logo-heading

ช่วงนี้ต้องบอกว่าเป็นช่วงมรสุมพายุห่าลูกใหญ่สำหรับแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพราะผลงานทีมโคตรแย่ แพ้ 2-0 มา 2 นัดติด และตอนนี้ก็มีเสียงเรียกร้องเยอะมากจากแฟนบอล มีทั้งบอกให้ซื้อแข้งใหม่ ให้ปลด โซลชา ให้ไล่บอร์ดบริหารชุดส้นตีนนี้ออกไป รวมถึงตั้ง Director of football หรือแปลเป็นไทยคือ ผู้อำนวยการฟุตบอล หรือ ผู้อำนวยการกีฬา แล้วแต่จะเรียกเลย 

มันก็คือการเอาคนที่เขารู้เรื่องบอลจริงๆ เข้ามาดูแลเรื่องซื้อขายนักเตะ ไม่ใช่เอานักธุรกิจมาเจรจาติดต่อทาบทามนักเตะ แล้วแม่งก็เจ๊งบ๊งอย่างที่เห็น ฉะนั้นวันนี้เเรามาดูกันหน่อยดีกว่าว่าตอนนี้มีใครเป็น แคนดิเดตกันบ้าง แล้วประวัติที่มาที่ไปเขาเป็นยังไงกัน

 

1.เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์

ฟาน เดอ ซาร์ ถือเป็นหนึ่งในตำนานนายด่านของ แมนฯ ยูไนเต็ด เขาคือคนที่เซฟจุดโทษของ นิโกลาส์ อเนลก้า ช่วยให้ "ปีศาจแดง" คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองได้สำเร็จ เมื่อปี 2008 โดยปัจจุบัน "น้าซาร์" นั่งแท่นเป็น ซีอีโอ ของสโมสร อาแจ็กซ์ อยู่ ซึ่งดาวรุ่งยุคใหม่ของ อาแจ็กซ์ ที่เติบโตขึ้นมามีชื่อเสียงหลายคนก็ได้ ฟาน เดอ ซาร์ นี่แหละที่เป็นแบ็กอยู่เบื้องหลัง ยกตัวอย่างเช่น เฟรงกี้ เดอ ยอง และ ดอนนี่ ฟาน เดอ บีค เป็นต้น นอกจากนี้ เขาก็เป็นอีกคนที่กว้างขวางรู้จักนักเตะเยอะ มีมิตรสัมพันธ์ที่ดี แถมยังมีวิศัยทัศน์ในการมองนักเตะได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย

2.พอล มิทเชลล์

มึงคือใคร? คำนี้คงแล่นขึ้นมาบนหัวของทุกท่าน ตอนที่ได้ยินชื่อ ใช่ครับ ผมเองก็ไม่รู้จัก แต่ไปสืบหาข้อมูลมาว่า ไอหมอนี่สมัยเป็นนักเตะเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ เคยเล่นให้กับ วีแกน และ เอ็มเค ดอนส์ หรือสรุปง่ายๆ คือคุณมึงไม่ใช่นักเตะดังอะแหละ แต่พอแขวนสตั๊ด อีตามิทเชลล์ นี่ไม่ธรรมดานะจ๊ะ  เขาเริ่มทำงานเป็น ผู้อำนวยการฟุตบอลให้ เอ็มเค ดอนส์ ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ เซาธ์แฮมป์ตัน ซึ่งตอนนั้นมี เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ คุมทีมอยู่ ก็ได้ค้นพบนักเตะดีๆ หลายคน จากนั้นก็ย้ายตาม พอช มาอยู่กับ สเปอร์ส และนักเตะอย่าง เดเล่ อัลลี, คีแรน ทริปเปียร์, และ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรล ก็มาแจ้งเกิดในพรีเมียร์ลีกนี้ได้ส่วนนึงก็เพราะ พอล มิทเชลล์ นี่แหละ ทว่าสุดท้ายก็มีปัญหากับ ดาเนียล เลวี่ เข้าของสโมสร สเปอร์ส จึงขอออกไปอยู่กับ ไลป์ซิก จนถึงปัจจุบันนี้

