logo-heading

จากวันเวลาที่เดินไปอย่างช้าๆ ความรักของ "เดอะ ค็อป" ที่มีให้กับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ แทบไม่หลงเหลืออีกแล้ว อาจเป็นเพราะร่ำลากันไปเกือบ 2 ปี และ ที่สำคัญพฤติกรรมของ "คูตี้" ในวันเก็บกระเป๋าออกจากถิ่นแอนฟิลด์ ยังเป็นสิ่งไม่เคยลบเลือน

ทว่าความฝัน คูตินโญ่ ไม่ได้โรยด้วยดอกกุหลาบ เพราะสโมสรในดวงใจอย่าง บาร์เซโลน่า กลับทำให้เส้นทางอาชีพของเขา ดูจะย่ำแย่มากกว่าเป็นที่จดจำ จนต้องระหกระเหินไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค แบบยืมตัว และ สุดท้ายก็มามีข่าวคัมแบ็กสู่ ลิเวอร์พูล เพราะ "บาร์ซ่า" ต้องการขายขาดให้พ้นๆไป

จากค่าตัว 142 ล้านปอนด์ มาวันนี้ คูตี้ โดนหั่นให้เหลือเพียง 77 ล้านปอนด์ เท่านั้น แต่ต่อให้มันจะถูกมากน้อยแค่ไหน ก็ไม่อาจลบเลือนสิ่งที่ดาวเตะทีมชาติบราซิล ได้ทำลายความรู้สึก และ เชื่อว่าเรื่องราวต่อไปนี้ แฟนบอล "หงส์แดง" คงไม่อยากได้ คูตินโญ่ กลับคืนสู่ทีมอีกแล้ว

