ถ้าหากปราศจากงานชิ้นนี้ผู้คนมากมายอาจไม่ได้รู้จัก คริสโตเฟอร์ โนแลน งานที่เปรียบเสมือนการแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ที่เขาหยิบไอเดียมาจากน้องชายตัวเอง ที่นำประเด็นผู้ชายคนหนึ่งที่สูญเสียความทรงจำระยะสั้นจนต้องจดบันทึกและสักตามตัวเพื่อเตือนความจำตัวเองขณะออกตามล่าฆาตกรที่ฆ่าภรรยาของเขา
.
เรื่องราวดูเหมือนธรรมดาไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่ข้อความในตัวหนังตั้งหากที่แม่งแปลกและโคตรอาร์ทมาก การดำเนินเรื่องที่มีจุดเริ่มต้นและจุดจบเดินหน้าไปพร้อมกันเพื่อให้หนังมาบรรจบในช่วงท้าย พร้อมกับการเติมเต็มในประเด็นการตั้งคำถามถึงความไม่สมบูรณ์ในความทรงจำของมนุษย์
.
ข้อดี
ได้โปรดจงลืมควาทยอดเยี่ยมของ Dark Knight Trilogy, Inception, Interstellar ไปซะเพราะเรื่องนี้นำเสนอไอเดียของโนแลนล้วนๆ เขาหยิบประเด็นเวลาและความทรงจำมาผสมให้น่าสนใจ ตัวละครหลักถูกบิดเบือนเพราะรับไม่ได้ในสิ่งที่เกิดขึ้น สังการให้สมองสร้างภาพการตายของภรรยาขึ้นมาอีกแบบ และตามล่าตัวฆาตกรที่ไม่มีอยู่จริงแบบไม่สิ้นสุด เพียงเพื่อจะเยียวยาให้เค้ายังมีความหมายในการใช้ชีวิตต่อไป เหมือนเป็นการหลอกตัวเองวิ่งหนีความจริง และวนเวียนไม่รู้จักจบจักสิ้น
.
คนเรามีความทรงจำ และเรามีอคติเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว หากเลือกจะจำในแบบที่อยากจำแล้ว ความทรงจำจะไม่ใช่สิ่งเตือนใจ แต่จะกลายเป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงความหมกมุ่นที่ไม่อาจปล่อยวาง โนแลนนำสิ่งนี้มอบให้ผู้ชมได้ชาญฉลาดและแยบยลมาก
.
หนังทำได้ดีในเรื่องการการลำดับภาพที่แบ่งการเล่าเรื่อง 2 แบบ ด้วยภาพสี และภาพขาวดำ และดำเนินให้มันเป็นการถอยหลัง และตัวหนังยังสอดแทรกรายละเอียดของความทรงจำที่มีทั้งจริงและไม่จริงเข้ามาเพื่อปั่นป่วนสมาธิคนดูในการโฟกัสในแต่ละฉากพอสมควร คุณต้องตั้งใจดูเป็นพิเศษเพราะเทคนิคการเล่าเรื่องในหนังเจ๋งมาก คือเล่นความทรงจำของตัวละครหลักและสร้างความสับสวนให้คนดูไปได้พร้อมๆ
.
นักแสดง
นับถือกาย เพียร์ซมากๆ เขาต้องทำอารมณ์มากมายเพื่อเข้าให้ถึงคาแรกเตอร์ ผู้ชายที่สูญเสียหมกหมุ่น หลอกตัวเอง สร้างจินตนาการขึ้นมา เพื่อเจอภาพเหตุการณ์ที่ไม่รู้จักจบจักสิ้น การเล่นบทนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่ต้องถ่ายทำแสดงออกมาในหลายอิริบาบถ ซึ่งเขาได้น่าทึ่งมาก
ข้อเสีย
หนังค่อนข้างแปลกแตกต่างจากหนังตลาดทั่วไป โนแลนเล่นประเด็นความคิด ความทรงจำ เวลา เพื่อให้ตัวละครที่หมกหมุ่น แล้วขยี้ปมได้น่ามหัศจรรย์ ถ้าดูหนังเพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียว อาจเกิดคำถามว่าหนังเรื่องนี้ดีจริงหรอเนี่ย
.
สรุป
นี่คือผลงานที่ยอดเยี่ยมของโนแลน ที่สร้างประเด็นที่น่าขบคิดในเรื่องเวลาความทรงจำได้น่าทึง ไม่แปลกใจเลยที่มันเป็นใบเบิกทางสู่การเป็นผู้กำกับหนังดังในเวลาต่อมา เพราะไอเดียที่ล้ำหน้าไม่เหมือนใคร