3.มิชาเอล ซอล์ค

ชีวิตของ ซอล์ค ผูกพันธ์ยึดติดกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาตั้งแต่อายุ 15 ตอนที่เข้ามาเป็นเยาวชนของทัพ "เสือเหลือง" ก่อนจะถูกส่งขึนสู่ทีมชุดใหญ่ตอนอายุ 18 เล่นยาวเรื่อยมาให้กับ ดอร์ทมุนด์ เพียงสโมสรเดียวเป็นเวลา 17 ปี ก่อนจะแขวนสตั๊ดไปในปี 1998 แล้วเข้ามารับงานเป็น ผู้อำนวยการฟุตบอลของ "เสือเหลือง" นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  ตลอด 20 กว่าปี ที่ ซอล์ค ดำรงตำแนห่งนี้ เขาสร้างดาวประดับวงการไปแล้วมากมาย ถ้าระยะหลังๆ เด่นๆ เลยก็มี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, จาดอน ซานโช่, อุสมาน เดมเบเล่ และ มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์ เป็นต้น เรื่องประสบการณ์ไม่ต้องพูดถึง ถ้า ผีแดง ได้มานี่ตอบโจทย์แน่ๆ แต่คำถามคือ ซอล์ค จะกล้าทิ้ง ดอร์ทมุนด์ ที่ผูกพันธ์มาตั้งแต่ 15 ขวบ จนปัจจุบัน 57 ปีแล้ว ลงจริงๆ หรอ

4.ราล์ฟ รังนิก

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปี 2019 ข่าว แมนฯ ยูไนเต็ด กับ รังนิก รุนแรงมาก ถึงขั้นที่ว่าตัวแทนของทั้ง 2 ฝั่ง ได้เปิดโต๊ะเจรจากันแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมสุดท้ายเรื่องก็ค่อยๆ เงียบหายไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งหากมองเรื่องฝีมือแล้ว รังนิก เองก็ไม่เป็น 2 รองใคร เพราะเป็นถึงอดีตผู้อำนวยการกีฬา และ อดีตกุนซือ ของ อาร์บี ไลป์ซิก และได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในเรื่องการทำงาน เพราะว่าเขาสามารถทำให้ทีมอย่างไลป์ซิก ที่เพิ่งจะก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2009 เลื่อนชั้นขึ้นมาอยู่ในบุเดสลีกาสำเร็จ แถมเกาะกลุ่มหัวตารางได้ตลอดอีกด้วย แต่ปัญหาตอนนี้ที่งงคือ ทำไมข่าว แมนฯ ยู กับ รังนิก ถึงได้เงียบลงไปดื้อๆ หรือการเจรจาจะล่มไม่เป็นท่าไปซะแล้ว

5.มอนชี่ 

หากคุณคิดว่า 2 คนก่อนหน้านี้ทั้ง ซอล์ค และ รังนิก ถือว่าสุดยอด อยู่ในชั้นอ๋องของตำแหน่งผู้อำนวยฟุตบอล แล้วหละก็ ผมอยากจะบอกว่าคุณอาจจะคิดผิดก็เป็นได้ เพราะ มอนชี่ นี่แหละที่ผมว่าเจ๋งสุด เขาเริ่มต้นสร้างชื่อให้ตนเองสมัยทำงานอยู่กับ เซบีย่า ค้นพบ เซร์คิโอ รามอส, ดานี อัลเวส, เฆซุส นาบาส, อีวาน ราคิติช และ โฆเซ่ เรเยส ผู้ล่วงลับ เป็นต้น และยังมีส่วนสำคัญช่วยให้ อูไน เอเมรี่ พา เซบีย่า คว้าแชมป์ ยูโรปา ลีกมาครองทั้ง 3 สมัยด้วย นอกจากจะสายตาเฉียบแหลม มองนักเตะออก มอนชี่ ยังเก่งเรื่องการทำธุรกิจอีกด้วย ปั้นขึ้นมาขายไป หรือซื้อมาขายไปทำกำไร ตลอด 16 ปี ที่ดำรงตำแหน่งนี้กับ เซบีย่า เขาทำกำไรให้ทีมได้มากกว่า 200 ล้านยูโร ปี 2017 มอนชี่ ขอโบกมือลา เซบีย่า ไปทำงานให้กับ โรม่า และแค่ซัมเมอร์แรกก็สามารถจัดการดีลสำคัญๆ อย่างการขาย โมฮาเหม็ด ซาลาห์ 42 ล้านยูโร, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ 35 ล้านยูโร, อลิสซอน เบ็คเกอร์ 62.5 ล้านยูโร ทำกำไรให้สโมสรเพียบ บอกแล้วไม่ใช่แค่ตาแหลม แต่ยังเก่งเรื่องการเจรจาธุรกิจอีกด้วย ทว่าก็อยู่กับ โรม่า ได้แค่ 2 ปี ทัศนคติในการทำทีมไม่ตรงกับบอร์ดบริหาร มอนชี่ จึงขอลาออก และกลับไปทำงานให้กับ เซบีย่า อีกครั้ง เมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้ว จวบจนถึงปัจจุบัน

