"แอบมองเธออยู่นะจ๊ะ แต่เธอไม่รู้บ้างเลย" นี่คือท่อนเปิดหัวของเพลงที่ฮิตที่สุดของเมืองไทย "คุกกี้เสี่ยงทาย" เมื่อปี 2017 เนื้อหาง่ายๆ พร้อมท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ และขายความน่ารักของเด็กสาว 16 ชีวิต ทุกอย่างลงตัวจนพวกเธอขึ้นทะเบียนแจ้งเกิดอย่างรวดเร็ว
ชื่อเสียงร้อนแรงจนหยุดไม่อยู่ ออกหน้าจอโทรทัศน์ โชว์ตัวตามอีเวนท์งานแทบไม่ได้หยุดพัก ย่อมมีคนมากมายตั้งคำถามว่ากว่าจะมาเป็น BNK 48 เบื้องลึกเบื้องหลังเป็นอย่างไร จนกระทั่งเกิดสารคดีที่ชื่อ Girls Don't Cry จากฝีมือการนำเสนอของ "เต๋อ" นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ผู้กำกับและนักเขียนบทดีกรีรางวัลสุพรรณหงส์ประจำปี 2556 ที่เป็นคนถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมด
หลังได้ชม BNK 48 Girls Don't Cry โดยที่ตัดทุกสิ่งทุกอย่างออกจากหัว เราพบว่าเกิร์ลกรุ๊ปวงนี้ไม่ได้มีแค่เพลง "คุกกี้เสี่ยงทาย" อย่างที่หลายๆคนเข้าใจ ทีมงานขอบสหนังสรุป 4 ประเด็นหลัก และเนื้อหาแบบเข้าใจง่ายครับ ถ้าพร้อมแล้วเลื่อนเมาท์ไปอ่านข้อมูลด้านล่างได้เลยจ้า
ข้อดี
ก่อนหน้านี้มีหลายๆคนอยากรู้ว่าที่มาที่ไปของวงนี้เริ่มเมื่อไหร่ การเล่าเรื่องของผู้กำกับ"เต๋อ" นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ เริ่มตั้งแต่วันรับสมัครออดิชั่น,ประกาศสมาชิกรุ่น 1, ซิงเกิลแรก Aitakatta, ซิงเกิลสอง Koisuru Fortune Cookie, ซิงเกิลสาม Shonichi ทำให้เราได้เห็นว่าเขาใช้วิธีการเล่าเรื่องที่เข้าใจง่าย ไม่น่าเบื่อเลย สร้างความเพลิดเพลินและจับจุดที่น่าสนใจในเรื่องนี้ได้ครบทุกองค์ประกอบ
การสัมภาษณ์
BNK 48 มีสมาชิก 26 ชีวิต แต่ต้องสู้เพื่อให้ได้เป็นตัวจริง 16 คน เพื่อให้ได้ออกซิงเกิล มันบ่งบอกถึงการที่ทุกคนต้องแข่งขัน ผู้กำกับเลือกคุยสนทนากับสมาชิกตัวหลัก คนไม่ดัง คนที่อยู่ในวงแต่ไม่มีผลงาน อาจดูเป็นการคุยธรรมดา แต่ตีแพร่ความรู้สึกทุกคนขยี้อารมณ์ออกมาได้ถูกที่ถูกเวลา ในโมเมนต์ที่แย่และดี ที่ชอบสุดคือสมาชิกคนหนึ่งบอกว่า "เจ็บปวดที่เห็น ตัวท็อปคนหนึ่ง มีงานออกสื่อจนน่ารำคาญ" พร้อมกับภาพที่ตัดสลับกับตัวท็อปคนนั้น ว่า "เมื่อได้โอกาสมาแล้ว จะปล่อยให้หลุดมือได้อย่างไร ถ้าเป็นเธอได้โอกาส จะยอมปล่อยไหม" นี่แหละที่ทำให้รู้สึกว่าเห็นภาพที่ชัดเจนถึงความแตกต่าง
ข้อเสีย
เวลา 110 นาทีของสารคดีเรื่องนี้เลือกไปโฟกัสที่สมาชิกในวงในเชิงบวก แต่ไม่ได้หยิบยกประเด็นที่เคยมีดราม่า เช่น การถูกคนด่าทางโซเชียลฯ พยายามสร้างภาพให้เป็นกระแส หรือแม้กระทั่งเรื่องความรักที่เป็นสิ่งต้องห้าม จุดนี้เองเป็นสิ่งที่หลายๆคนอยากรู้ว่าสมาชิกใน BNK จะมีวิธีการรับมือกับปัจจัยเหล่านี้อย่างไร
สรุป
นี่คือสารคดีที่ไม่สมบูรณ์ไปเสียหมด แต่สามารถบอกเล่าเรื่องราวของเด็กสาว 26 ชีวิต ต้องกัดฟันสู้กับอุปสรรคมากมาย เราได้เห็นถึงความเพียรพยายามมากมาย มันดีจนรู้สึกว่าเด็กสาวกลุ่มหนึ่งที่ดังจากโซเชียล ที่ไปเต้นแร้งเต้นกา พร้อมเพลงที่ใช้หากิน คุกกี่เสี่ยงท้าย จะสามารถเปลี่ยนแปลงความคิดเราได้มากขนาดนี้ หากไม่มีมุมมองในแง่ลบเกินไป ลองเข้าโรงภาพยนตร์เพื่อดูหนังเรื่องนี้สักครั้ง แล้วมันจะเปลี่ยนทันคติในการมอง BNK 48 ไปทันที 9.5 คือคะแนนจากมุมมองคนไม่ได้คลั่งไคล้วงนี้สมควรได้รับไปครับ
เอ็มเร่
