logo-heading

หากอยากหาผลงานคุณภาพใน Netflix ที่ผงาดคว้า 4 รางวัลออสการ์ เมื่อปี 2015 อย่าง Birdman เราขอแนะนำให้คนที่ตกสำเร็จในการชมเรื่องนี้รีบไปหามาดู เพราะหนังอาจดูปกธรรมดาแต่เนื้อหาข้างในสอดแทรกเอาไว้ได้คมคาย นี่คือหนังที่พาคนดูเข้าไปสำรวจและวิพากษ์เรื่องราวของคนวงในหลังฉากมายา ทั้งวงการหนังก็ดี วงการละครเวทีก็ดี ผ่านตัวละครอดีตดาราดังที่กำลังเผชิญหน้ากับจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่เขาพยายามจะกลับไปยืนยังจุดสูงสุดอีกครั้งให้ได้ เรื่องราวมันก็สาละวนอยู่หลังม่านนั่นแหละ ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้เราได้รู้แง่มุมต่างๆของวงการในแบบที่อาจจะยังไม่เคยรู้ อาจจะยังเข้าไม่ถึง และยังไม่เคยสัมผัสมาก่อน โดยหนังหยิบเอาประเด็นที่เป็นนามธรรมทั้งหลายแหล่มาเล่าอย่างออกรสในแบบที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น เสียดสี กัดจิกวงการ นักวิจารณ์ คนดู และบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้องกับวงการนี้ สร้างโลกมายาจำลองที่เรียลสมจริง

ข้อดี สิ่งที่ชอบมากในหนังก็คือ การนำเสนอเทคนิคในการเล่าเรื่องและถ่ายทอดความเป็นไปของผู้กำกับ อเลฮานโด กองซาเลซ อินาร์ริตู ที่ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนว่ากำลังดูหนังที่ถ่ายทำแบบ Long Take ทั้งเรื่อง เพราะหนังเสนอมมุมมองจากการถ่ายทำผ่านกล้องเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น แล้ววิ่งลากยาวจับตัวละครไปสู่ตัวละคร จับซีเควนซ์ไปสู่ซีเควนซ์ เหมือนกำลังตามติดชีวิตพวกเขาเหล่านี้แบบตัวต่อตัว ซึ่งนี่แหละ ถือเป็นไม้เด็ดที่จะทำให้หนังกลายเป็นที่ถูกอกถูกใจของบรรดาเหล่าคณะกรรมการออสการ์และคนดูทั่วไปได้อย่างง่ายดาย ถือเป็นความกล้าของผู้กำกับที่อยากจะนำเสนออะไรแปลกใหม่ให้กับหนังดราม่าเสียดสีสังคมวิพากษ์วงการสักเรื่องที่เอาจริงๆมันก็ทำให้หนังดูพิเศษและพีคขึ้นไปอย่างถึงอารมณ์มากๆ นอกจากเทคนิคแล้ว บทหนังก็ดีเด่นในแง่ของการกระเทาะเปลือกวงการได้อย่างเด็ดขาด อย่างที่บอกไปว่า มันคือการวิพากษ์เสียดสีที่รุนแรงในจุดที่อาจจะทำให้ผู้คนที่เกี่ยวข้องหรือเข้าข่ายกระอักกันได้ไม่ยาก เสียดสีทั้งตัววงการ บุคคล ดารา นักวิจารณ์ นายทุน ผู้กำกับ ค่ายหนัง หรือแม้กระทั่งตัวนักแสดงเอนักแสดง ไมเคล คีตัน ที่มารับบทเป็นริกเกนตัวละครใจความหลักของเรื่อง บทนี้ก็เหมือนเป็นการเสียดสีตัวเขาเองด้วยกลายๆ เพราะมันว่าด้วยเรื่องราวชีวิตของนักแสดงที่กำลังเข้าสู่จุดวิกฤติในการกลับมาโด่งดังอีกครั้ง หลังจากที่เคยได้รับบทเด่นเป็นแคแรกเตอร์ที่เป็นที่กล่าวขานไปทั่วโลก ซึ่งคีตัน มาพร้อมมิติตัวละครที่หลากหลายและเข้าถึงได้ดี ทำให้เราเชื่อในสภาวะต่างๆที่ตัวละครนี้กำลังเผชิญหน้าอยู่ ดูแล้วก็ลุ้นว่า เขาจะทำยังไงกับอุปสรรคที่เกิดขึ้นเป็นลูกโซ่ต่อๆไป เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน ที่ขึ้นจอในมาดของนักแสดงที่เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง แต่เขาก็มีบางอย่างในตัวที่คั่นไว้ด้วยเส้นแบ่งระหว่างความเป็นมืออาชีพและความเป็นอีโก้ ที่ทำให้ใครต่อใครไม่อยากจะร่วมงานด้วย หรือร่วมงานด้วยยากนั่นเอง ก็เหมือนเป็นการกัดล้อ เสียดสีตัวของนอร์ตันเองไปในตัว ซึ่งใครที่ตามข่าวมาก็จะเห็นข่าวนี้ออกมาให้เราได้ยินกันตลอดๆ โดยเฉพาะตอนที่ร่วมงานกับมาร์เวลใน Incredible Hulk นั่นแหละ สรุป Birdman คงไม่ใช่หนังที่เหมาะสำหรับทุกคน เพราะมีความเป็นเฉพาะตัวในแง่ของการเล่าเรื่องราวในกลุ่มคนเพียงกลุ่มเล็กๆ คือเอาตรงๆคือมันไม่ใช่หนักตลาด เป็นหนังทางเลือก ซึ่งดูจะเหมาะสำหรับใครก็ตามที่มีความสนใจในเรื่องราวของวงในวงการมายา สนใจในเรื่องของการเข้าถึงแก่นตัวละครที่สะท้อนให้เห็นสตอรี่ต่างๆของคนบันเทิง ดูจริงใจ ตรงไปตรงมา จะเสียดสีก็ทำได้ถึงแก่น หรือจะตบหน้าคนดูก็ทำเอาหน้าชาได้อย่างบ้าคลั่ง เป็นช่วงเวลาสองชั่วโมงที่อุดมไปด้วยความสนุกสนาน แสบสันต์แบบสุดโต่งในแบบที่ยังไม่เคยเห็นหนังแนวนี้เรื่องไหนทำให้ถึงใจขนาดนี้มาก่อน ที่สำคัญก็คือเทคนิคที่แพรวพราวและช่วยส่งให้เรื่องราวของหนังไปยังจุดที่ควรจะเป็นได้นั้น มันดีงามซะเหลือเกิน แทบอยากจะมอบรางวัลส่วนตัวให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องในการสร้างสรรค์หนังเรื่องนี้ให้ออกมาเป็นงานที่ประทับใจและจำไม่ลืมไปนานซะจริงๆ สามารถรับชมเรื่องนี้ผ่านทาง Netflix
logoline