หลายคนไม่รู้! 10 แข้งชื่อดัง เคยเป็นเด็กปั้น เลอ อาฟร์

หลายๆสโมสร ที่เป็นทีมเล็กๆ ก็มักปลุกปั้นนักเตะออกไปสู่ตลาดลูกหนัง บ้างก็ดับไป บ้างก็กลายเป็นแข้งชื่อดัง หรือ เป็นผู้เล่นระดับโลก เลยก็มี หนึ่งในนั้นคือทีม เลอ อาฟร์ สังกัดเล็กๆ ที่ปัจจุบันอยู่ใน ลีก เดอซ์ ฝรั่งเศส

เลอ อาฟร์ เป็นอีกหนึ่งสโมสรจากฝรั่งเศส ที่ส่งออกนักเตะชื่อดังมากมาย ซึ่งแต่หลายคนอาจจะไม่ทราบด้วยซ้ำ ฉะนั้นไปดูกันว่าผู้เล่นชื่อดังคนไหน เคยผ่านการฝึกฝน และ ผ่านอะคาเดมี่ของ เลอ อาฟร์ มาแล้ว

10. คาร์ลอส กาเมนี่

เชื่อว่า คาร์ลอส กาเมนี่ ผู้รักษาประตูชาวแคเมอรูน เป็นที่รู้จักของแฟนบอลพอสมควร โดยเฉพาะ ลา ลีกา สเปน นี่คือตำนานนายทวารของ เอสปันย่อล และ มาลาก้า ลงเฝ้าเสามาไม่ต่ำกว่า 100 นัด มีช็อตเซฟมหัศจรรย์ให้เห็นเป็นประจำ ปัจจุบันอายุ 35 ปี เข้าไปแล้ว แต่อย่างน้อย กาเมนี่ ก็ถือว่าเป็นนักเตะชื่อดัง ที่อยู่ในผลผลิตของสโมสร เลอ อาฟร์ พัฒนาฝีมือมาตั้งแต่อายุ 16 ปี ซึ่งในช่วงที่ แคเมอรูน คว้าเหรียญทอง โอลิมปิก เกมส์ ปี 2000 กาเมนี่ ก็ยังสังกัดอยู่กับ เลอ อาฟร์ ก่อนจะย้ายไปโด่งดังในเวลาต่อมา

9. ปาสกาล ชิมบงด้า

จำได้ดีเลยว่า ยุคนั้น วีแกน แอธเลติค เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ทำผลงานออกสตาร์ทได้อย่างเซอร์ไพรส์ นักเตะโนเนมหลายๆคน โด่งดังขึ้นมาเพียงชั่วพริบตา ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ปาสกาล ชิมบงด้า แบ็กขวาที่มีความเร็ว เติมเกมได้อย่างเดือด ส่วนเกมรับก็ทำได้เยี่ยม จากผลงานที่เปรี้ยงปร้าง ก็เป็นสโมสร เลอ อาฟร์ ที่สร้างนักเตะรายนี้ขึ้นมา ตลอดระยะเวลา 5 ปี เขาลงสนามให้กับทีมไปมากกว่า 100 นัด มันเปหมือนเป็นยาเสริมสร้างกระดูกให้เขาแข็งแกร่ง ให้กลายเป็นนักสู้ ฉะนั้นการเล่นบนเวที พรีเมียร์ลีก ที่โดดเด่น จึงไม่แปลกใจอะไร หลังจากที่ ปาสกาล ชิมบงด้า ได้โชว์ศักยภาพให้เห็น วีแกน ก็เล็กไปสำหรับเขา ก่อนจะได้ไปอยู่กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อาจจะไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนแต่ก่อน ทำให้ 3 ซีซั่นจบลงกับ "ไก่เดือยทอง" พร้อมพเนจรไปอยู่เกือบ 10 สโมสร ปัจจุบันอายุ 40 ปีแล้ว แต่เขายังไม่แขวนสตั๊ด โดยค้าแข้งให้กับทีมนอกลีก แดน "ผู้ดี"

