logo-heading

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โคตรกองหน้าจากค่าย บาเยิร์น มิวนิค ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกลูกหนังยุคปัจจุบัน เชื่อได้เลยว่าว่าไม่มีใครตั้งข้อสงสัยในเรื่องนี้หากดูจากโปรไฟล์ตลอดช่วงที่ผ่านมา

จนกระทั่งวันนี้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น เพราะพี่แกก็ยังรักษาความคงเส้นคงวาและมาตรฐานได้ดีไม่มีตก และวันนี้สิ่งที่ "ขอบสนาม" อยากนำเสนอก็คือ "ปัจจัยต่างๆ ที่ยังคงทำให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยืนอยู่ในจุดพีคของอาชีพ ถึงแม้อายุอานามจะปาเข้าไป 31 ปีแล้วก็ตาม ? "

ฟอร์มการถล่มประตู

โดยปกติแล้วนักฟุตบอลโดยทั่วไปจะมีจุดที่พีคสุดๆ ในเส้นทางค้าแข้งช่วงอายุราวๆ 27-29 ปี พอจากนั้นพอเข้าสู่เลข 3 ก็จะค่อยๆ เริ่มแสดงอาการโรยราออกมาโดยส่งผลผ่านผลงานในสนาม แต่สำหรับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เหมือนช่วงจุดพีคในอาชีพจะยังไมได้หนีพี่แกไปไหนเลย ล่าสุด 1 ประตูที่เกิดขึ้นในเกม บุนเดสลีกา เยอรมัน ที่ บาเยิร์น มิวนิค บุกไปเชือดน้องใหม่ ยูเนี่ยน เบอร์ลิน 2-0 นับเป็นประตูที่ 26 ในลีกซีซั่นนี้ และนับเป็นประตูที่ 40 รวมทุกรายการ นั่นทำให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กลายเป็นนักเตะคนที่ 3 ต่อจาก ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ระเบิดสกอร์ได้แตะหลัก 40 ประตู 5 ฤดูกาลติดต่อกัน ส่วนเคล็ดลับที่ทำให้สถิติที่สุดยอดนี้เกิดขึ้นได้หลักๆ ก็คือการมีความกระหายและสามารถรักษามาตรฐานและความคงเส้นคงวาได้เป็นอย่างดี ฟังดูเหมือนง่าย แต่จริงๆ มันเป็นอะไรที่โคตรยากจริงๆ >>> น่ารักน่าเอ็นดู! รวมสกิลการเต้นช่วงกักตัวของ เลวานดอฟสกี้ ดาวยิง tiktok

ดูแลตัวเอง

"ผมขอบอกว่าช่วงปรีซีซั่นตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา (ช่วงเบรก โควิด-19) มันทำให้เราสามารถยกระดับประสิทธิภาพของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนตัวแล้วผมแฮปปี้มากๆ กับสิ่งที่ได้ทำตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา มันอาจจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้ผมไม่ได้มีเวลาปรับปรุงแก้ไขตัวเองสักเท่าไหร่ ดังนั้นในเซสชั่นการฝึกซ้อม 2 เดือนที่ผ่านมามันช่วยให้ผมปรับความสมดุลตัวเองได้เยอะมาก" "ผมพยายามรักษาความฟิตและสุขภาพให้ดีอยู่ตลอดเวลา หากคุณไม่คำนึงถึงเส้นทางในอนาคตมันก็อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะรักษามาตรฐานการเล่นในฟุตบอลระดับสูงให้คงอยู่อย่างยาวนาน เพราะสิ่งที่สำคัญนอกจากการลงเล่นในสนามและการฝึกซ้อมแล้วสิ่งที่คุณทำอยู่ที่บ้านก็นับว่าสำคัญไม่แพ้กันเลย" "มันคงสุดยอดมากหากผมยังสามารถลงเล่นในเกมฟุตบอลระดับสูงได้อีก 3-4 ปี แต่จริงๆ มันยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องนี้ แต่ผมก็จะพยายามทำให้มันเกิดขึ้นจริง" นี่คือส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์แบบ Exclusive ที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้เอ่ยเอาไว้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มันหมายถึงอะไรรู้ไหม ? สิ่งที่เขาพูดมามันบ่งบอกเลยว่าพี่แกเป็นคนที่ใส่ใจดูแลตัวเองขนาดไหน นี่เป็นสิ่งที่นักกีฬาคนทุกคนควรเอาเป็นแบบอย่าง เพราะถ้าคุณยังรักในสิ่งที่คุณเป็น และอยากยืนระยะให้ได้นานที่สุดการดูแลตัวเองคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 เล่นทำเอานักฟุตบอลเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตไปราวๆ 2 เดือน และในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเราก็เห็นนักฟุตบอลหลายๆ คนวินัยเสีย มีความประพฤติที่ไม่ดี ฝ่ากฏล็อคดาวน์ไปสร้างวีรกรรมต่างๆ นาๆ แต่สิ่งที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้ทำในแต่ละวันคือการคุมอาหาร หมั่นออกกำลังกาย ฝึกซ้อมให้ร่างกายฟิตอยู่ตลอดเวลา ก็อย่างที่พี่แกพูดเอาไว้นั่นแหละว่า พี่แกยังอยากโลดแล่นผจญภัยในเกมระดับสูงต่อไปอีก 3-4 ปี ดังนั้นถ้าคุณอยากให้ฝันของตัวเองเป็นจริง แค่พูดเฉยๆ มันไม่เกิดขึ้นหรอก มันต้องทำด้วย !

