logo-heading

ยอมรับว่าตนเองมีเครื่องหมายคำถามมากมายกับหนังเรื่องนี้มากพอสมควรในทีแรก มันจะเป็นหนังดราม่าสไตล์ไหนวะ เพราะด้วยความที่ไม่ได้ทำการบ้าน ดูตัวอย่างเรื่องนี้ หรืออ่านคำวิจารณ์รีวิวจากต่างประเทศมาก่อน ผมเลือกที่จะไปสัมผัสด้วยสายตา 2 ข้าง เหตุผลเดียวคือ ทอม แฮงค์ ล้วนๆ ซึ่งผลลัพธ์ที่ผมได้กลับออกมามันช่วยเติมเต็มความรู้สึกดีๆเกี่ยวกับสถาบันครอบครัว การละทิ้งอคติ ความผิดพลาดครั้งเก่า เดินหน้าสู่ความจริง ปล่อยวางและให้อภัย

ข้อดี เรื่องราวที่ไปหยิบมาจาก "Can You Say... Hero?" ของทอม จูโน๊ด ที่เกี่ยวกับรายการ Won't You Be My Neighbor แน่นอนละว่า เมื่อมันถูกหยิบเล่าเป็นหนังมันจึงค่อนข้างไม่ได้น่าสนใจอะไรมากในทีแรก แต่พอเข้าเนื้อหาในหนัง 2 ตัวละครที่มุมมองแตกต่างกัน พิธีกรรายการอารมณ์เหมือนหลอกเด็ก กับนักเขียนทัศนคติไม่ค่อยดีกับครอบครัวตัวเองที่จับผลัดจับผลูมาสัมภาษณ์ คือตัวหนังไม่ได้สนุกหรือตื่นเต้น แต่กลับมอบมุมมองสอนใจคนได้มากมายกว่าที่คิด บทบาท เฟรด โรเจอร์ แม่งดูเป็นคนดีมาก ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา อีกมุมหนึ่งที่ผมชอบมากคือตัวหนังพยายามทำให้เรารู้สึกว่า เหมือนอยู่ในเหตุการณ์ปี 1998 ภาพที่ปรากฏออกมาในตัวหนังมันค่อนข้างใกล้เคียงกับความเป็นจริง เลือกที่จะถ่ายทอดให้ไม่ดีทันสมัย มันเลยรู้สึกว่าดูรายการทีวียุคเก่า นักแสดง คอม แฮงค์ เห้ย ทอม แฮงค์ คือผมรู้สึกว่าบทบาท เฟรด โรเจอร์ ถูกเขียนมาให้กับเขาโดยเฉพาะ เหมือนเราดูพี่แกเล่นเป็นตัวเอง ชายที่ชีวิตจริงก็ดูเป็นพ่อพระ มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย จนกระทั่งมาเจอนักเขียนที่มีปัญหากับการใช้ชีวิตครอบครัวตัวเอง ไปๆมาๆ กลับกลายเป็นว่า โรเจอร์ นี่แหละที่เยียวความรู้สึกดาร์คๆทิ้งไป หน้าที่ของเขาสมบูรณ์แบบมาก ด้าน แมทธิว เรย์ ตัวละครรองที่เป็นนักเขียนมาขอสัมภาษณ์นำเนื้อหาไปลงนิตยสารแท้ๆ กลับกลายเป็นว่าถูกบำบัดซะงั้น เขาคือคนตรงๆแข็งกระด่าง ยึดติดกับความผิดเก่าๆ มันทำให้เขาไม่ค่อยผูกมิตรกับใครง่ายๆ ผมรู้สึกว่า การเข้าฉากของเรย์ ที่เผชิญหน้ากับทอม แฮงค์ เคมีมันเหมาะเจาะดี คนหนึ่งมองโลกในแง่ดี แต่อีกคนแม่งโคตรลบ เหมือนเยียวยาความรู้สึกไม่ดีทิ้งไป ข้อเสีย ในทีแรกผมคิดว่าตัวละครหลักคือทอม แฮงค์ เนื่องจากโปสเตอร์ที่เห็นในทีแรกมันเป็นแบบนั้น แต่พอดำเนินเรื่องออกมา อ้าวตัวละครรองอย่าง แมทธิว เรย์ ในบทบาทนักเขียนที่มาสัมภาษณ์ กลับโดดเด่นกว่าในหลายๆซีน อีกประเด็นคือการบิ้วอารมณ์หนังให้คนดูไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางด้วย คือถ้าดูไม่เคลียร์บางทีอาจถึงหลับเลยก็เป็นได้ สรุป : มันสะท้อนให้ผมรู้สึกว่าไม่ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน การใช้ชีวิตของมนุษย์สถาบันครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญสุดไม่มีใครสมบูรณ์ไปซะทุกอย่าง คนเราแก้ไขอดีตไม่ได้ และจะไม่มีวันแก้ไขอนาคตได้เช่นกัน ถ้าหากปัจจุบันไม่ขจัดความผิดพลาดปมเก่าๆที่บั่นทอนหัวใจออกไปซะ ตัวหนังเรื่องนี้ก็มอบเนื้อหาเชิงบวกได้เยอะพอควร และตัวทอม แฮงค์ก็มอบความดีงามในบทบาทที่เขาเล่นไว้ แจกคะแนนรีวิว 8/10 หนังมีให้ดูแล้วแบบถูกลิขสิทธิ์ที่Itunes
logoline