logo-heading

โปรเจ็คยักษ์ของ Netflix ที่นำมาฉายในช่วงเวลาที่ผู้คนหลายประเทศยังคงกักตัวอยู่แต่ในบ้านกัน เรื่องนี้คือหนังอาชญากรรมระทึกขวัญที่น่าจะเข้มข้นทั้งเนื้อหาและตัวนักแสดงนำที่เป็นระดับแถวหน้าก็ว่าได้

ตัวหนังว่าด้วยเรื่องราวของ สติฟฟ์ อาร์วิน เด็กหนุ่มผู้ที่เสียพ่อและแม่ไปจากศรัทธาของพระเจ้า และเขาพยายามที่จะปกป้องคนใกล้ตัวในครอบครัว ให้ห่างไกลจากผู้ไม่หวังดี ไม่ว่าจะเป็น นักเทศน์หนุ่มจอมปลอมที่ทำตัวน่าเชื่อถือแต่ความจริงเป็นคนที่ไม่น่าเลื่อมใส ข้าราชการบุคคลในเครื่องแบบที่ไม่มีความซื่อสัตย์ในหน้าที่การงานตัวเอง รวมถึงคู่สามีภรรยาโรคจิตที่วางจัดฆ่าคนแล้วถ่าย กลุ่มคนเหล่านี้เดินทางมายังเมืองที่เขาอยู่ . ข้อดี ผมกล้าพูดได้เลยว่านี่คือหนังนอกกระแสที่ใช้นักแสดงตัวท็อปในวงการมาเป็นจุดขายดึงความสนใจจากผู้ชม นี่คือหนังที่ไม่ได้สนุกห่างไกลจากความบันเทิงสำหรับนักดูหนังกระแสหลัก หนังเล่าเรื่องปูพื้นฐานให้เข้าใจปมของตัวละครหลักในเรื่องคือ สติฟฟ์ อาร์วิน บทบาทของ น้อง Tom Holland ที่เผชิญหน้ากับความเจ็บปวด ผ่านการบรรยายเสียงโดยบุคคลที่ 3 ซึ่งเสียงเหมือนกับคนมานั่งอ่านหนังสือให้คนดูฟัง จากนั้นก็เล่าถึงตัวละครอื่นๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ที่แตกต่างกัน วิธีการเล่าสลับไปมาในหลายๆฉากเพื่อให้คนดูได้เห็นมุมมองการดำเนินชีวิตของละคน ซึ่งทั้งหมดมีความเชื่อ ความศรัทธา ในรูปแบบที่แตกต่างกัน . The Devil All The Time มีการหยิบยกประเด็นเรื่องราวทางศาสนา ความเชื่อ ความศรัทธา มาเล่าได้อย่างตรงไหนตรงมา มนุษย์เรายังมีคนบ้างประเภท เอาศาสนาหลักคำสอนมาหากินพูดให้ตัวเองดูดี และมันสะท้อนให้เห็นว่าก็ยังมีมนุษย์บางคนจิตใจต่ำช้า เอาเรื่องแบบนี้มาหาผลประโยชน์ให้ตัวเองไม่สนบาปบุญคุณโทษ ซึ่งการกระทำของตัวละครที่ไม่สุจริตมันก็ย้อนกลับมาทำลายพวกเขาเอง ผมคิดว่าหนังถ่ายทอดเรื่องเวรกรรมได้ดีมาก หนังมีการสรุปเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบได้พอเหมาะพอเจาะ และมันเข้มข้นมากในช่วงไคลแม็กซ์ . นักแสดง Tom Holland ผมไม่แปลกใจที่ผู้กำกับ Antonio Campos ชื่นชมเขา เพราะเรื่องนี้เราลืมสิ่งที่เห็นของจากหนัง Spider Man เป็นตัวละครหลักที่มีความซับซ้อนและมีความเจ็บปวดอยู่ในตัวเองสูงมาก Robert Pattinson พระเอกตัวท็อปของวงการที่เล่นได้ทุกบทบาทไม่ว่าหนังใหญ่หนังเล็ก เรื่องนี้เขาพิสูจน์ความสามารถแล้วว่าทำไมมีแต่คนอยากร่วมงานกับเขา เป็นเลวที่เลวได้ใจมาก ส่วนนักแสดงคนอื่น Bill Skarsgård, Riley Keough, Sebastian Stan, Jason Clarke ผู้กำกับ Antonio Campos ผู้กำกับพยายามเกลี้ยบทให้ทุกคนมีความเด่นชัดมีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำเวลาปรากฏตัวในแต่ละฉาก . ข้อเสีย หนังดำเนินเรื่องได้ไม่ถึงขีดสุด ถ้าดูหนังตลาด แล้วมาดูเรื่องนี้อาจจะเบื่อหน่ายได้ เพราะบริบทของตัวหนังยืดเยื้อเกินไป บรรยากาศมัวหม่องไม่ได้อรรถรสเลย . สรุป หลงรักวิธีการทำหนังที่หยิบประเด็นความเชื่อ ความศรัทธา ของคนมาเล่าในรูปบบจิตวิทยาระทึกขวัญ ผ่านกลุ่มนักแสดงชื่อดัง ทำให้สัมผัสอรรถรสที่แตกต่างไปจากเดิมอาจดูยากไปสักหน่อยในช่วงแรก แต่คุ้มค่าที่จะได้สัมผัสความดีงาม
logoline