  1. งอแงย้ายทีม ไม่มีความเป็นมืออาชีพ
ไม่ต้องแฟนบอลหรอกครับ เล่าให้เด็ก 10 ขวบ ยังรู้เลยว่า คูตินโญ่ มีความใฝ่ฝันอยากย้ายไปค้าแข้งให้กับ บาร์เซโลน่า มากเพียงใด ซึ่ง ลิเวอร์พูล ก็ทำใจมาสักพักใหญ่แล้วกับเรื่องนี้ โดยขอเพียงแค่อีก 1 ซีซั่นเท่านั้น ที่ "หงส์แดง" ต้องการให้อยู่ช่วยทีม เพื่อสร้างความสำเร็จ และ จะยอมปล่อยไปตามหาฝันแต่โดยดี แต่ คูตินโญ่ หมดใจไปนานแล้ว เขาแสดงพฤติกรรมความไม่เป็นมืออาชีพ อ้างว่าเจ็บหลัง ลงสนามไม่ได้ แต่พอไปเล่นให้ทีมชาติบราซิล วิ่งปร๋อไร้อาการบาดเจ็บใดๆ แถมมีช็อตกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เมื่อทำประตูให้กับทัพ "แซมบ้า" เป็นการแสดงความอัดอั้น หลังจากที่ คูตี้ ไม่ได้ย้ายในช่วงซัมเมอร์ปี 2018 เขาก็หักหาญน้ำใจอีกครั้งในช่วงตลาดหน้าหนาว ด้วยการส่งอีเมล์ไปหา ลิเวอร์พูล เพื่อแจ้งขอย้ายทีม ให้หลังที่สโมสรประกาศจุดยืนว่าไม่ขาย แค่ไม่กี่ชั่วโมง เมื่อไม่มีใจสุดท้ายก็ต้องยอมปล่อยให้ บาร์เซโลน่า และ นั่นคือจุดเริ่มต้นของการแตกหักระหว่าง คูตี้ กับ เดอะ ค็อป
  1. ลิเวอร์พูล ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เมื่อไม่มีนาย
ก่อนที่ คูตินโญ่ จะย้ายไปนั้น ลิเวอร์พูล เคยมีฉายา "FAB4" เล่นร่วมกับ ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เรียกว่า เกมรุกดุดัน พร้อมดาหน้ายิงคู่แข่ง โดยมี คูตินโญ่ เป็นเหมือนปัจจัยหลัก ในการขึ้นเกมจากมิดฟิลด์ เรียกว่าแทบเป็นคนสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้ เพราะครบเครื่องทั้งเทคนิค, จ่ายคิลเลอน์พาส และ กดลูกสูตรจากนอกกรอบเขตโทษ วันที่ คูตี้ ย้ายออกไป เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องเปลี่ยนระบบไปเลย และ สิ่งนั้นมันทำให้ ลิเวอร์พูล เป็นอย่างทุกวันนี้ มิดฟิลด์ใช้ความขยันไล่บี้ และ เป็นห้องเครื่องคอยช่วยทั้งเกมรับและเกมรุก นำทัพโดย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม รวมถึง ฟาบินโญ่ เป็นต้น ส่วนตัวรุกการจากไปของ คูตินโญ่ จึงถือกำเนิด ฟีร์มิโน่ หัวหอกแห่งระบบ ฟอลส์ ไนน์ ที่คอยลงมาล้วงบอล ทั้งจ่าย ทั้งยิง แบบไร้ที่ติ ส่วนเรื่อง คิลเลอร์พาส ก็ไม่จำเป็นต้องมี คูตินโญ่ ให้นึกถึงอีกแล้ว เพราะฟูลแบ็ก 2 ฝั่ง อย่าง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ทำหน้าที่นั้นได้อย่างเพอร์เฟ็คท์ มาเน่ กับ ซาลาห์ ก็ยิงกระจุย จน ลิเวอร์พูล ลืมเลือน คูตี้ ที่เคยทำหน้าที่เป็นทุกอย่างของ "หงส์แดง" ไปหมดแล้ว
  1. คนที่มันทรยศ จะต้องเดินเดียวดายเสมอ
"He who betrays will always walk alone" ใครที่มันทรยศจะต้องเดินเดียวดายเสมอ  ประโยคนี้ ถูกเขียนลงในป้ายผ้าของสาวก "เดอะ ค็อป" และ แขวนเอาไว้ให้กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ดูต่างหน้า เนื่องด้วยที่ "เอล นินโญ่" เลือกย้ายไปอยู่กับคู่อริกับ เชลซี มาวันนี้ ประโยคนั้น จะนำมาใช้กับ คูตินโญ่ ก็คงไม่แปลก เพราะวันที่เขาเลือกเดินจากไปแบบกลางซีซั่น ก็ไม่ได้สนใจใยดีสักนิด ว่าจะมีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นกับ หงส์แดง บ้าง ฉะนั้นสาวก "เดอะ ค็อป" ส่วนใหญ่ ก็ไม่สนเช่นกันว่า อนาคตของ คูตี้ จะเป็นอย่างไร จะยิ่งใหญ่หรือตกต่ำ บางคนถึงขั้นสาปส่งด้วยซ้ำ เมื่อเห็นว่าทำอะไรก็ไม่สำเร็จ มันจึงเข้ากับประโยคที่ว่า "ใครที่มันทรยศจะต้องเดินเดียวดายเสมอ"
  1. กลับมาทำไม ฉันลืมเธอไปหมดแล้ว
เป็นความรู้สึกล้วนๆ ไม่มีสิ่งอื่นเจือปน ในตอนนี้บรรยากาศทีมของ ลิเวอร์พูล โคตรดี ทุกคนรักและเคารพกันอยู่แล้ว ฟอร์มการเล่นจึงออกมายอดเยี่ยมอย่างที่เห็น ฉะนั้นการไปดึงนักเตะที่เคยทิ้งทีมไป มันอาจส่งผลถึงบรรยากาศ และ สปิริตทีมเปล่าๆ อีกอย่างคงไม่สะดวกใจแบบเมื่อก่อนแล้ว ขณะที่แฟนบอล ที่ไม่เห็นด้วยกับการกลับมาของ คูตินโญ่ เพราะจากความรัก ได้เปลี่ยนเป็น "ความเกลียดชัง" ไปแล้ว อาจถึงขั้นจำพฤติกรรมแย่ๆ มากกว่าผลงานที่เคยสร้างเอาไว้กับ หงส์แดง ด้วยซ้ำ เรียกว่าแทบไม่มีความทรงจำดีๆเหลือกันแล้ว ยิ่ง คูตินโญ่ บอกว่า เขามีความทรงจำดีๆกับอดีต แต่จะไม่ขอมองย้อนกลับไป และ ขอโฟกัสแค่เส้นทางข้างหน้าเท่านั้น ก็บอกตรงนี้เลยว่า ขอให้คุณโชคดี และ อย่ากลับมาเลย เพราะ "เขาลืมคุณไปเกือบหมดแล้ว" ต่อให้จะมีค่าตัว 77 ล้านปอนด์ แต่เม็ดเงินนี้สามารถแปรเปลี่ยนเป็นนักเตะชั้นดี ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เลือกหาได้เช่นกัน เหมือนอย่างที่เคยไปดึง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ อลิสซอน เบ็คเกอร์ เข้ามา
logoline