logo-heading
 

“ถ้าหาเมียมันง่ายเหมือนถ่ายภาพ ผมคงแต่งงานไปนานแล้ว” ประโยคที่พระเอกในเรื่องโดนถามจากครอบครัวตัวเองว่าเมื่อไหร่จะมีแฟนเสียที เชื่อว่าหลายๆคนที่เป็นผู้ชายโสดมานานคงโดนถาม ถ้าหากคุณปราศจากความรัก ไร้สุภาพสตรีมายืนข้างกาย ในทีแรกนี่คือหนังที่ผมเองมองข้ามไปด้วยซ้ำ เนื่องจากส่วนตัวไม่ค่อยชอบวัฒนธรรมอินเดีย และมักเข้าใจอะไรผิดๆว่าหนังประเทศนี้มันคงเต้นๆแล้วร้องเพลง ผมจึงเมินเฉย ทว่าคำว่า photograph เนี่ยละ ที่ยินยอมละทิ้งอคติไป แล้วไม่รอช้าไปนั่งดูมันเสียเลย หนังรักที่มีภาพถ่ายเป็นสื่อกลางของตัวละคร 2 คน ที่เป็นคนแปลกหน้า ถูกนำมาถ่ายทอดมุมมองได้ดีงดงาม จากฝีมือผู้กำกับ Ritesh Batra จากหนังดังเรื่อง The Lunchbox และมันก็สมควรแล้วที่หนังเรื่องนี้ถูกนำไปฉายในเทศกาลหนังเบอร์ลิน เมื่อช่วงกุมภาพันธ์ 2019

ข้อดี . ถ้าหากใครก็ตามคิดว่ามันเป็นหนังรักที่งดงามระหว่างคน 2 คน ขอบอกเลยว่ามันไม่ใช่แบบนั้นแน่นอน เพราะในความเป็นจริง มันเป็นหนังที่ดำเนินเรื่องได้เรียบง่าย ภาพถ่ายคือจุดเริ่มต้นเป็นสื่อกลางนำให้คนที่ไลฟ์สไตล์อยู่ละมุมได้มาเจอกัน พระเอกและนางเอกเป็นคนแปลกหน้าซึ่งกันและกันเพื่อจะมาหลอกญาติฝ่ายชายว่ามีคนรักจะได้ไม่โดนจับคลุมถุงชน เลยต้องมาขอความช่วยเหลือ . ตัวละครนำพาเราไปสำรวจชีวิตแวดล้อมของผู้คนในเมืองมุมไบ เมืองที่ว่ากันว่ารถติดติดลำดับต้นๆของโลก แถมผู้คนก็ดูวุ่นวาย ปากกัดตีถีบเอาตัวรอดในแต่ละวัน ตัวละครพระเอกหากินกับการถ่ายภาพ ส่วนนางเอกคือนักศึกษาที่ผ่านเข้ามาและโดนรบเร้าให้มาถ่ายรูป . อารมณ์ของหนังวิธีการสื่อสารเมื่อมีตัวละคร 2 คนมาพบกัน มันมีเสน่ห์แบบฉบับหนังแดนภารตะ ช่วงเวลาความเงียบเหงาความเศร้าโศกไกลลื่นราวกับบทกวี ลึกๆแล้วหนังไม่ได้นำเสนอแค่ความรักของหนุ่มสาวที่ต้องพยายามปรับตัวเข้าหากันอีกฝ่าย แต่ยังมีแง่มุมในเรื่องการใช้ชีวิตของสังคมแบบฉบับคนอินเดียนที่เป็นสังคมใหญ่ที่พูดติดกับครอบครัว การมองหาคนที่อยู่ในสถานะเท่าเทียมกัน ซึ่งมันสื่อให้เห็นเรื่องการแบ่งชนชั้นของผู้คนอยู่ ซึ่งจุดนี้เองทำให้หนังมันดูเรียบง่ายสัมผัสได้ว่าผู้กำกับเลือก วิธีการเล่าเรื่องสัมผัสได้ง่ายไม่ซีเรียส ผู้กำกับทำให้ตัวหนังดูผ่อนคลาย . ข้อเสีย . ถ้าจะหามุมที่ผมไม่ค่อยชอบก็คงเป็นการการแคสติ้งตัวละคร ที่ดูไม่ค่อยMake sense คือพระเอกของเรื่องเป็นช่างภาพดูแก่เกินไป ส่วนนางเอกเป็นวัยรุ่นกำลังเรียนหนังสือ วัยกำลังโตคือ มันมีช่องโหว่ห่างเกินไปในเรื่องของวัย ยิ่งในตอนที่ญาติฝ่ายพระเอกถามนางเอกซักคำถาม คือรู้สึกว่ามันเป็นการกำมะลอที่ไม่น่าเชื่อ ไม่เนียน สีหน้าความรู้สึก มันไม่ไปด้วยเลย . สรุป : มันคือหนังรักวัยรุ่นที่ไม่ได้หวานซึ้งกินใจอย่างที่คนทั่วไปคิดกัน ผู้กำกับสื่อสารโดยใช้ตัวละคร 2 คน ถ่ายทอดมุมมองความรักที่เกิดขึ้นจากความบังเอิญแต่ผูกผันแบบเรียบง่ายมีสุขและทุกข์ รู้สึกถึงมนเสน่ห์หนังรักแบบฉบับแดนภารตะ แถมยังได้เห็นวิถีชีวิตผู้คนในเมืองมุมไบอีกด้วย ซึ่งหลายๆบริบทก็สะท้อนวิถีชีวิตสังคมของคนอินเดียให้เห็นถึงความไม่เท่าเทียม คนที่ติดใจกับ The LunchBox น่าจะชอบ Photograph ได้ไม่ยาก แจกคะแนนรีวิว 9
logoline