั่งตรงข้ามก็มีแกงค์โคตรแซบชื่อว่า Inglourious Basterds ที่มีวิธีการคือพวกกูจะถลกหนังหัวนาซี หนังบิดประวัติศาสตร์เอามาล้อได้มีความสนุก ตัวละครเยอะ บทพูดเยอะ พูดเร็วมากบทพูดส่วนใหญ่จึงอิงกับภาษาเยอรมันที่เยอะมาก ใครดูเตรียมใจอ่านซับภาษาอังกฤษและไทยให้ดีครับ บทสนทนากัดจิกเสียดสีได้สนุกครับเพราะมันคมคายเหลือเกิน . นักแสดง คงไม่พ้น แบรด พิตต์ ที่มาเป็นแสดงนำเป็นร้อยโทอัลโด เรน หัวหน้าหน่วยรบในการสังหารนาซี ด้วยบุคลิกของเขามันเลยทำให้เล่นได้กวนตีนพอสมควร ผมรู้สึกว่าบทนี้มีภาพที่น่าจดจำมากสำหรับคนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ บทพูดที่ต่อปากต่อคำกับฮาน ลันดา มันดูเข้าที่เข้าทางมากนะ ติดอย่างเดียวอุตส่าห์เป็นดารานำในโปสเตอร์แต่กว่าจะปรากฏตัวในหนังช้าไปหน่อย คริสโตฟ วอลซ์ ถ้าจะหานักแสดงที่บทเด่นกว่า แบรด พิตต์ ในเรื่องก็คิดเป็นพี่แกนี่แหละ เพราะหนังเรื่องนี้เขาได้ปล่อยศาสตร์การแสดงออกมาเพียบ ท่าทางชวนกวนตีนทำตัวเหมือนเป็นคนดี แต่ที่ไหนได้เลือดเย็นในการสั่งฆ่าสังหารเหยื่อได้แบบน่ากลัว คือบทที่เล่นมันมีเอกลักษณ์มาก เพราะผมดูหนังเรื่องนี้จดจำฮาน ลันดา ได้มากกว่าแบรด พิตต์ ซะอีก เมลานี่ โลรอง ที่มารับบทเป็นโชซานน่า ไดรย์ฟัส สาวที่ต้องการแค้นนาซีหลังต้องมาเห็นครอบครัวถูกฆ่าตาย ฝีมือและสีหน้าทางการแสดงของสาวชาวเมืองน้ำหอม เล่นได้หลากหลายอารมณ์มาก คนเศร้าที่เก็บความแค้นเพื่อมาสังหารแก๊งทหารนาซีในโรงหนัง น่าเสียดาย ที่ฮิตเลอร์บทไม่ได้เขียนมาให้เธอเป็นคนสังหารแค่นั้นละ . ความไม่ชอบ มีเรื่องเดียวที่ผมไม่ชอบก็คงเป็นประเด็นที่คณะทีมงานของแบรด พิตต์ มีบทบาทน้อยไป คือเข้าใจว่าหนังควรให้รายละเอียดการฟาดฟันประชัดบทกันระหว่างของตัวเอก และปมการแก้แค้นของฮาน ลันดา และ โชซานน่า ไดรย์ฟัส ที่มีประเด็นความหลังในช่วงต้นเรื่อง ซึ่งมันก็พูดเยอะเกินไปนะในการปูทางเข้าสู่เนื้อหา . สรุป : ผมไม่รู้จะนิยามหนังเรื่องนี้ยังไงดี เพราะเควนตินทำให้หนังเรื่องนี้เป็นการหยิบจับประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่2ในบริบทใหม่กัดจิกกันได้สนุกครบเครื่องมาก บทสนทนากวนๆตามสไตล์และทีมนักแสดงทุกคนก็พีคๆมาก ดาราดังมาเซอร์ไพรส์ในฉากเล็กๆตลอดเวลา หนังมีความลงตัวของตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่จำเป็นต้องมีฉากแอ็คชั่นมากมาย แต่กลับสนุกสนานและเพลิดเพลินจริงๆ แจกรีวิว 9/10
logoline