logo-heading

สารภาพเลยตามตรงว่า แม้ชีวิตจะดูหนังนอกกระแสมามากมายแค่ไหนก็ตาม แต่ผลงานของ หว่องกาไว ผมจะหลีกเลี่ยงการชมเหตุผลง่ายๆคือ หนังเน้นอารมณ์ความสัมพันธ์ตัวละคร 2คน และการดำเนินเรื่องที่รวดเร็ว มันเลยทำให้รู้สึกว่าไม่น่าค้นหา แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อหนังคุณภาพของงผู้กำกับมือเก่าจากฮ่องกง ถูกปรับปรุงและรีมาสเตอร์ใหม่ มันก็เพียงพอที่จะทำให้ผมเบิกตาเปิดใจที่จะไปดูครั้งแรกในชีวิต

.
ข้อดี
ชอบการเล่าเรื่องของหว่องกาไวในเรื่องนี้มาก เขาพิสูจน์ให้เห็นถึงคุณภาพกึ๋นที่ไม่จำเป็นต้องทำหนังเอาใจคนดู แต่เลือกจะสร้างหนังที่ใช้ความเหงาบวกกับอารมณ์ของตัวละครชายหญิงเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ต้องใช่ตัวละครเยอะ ไม่ต้องเกริ่นอะไรให้มากความ โดยพยายามให้เหตุผลและการกระทำลำดับในแต่ละเหตุการณ์ไปเรื่อยๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม
.
เมื่อบทดีแล้วองค์ประกอบอื่นก็ดีตามไปด้วย การเนรมิตรถนนเจริญกรุง ในช่วงปี 1999 ให้กลายเป็นฮ่องกง ปี 1962 ทำได้เนียน ส่วนหนึ่งก็มาจากมุมกล้อง ของ คริสโตเฟอร์ ดอย ที่ถ่ายทอดความลื่นไหลของนักแสดงอย่างเป็นธรรมชาติ ใช้เทคนิควัตถุย้อนแสงสะท้อนตัวละคร หรือการใช้ฉากบังตัวละคร สามารถนำไปประยุกต์กับการถ่ายภาพในย่านเก่า จึงทำให้ภาพที่ปรากฏในหนังเราแทบไม่เชื่อว่ามันคือกรุงเทพในตอนแรก ก่อนจะมารู้ที่หลังว่า เมืองหลวงแดนสยามนี่เอง และแสงสีมันก็งดงามตระการตีจริงๆ
.
นักแสดง
เหลียงเฉาเหว่ย และ จางม่านอวี้ ถ่ายทอดอารมณ์ตัวละครคนเหงา 2 คนที่รู้สึกดีต่อกันในเวลาอันแสนสั้น เป็นชู้แต่สามารถสื่ออารมณ์รักออกมาได้อย่างแนบเนียน มันเป็นความสัมพันธ์ที่ยากเกินจะถอยหลังกลับไปได้ ต้องให้เครดิตหว่องกาไว ที่ปล่อยให้นักแสดงได้เป็นตัวละครอย่างเต็มที่
ข้อเสีย
หนังดูยากพอควร แม้ว่าจะปรับปรุงคุณภาพงานให้เป็นรูปแบบที่ทันสมัย ฉากแต่ละอย่างที่ปรากฏออกมาค่อนข้างแคบ ทั้งห้อง และทางเดินต่าง ๆ เลือกถ่ายมุมสวยแต่แคบจนทำให้ผมไม่ชอบที่มันอึดอัดเกินไป
.
สรุป
เป็นผลงานที่ดูยากและง่ายในเวลาเดียวกัน หนังปล่อยอารมณ์เหงาๆผ่าน2นักแสดงหลักได้ลงตัว เมื่อภาพถูกนำมาปรับปรุงใหม่งานจึงเนี๊ยบทุกองค์ประกอบ
แจกคะแนนรีวิว 9/10
หนังเข้าฉายแล้วในโรงภาพยนตร์ และหนังเหมาะกับคนชอบดูหนังนอกกระแสเป็นอย่างยิ่ง
logoline