logo-heading

หลังการเปิดตัว Hbo ในไทย ผมเลยไปแสว่งหาหนังเก่ามาดู ในกลุ่มประเภทที่เราตกสำรวจไม่ได้ดูในโรง จนมาเจอ A STAR IS BORNหนังเพลงรักเมื่อปลายปี 2018 แต่จำกัดโรงฉายในบ้านเรา เลยไม่มีโอกาสได้ดู สุดท้ายสละเวลา 2 ชั่วโมง รู้สึกว่าหนังดีกว่าคิดไว้เยอะและอยากให้คนที่ยังไม่ได้ดูลองไปสัมผัสด้วยตาตัวเองสักครั้ง

เรื่องราวของซุปเปอร์สตาร์นักร้องอย่าง แจ็คสัน เมนย์ที่ได้ไปค้นพบหญิงสาวขี้กลัวแต่มากไปด้วยความสามารถแอลลี่ แจ็คสันได้แอบหลงรักเธอและพยายามผลักดันเธอไปสู่จุดที่เธอฝันนั้นคือ " ซุปเปอร์สตาร์ " . จุดเด่น . นักแสดงทั้งสอง หลังจากดูเรื่องนี้เสร็จคงไม่มีใครเชื่อแน่นอน ว่านี่คือการแสดงเป็นตัวหลักครั้งแรกของเลดี้กาก้า และมันคืองานกำกับหนังใหญ่เรื่องแรกของแบรดลีย์ คูเปอร์ . เลดี้กาก้าการแสดงครั้งแรกของตัวเธอ มันดีมากๆอาจจะไม่ใช่การแสดงที่ดีที่สุดแบบที่ดูเสร็จคุณจะมอบถ้วยรางวัลออสการ์การแสดงให้กับตัวเธอ แต่สำหรับในด้านที่เธอถนัดอย่างการเป็นนักร้อง คือมันโหดเหี้ยมมาก เสียงร้องเธอสามารถบาดลึกไปในจิตใจคุณแบบที่ดูเสร็จคุณจะสามารถร้องไห้แบบไม่รู้ตัวกันเลยทีเดียว ( ซึ่งตอนสุดท้ายผมร้องแบบไม่อายเลย ) . แบรดลีย์ คูเปอร์ ก็เช่นกัน กับการกำกับครั้งแรกอาจพูดได้ว่า AMAZING แต่ก็ยังมีหลายจุดที่ยังไม่กลมกล่อม แต่สำหรับส่วนที่เขาถนัดอย่างการแสดง โอ้โห THE BEST แบบไม่รู้จะเอาอะไรมาเขียนเลย เขาทำให้เราเชื่อจริงๆว่าเขาคือ แจ็คสัน เมนย์ ผู้ชายที่ผูกพันกับดนตรีมาตลอดชีวิต ทุกซีนที่เขาจับกีตาร์ ร้องเพลง คือมันเท่มากๆ เท่แบบวัวตายควายล้ม เสียงร้องที่ร้องจริงๆของเฮียแกเอาไปออกซิงเกิ้ลขาย ก็ขายดีแน่นอน แถมในพาร์ทดราม่าการแสดง แสดงแบบให้คนดูอย่างเราตายไปเลย ถ้าบอกว่านี่คือการแสดงที่ดีสุดตลอดอาชืพการแสดงของ แบรดลีย์ คูเปอร์ ก็คงไม่ผิด . งานโปรดักชั้นและการดัดแปลง ยอมใจการลงทุน เซตสร้างโปรดักชั่นงานคอนเสิร์ตชั้นดีในภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่มาพร้อมกับการอัดเสียงขั้นเทพ ตลอดดูหนังเรื่องนี้เหมือนเรานั่งดูคอนเสิร์ตแพงๆ ที่ต้องจ่ายครึ่งหมึ่นไปดูตลอด 2 ชม.เลย โคตรคุ้ม การดัดแปลงก็ทำได้ดีเยี่ยม ใครจะไปเชื่อว่า A STAR IS BORN คือภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจาก 1976 เพราะเนื้อเรื่องแม่งโคตรสมัยนี้เลย . จุดด้อย หนังมีไดอาล๊อคที่เร็วมากๆ ใครตามไม่ทันจะงงพอสมควรว่าพวกเธอสองคนทะเลาะอะไรกันวะ แถมพล๊อตหนังก็ไม่แปลกตาเท่าไร แต่ก็อย่างว่าครับ ผัดกระเพราถ้ามันเป็นจานที่อร่อยกินเมื่อไรแม่งก็ยังอร่อยอยู่ดี . สรุป ตัวหนังสื่อสารได้งดงาม มีอารมณ์รัก อารมณ์ผิดหวัง มีหลายๆแง่มุมที่รู้สึกว่า  แบรดลีย์ คูเปอร์ และ เลดี้กาก้า ทำให้มันไม่ได้แค่หนัง 1 เรื่องจบ แต่มันมีมีห้วงความรู้สึกที่ติดค้างมาจากหนัง นั้นคือเสียงเพลงที่ไพเราะอยากจะลืมลงได้ มันทำให้เราชอบมาก แจกคะแนนรีวิว 9.5/10 ใครที่ยังไม่ได้ดูดูแบบถูกลิขสิทธิ์ผ่านทาง Hbogo ได้แล้วนะครับ  
logoline