6.เหล่านักเตะเก่า

นอกจาก เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ ที่เป็นเต็ง 1 ในบรรดาเด็กเก่า ผีแดง ที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ผู้อำนวยการฟุตบอลคนแรกในประวัติศาสตร์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด มันก็ยังมีเด็กเก่าอีกหลายคนที่อยู่ในข่าย มีใครบ้างเราไปดูกัน พร้อมคำบรรยายเล็กๆ  ปาทริซ เอวร่า - พี่ติ๊กสายฮา ใครตามโซเชียลแกก็น่าจะรู้ว่าแกยังรัก ยูไนเต็ด สุดหัวใจ และด้วยความเฟรนด์ลี่ย์ ฮาเฮ ก็ทำให้คอนเนคชั่นแกเยอะอยู่ แต่ปัญหาคือไม่รู้ถ้าปรับเข้าโหมดจริงจัง จะตัดภาพฮาๆ บ้าๆ เกรียนๆ ของแกในโลกโซเชียลออกไปได้มั้ย   แกรี่ เนวิลล์ - นี่ก็เป็นอีกคนที่เลือด ยูไนเต็ด เต็มล้าน% เข้าเส้นเลยก็ว่าได้ แล้วล่าสุดพี่แกก็เพิ่งออกมาตอกหน้าบอร์ดว่ามึงควรตั้ง ผอ.ฟุตบอลได้แล้ว แต่ก็นะเพิ่งจะออกมาด่าเขา เขาก็คงไม่เลือกพี่เข้ามารับหน้าที่นี้หรอก แถมไม่รู้เหมือนกันว่ามาทำแล้วจะดีเหมือนเป็นนักวิจารณ์มั้ย อาจจะพังเหมือนตอนคุม บาเลนเซีย ก็เป็นได้ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล - เคยตกเป็นข่าวอยู่พักนึงว่าจะได้รับเลือกให้มาดำรงตำแหน่งนี้ แต่ด้วยความที่พี่แกเคยเฝ้าเสาให้ แมนฯ ซิตี้ ด้วย ก็เลยมีแฟนผีหลายคนร้องยี้ ไม่เอา ยักษ์เดนส์ จนสุดท้ายข่าวก็เงียบหายไป เอริค คันโตน่า - "เดอะ คิง" ของสาวก "ปีศาจแดง" หากว่ากันถึงบารมีตอนที่เล่นให้ แมนฯ ยู พี่แกคือที่สุด แต่พอแขวนสตั๊ดไป ก็เหมือนจะออกทะเล เอาเป็นว่า น้าก็องโต้ ไปฝึกพูดให้คนอื่นเข้าใจน้าง่ายๆ ก่อนดีกว่านะครับ ลองคิดภาพถ้าแกมาเป็น ผอ. แล้วนัดคุยกับนักเตะที่สนใจแล้วพูดว่า "เมื่อนกนางนวลบินตามชาวประมงก็เพราะพวกมันคิดว่าจะมีปลาซาร์ดีนมากมายถูกโยนลงสู่ทะเล" ดีลมันคงสำเร็จอะเน๊อะ ดาร์เร็น เฟล็ตเชอร์ - ตอนเป็นนักเตะไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก พูดสัมภาษณ์ออกสื่อก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ก็ติดโผมาอยู่ในลิสต์ อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นลูกหม้อแท้ๆ ของ ยูไนเต็ด ด้วย แล้วก็มีแบ็คอัพเป็น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คนบ้านเดียวกัน ริโอ เฟอร์ดินานด์ - นี่ก็เป็นอีกคนที่ตกเป็นข่าวอยู่เหมือนกัน แต่ก็คล้ายๆ กรณี แกรี่ เนวิลล์ เพราะในฐานะนักวิจารณ์ แกก็เพิ่งออกมาฉะบอร์ด แมนฯ ยู เรื่องนี้ ฉะนั้นโอกาสเป็นไปได้น้อยมาก และนี่คือแคนดิเดตทั้งหมดที่อาจจะเข้ามาเป็น ผู้อำนวยการฟุตบอลคนแรกในประวัติศาสตร์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ชิน ชินพัฒน์

logoline