8. ฌอง-อแล็ง บูมซง

ในชีวิตของ ฌอง-อแล็ง บูมซง มีโอกาสได้ไปค้าแข้งให้กับสโมสรดังๆ หลายๆทีม อาทิ กลาสโกว์ เรนเจอร์, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด และ ยูเวนตุส ช่วงถูกปรับตกชั้นไปเล่น กัลโช่ เซเรีย บี แต่อดีตปราการหลังภูผาน้ำแข็งผู้นี้ น่าจะรู้กันในยุคของ บอร์กโดซ์ และ โอลิมปิก มาร์กเซย ที่อยู่ในยุคปลายครองเมือง ลีก เอิง ฝรั่งเศส มากกว่า บูมซง โดดเด่นในเรื่องของการอ่านเกม แข็งแกร่ง และ มีความเร็ว ทั้งหมดทั้งมวลนี่ก็เป็น เลอ อาฟร์ ที่คอยบ่มเพาะให้กองหลังรายนี้ มีชื่อเสียงขึ้นมา เนื่องด้วยได้ฝึกปรือวิชาลูกหนังกับสโมสรแห่งนี้ถึง 104 นัด ก่อนจะต่อยอดเป็นทั้งแชมป์ลีกสก็อตติช และ แชมป์ลีกสูงสุดเมืองน้ำหอม

7. ฟลอร็องต์ ซินามา ปงโกลล์

ปัดฝุ่นความทรงจำกันเล็กน้อย ชื่อของ ฟลอร็องต์ ซินามา ปงโกลล์ จะแจ่มชัดขึ้นมาทันที โดยเฉพาะสาวก "เดอะ ค็อป" นี่คือนักเตะที่อยู่ในชุดคว้าแชมป์ยุโรป สมัย 5 ค่ำคืนแห่งอิสตันบูล ที่แฟนบอล ลิเวอร์พูล ไม่เคยลืม ปงโกลล์ มาอยู่กับ หงส์แดง แบบที่แฟนบอลคาดหวังกับอนาคตเหมือนกัน เพราะเขาพกดีกรีแชมป์ฟุตบอลโลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี เมื่อปี 2001 พ่วงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งทัวร๋นาเมนต์ด้วย ทำให้ เชราร์ด อุลลิเยร์ อดีตกุนซือ หงส์แดง ซื้อตัวล่วงหน้ามาตั้งแต่ปี 2001 และ ปล่อยให้ เลอ อาฟร์ ยืมใช้งานต่อไป ใช่ครับ ปงโกลล์ คือเด็กฝึกของ เลอ อาฟร์ แต่การคว้าแชมป์โลกรุ่นเล็ก ทำให้ ลิเวอร์พูล รีบชิงตัวมาก่อนจะสายไป แต่กระนั้นเขาไม่อาจสอดแทรกขึ้นสู่ชุดใหญ่ได้ อย่างมากก็ตัวสำรอง แต่อย่างน้อยชื่อของเขาก็ถูกจดจำ และ ครั้งหนึ่งก็เคยมาค้าแข้งให้กับ ชัยนาท ฮอร์นบิล ทีมชื่อดังแห่ง ไทย ลีก บ้านเรา

6. สตีฟ ม็องด็องด้า

สตีฟ ม็องด็องด้า ผู้รักษาประตูขวัญใจแฟนบอลของ โอลิมปิก มาร์กเซย ตลอด 9 ปี ลงเฝ้าเสาให้ "โอแอ็ม" ไปมากกว่า 300 นัด มีส่วนสำคัญทั้งคว้าแชมป์ลีก เอิง ฝรั่ง และ เฟร้นช์ ลีก คัพ อีกทั้งยังพ่วงรางวัล นายทวารยอดเยี่ยมแห่งปีถึง 4 สมัย ชีวิตค้าแข้งของ ม็องด็องด้า เคยแวบไปอยู่กับ คริสตัล พาเลซ อยู่ 1 ซีซั่น แต่ก็กลับมาตายรังอยู่กับ "โอแอ็ม" เหมือนเดิม จนหลายคนคิดว่า นี่คือสโมสรที่เขาลงเฝ้าเสามาตั้งแต่เป็นเยาวชน ทว่าไม่ใช่แบบนั้นครับ ม็องด็องด้า เริ่มฝึกตำแหน่งผู้รักษาประตูกับสโมสร เลอ อาฟร์ ในรั้วอะคาเดมี่ ตั้งแต่อายุ 15 ขวบ เมื่อถึงช่วงบรรลุนิติภาวะครบ 20 ปี บริบูรณ์ ก็ได้ก้าวมาติดทีมชุดใหญ่ เพียงแค่ 2 ซีซั่น ที่กลายเป็นตัวหลัก ก็เหมือนเป็นบันไดให้เขาได้กลายเป็นตำนานของ โอลิมปิก มาร์กเซย

5. ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า

ถือว่าเป็นมิดฟิลด์ที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง แต่เด็กรุ่นใหม่อาจจะไม่เคยได้ยินมากนัก สำหรับ ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า นี่คือเด็กปั้นของ เลอ อาฟร์ อย่างแท้ทรู สมัยอายุ 18 ปี ในรั้วอะคาเดมี่ เขาใช้เวลาเพียงแค่ 2 ซีซั่น ก็ก้าวขึ้นไปสู่ชุดใหญ่ได้สำเร็จ เพียงแค่ปีแรกกับ เลอ อาฟร์ ได้ลงสนามไป 29 นัด บนเวที ลีก เดอซ์ ฝรั่งเศส ฟอร์มการเล่นก็ไปถูกใจ เชลซี ยุค โชเซ่ มูรินโญ่ แต่ก็ไม่อาจเบียด โคล้ด มาเกเลเล่ ได้เลย ต้องอพยพไปอยู่กับ อาร์เซน่อล ซึ่งก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งได้เกิดใหม่กับ พอร์ทสมัธ ชุดคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ปี 2008 และ นั่นคือสาเหตุที เรอัล มาดริด ยอมทุ่มเงินซื้อมาในราคาสูงถึง 20 ล้านยูโร ถามว่าเป็นตัวจริงถาวรให้กับ "ราชันชุดขาว" ไหม ? ก็ไม่เชิงแบบนั้น เพราะเฉลี่ยลงเป็น 11 คนแรก อยู่ที่ราวๆ 19 นัดต่อซีซั่น เมื่อเวลาผ่านไป ก็โดนลดบทบาท และ กถูกขายทิ้ง ปัจจุบัน ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า ประกาศแขวนสตั๊ดไปเรียบร้อยเมื่อซีซั่นที่ผ่านมา

4. เบนฌาแม็ง เมนดี้

เบนฌาแม็ง เมนดี้ คือหนึ่งในนักเตะยุคทองของ โมนาโก ชุดเดียวกับพวก คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้, ฟาบินโญ่ หรือ แบร์นาโด้ ซิลวา ที่เคยล้มบัลลังค์ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คว้าแชมป์ ลีก เอิง ฝรั่งเศส มาครอง เมื่อซีซั่น 2016-17 ซึ่งฤดูกาลนั้นแบ็กซ้ายรายนี้ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น โดยมีแอสซิสต์ไปถึง 5 ครั้ง จากฤดูกาลนั้น ทำให้ชื่อเสียงของ เบนฌาแม็ง เมนดี้ แพร่กระจายไปทั่วยุโรป และ ไปเตะตาต้องใจ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยการยอมทุ่มทุนถึง 52 ล้านปอนด์ น่าเสียดายที่ชีวิตกับ "เรือใบสีฟ้า" ต้องนอนโรงพยาบาลบ่อยกว่าลงสนาม อย่างไรก็ตาม แม้จะเจ็บเสียเยอะ แต่ เมนดี้ ก็เป็นนักเตะ ที่เคยได้แชมป์ ลีก เอิง, พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ฟุตบอลโลก มาแล้ว ความสำเร็จเหล่านี้ ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับ เลอ อาฟร์ เช่นกัน เพราะดูแลชุบเลี้ยงนักเตะรายนี้ตั้งแต่ 13 ขวบ ให้เล่นตั้งแต่เยาวชน, ส่งลงทีมสำรอง และ ดันขึ้นชุดใหญ่ รวมทั้งสิ้น 6 ปี ที่ เมนดี้ ฝึกวิชาลูกหนังกับสโมสรแห่งนี้

3. ดิมิทรี ปาเยต

ชื่อของ ดิมิทรี ปาเยต โด่งดังอยู่แล้วในแวดวง ลีก เอิง ฝรั่งเศส เพราะเคยเล่นให้กับทั้ง มงต์เปลลิเย่ร์, ลีลล์ และ โอลิมปิก มาร์กเซย ก่อนจะมาทำให้ผู้คนรู้จักฝีเท้าในวงกล้างมากขึ้น ก็คือการย้ายมาอยู่กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งผลงานบอกคำเดียวสั้นๆว่า "เฉียบ" เหมือนตีบวกอัพเกรดเกมรุก "ขุนค้อน" น่ากลัวหลายขุม จนถูกเรียกไปติดทีมชาติฝรั่งเศส และ กลายเป็นตัวหลักของทีม ในศึก ยูโร 2016 น้ำตาแห่งความภูมิใจยังคงตราตรึงใจ เมื่อเขาส่งบอลซุกตาข่ายให้กับทีมบ้านเกิด ด้วยผลงานอะไรต่างๆ แน่นอนว่าเขาพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆกับทุกสโมสร ยิ่งโต ก็ยิ่งเก่ง ทั้งทักษะลากเลื้อย, แอสซิสต์สวยๆ หรือ การยิงประตูอันเฉียบคม แต่กระนั้นผู้ที่มีส่วนปลุกปั้น ก็คงหนีไม่พ้น เลอ อาฟร์ เพราะ ปาเยต ใช้เวลาฝึกฝนฝีเท้ากับอะคาเดมี่แห่งนี้ นานถึง 4 ปี ตั้งแต่อายุ 12 ขวบ เมื่อปีกกล้าขาแข็ง ปาเยต ก็ย้ายออกไปหากิน และ แสดงให้เห็นถึงฝีเท้าที่แฟนบอลได้เห็นในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้

2. ริยาด มาห์เรซ

ตอนย้ายมาอยู่กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่มีใครสนใจ ริยาด มาห์เรซ กันเลยแม้แต่น้อย เพราะเป็นนักเตะโนเนมที่ไหนมาก็ไม่รู้ อย่าว่าแต่แฟนบอลเลยครับ ดาวเตะทีมชาติแอลจีเรีย ก็ยอมรับตามตรงว่า เดิมทีตอนที่ "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" ติดต่อซื้อตัว ยังคิดว่าเป็นสโมสรเกี่ยวกับ "รักบี้" ไม่ใช่ "ฟุตบอล" อย่างไรก็ตาม มาห์เรซ ใช้เวลาฝึกฝนและพัฒนา ก่อนจะโชว์ฟอร์มให้โลกต้องตกตะลึง เมื่อฉายแสง วาดลวดลาย จนพาทีม เลสเตอร์ ซิตี้ ทำเซอร์ไพรส์ ก้าวไปเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2015-16 แบบเหลือเชื่อ ไม่มีใครกล้าคิดว่าทีมที่ต้องหนีตาย จะกลายมาเป็นแชมป์ลีดสูงสุดแห่งลูกหนังแดน "ผู้ดี" เมื่อสปอร์ตไลท์จับขนาดนั้น การขุดคุ้ยประวัติย่อมเป็นสิ่งแรกที่หลายคนทำ และ ค้นพบว่า มาห์เรซ เคยเป็นนักเตะของ เลอ อาฟร์ มาก่อน ในช่วงที่เริ่มตั้งไข่เป็นนักฟุตบอลอาชีพ เขาใช้เวลากับทีมอยู่ 6 ปี แบ่งเล่นให้กับทีมสำรองและชุดใหญ่ อย่างละครึ่ง ก่อนจะย้ายมาอยู่ เลสเตอร์ ค่าตัวเพียง 5 แสนปอนด์ เมื่อปี 2014 ปัจจุบันยังเป็นแข้งระดับท็อป สังกัดอยู่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยค่าตัวของเขาอัพเพิ่มเป็น 60 ล้านปอนด์

1. ปอล ป็อกบา

นี่คงเป็นเด็กอะคาเดมี่จาก เลอ อาฟร์ ที่มีชื่อเสียงกระฉ่อนโลกมากที่สุด นั่นคือ ปอล ป็อกบา มิดฟิลด์ตัวตัดผม แห่งค่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่า พี่ป็อก เป็นลูกหม้อ "ปีศาจแดง" แต่แรก ไม่ใช่แบบนั้นครับ เพราะสมัย 14 ขวบ ฟันแท้เพิ่งขึ้นครบ เขาเคยเป็นเด็กฝึกของ เลอ อาฟร์ มาก่อน จริงๆแล้ว เลอ อาฟร์ ไม่เต็มใจขาย ป็อกบา ให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะมันมีสัญญาเงื่อนงำ ว่ากันว่า "ปีศาจแดง" ทุ่มเงินให้กับพ่อและแม่ของนักเตะประมาณ 10 ล้านบาท รวมถึงซื้อบ้านให้อีกหลัง เพื่อซิวตัวมาร่วมทีมตอนอายุ 16 ปี ก่อนที่ยักษ์ใหญ่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะปฏิเสธภายหลังว่าไม่ใช่เรื่องจริง ถึงแม้ ป็อกบา จะไม่ประสบความสำเร็จกับตอนเป็นดาวรุ่งกับ "ปีศาจแดง" แต่ก็ไปโด่งดังเป็นพลุแตกกับ ยูเวนตุส ถึงขั้นที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยอมซื้อตัวกลับมาเป็นค่าตัวสถิติโลก 89 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2016 ถึงแม้ เลอ อาฟร์ อาจจะไม่ได้เครดิตมากนักในการปั้น ป็อกบา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสโมสรได้ปูพื้นฐานฟุตบอลให้กับนักเตะ