แรงบันดาลใจ

อย่างที่ใครเขาพูดกันว่า "คนเราอยู่ได้ด้วยความหวัง การตั้งเป้าหมายและมีความฝัน" สำหรับนักฟุตบอลแล้วสิ่งที่เป็น "ความหวัง, เป้าหมาย และ ความฝัน" ของพวกเขาก็คือ การได้ค้าแข้งในลีกใหญ่ๆ ได้ค้าแข้งกับสโมสรในฝัน การได้รับการยอมรับ การเดินตามรอยนักฟุตบอลที่เป็นไอดอล การคว้าแชมป์รายการใหญ่ๆ  โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เคยพูดเอาไว้ครั้งหนึ่งว่า "ผมเติบโตมาด้วยความฝันที่อยากลงเล่นในสนามที่มีแฟนบอลประมาณ 80,000 คน และเมื่อย้อนกลับไปสมัยผมยังเป็นดาวรุ่งที่ โปแลนด์ ประเทศของเราแทบจะไม่มีผู้เล่นระดับโลกอยู่เลย และผมก็คิดจะทำให้มันเกิดขึ้น และก็ไม่ใช่แค่ในประเทศเท่านั้น ผมคิดการใหญ่กว่านั้น พอผมมองไปดูผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลกผมก็คิดเลยว่าทำไมผู้เล่นจาก โปแลนด์ จะสามารถกลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในโลกไม่ได้ล่ะ ?" "ตอนผมอายุ 6 ขวบ ผมจำ โรแบร์โต้ บาจโจ้ ได้ในศึก ฟุตบอลโลก ปี 1994 พอตอนผมอายุราวๆ 10-14 ปี อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ คือนักเตะที่ดีที่สุดสำหรับผม จากนั้นก็มาเป็น เธียร์รี่ อองรี เขาเป็นนักเตะที่มหัศจรรย์มาก และมันไม่ใช่แค่แนวทางการยิงประตูที่ถล่มทลาย แต่ยังเป็นการเล่นเพื่อทีมด้วย ผมต้องการจะเป็นแบบนั้นให้ได้ แต่มันต้องเป็นในแบบฉบับของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ และผมก็เชื่อว่าฝันของผมจะเป็นจริง" สิ่งที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้พูดออกมามันเกิดขึ้นจริงแล้วหลายข้อเลย ทั้งการได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลในสนามราวๆ 80,000 คน การได้กลายเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของ โปแลนด์ ตลอดจนการได้กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งทุกอย่างมันมาจาก "ความหวัง, เป้าหมาย และ ความฝัน" ล้วนๆ เขามักมองนักเตะที่ดีที่สุดในโลกแต่ละยุคเป็นแบบอย่างเสมอ  ดังนั้นถ้าเกิดเป็นโลกลูกหนังยุคนี้เชื่อว่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ก็คงมี ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นแบบอย่าง และพยายามจะทำทุกๆ อย่างให้ได้เหมือนกับ 2 คนนี้ ทั้ง เมสซี่ และ โรนัลโด้ ต่างก็อายุอานามปาเข้าไป 32 และ 35 ปีแล้วตามลำดับ แถมยังรักษามาตรฐานและความคงเส้นคงวาเรื่องฟอร์มการเล่นและความฟิตได้อย่างดีเยี่ยม หลายคนเชื่อว่า 2 คนนี้ยังสามารถยืนระยะในฟุตบอลระดับได้อีกหลายปี และมันก็มีโอกาสจะเกิดขึ้นกับตัว โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เช่นกัน มันจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้น อันนี้เราไม่มีทางรู้ได้ เพราะในโลกของฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น แต่ที่รู้ๆ ตอนนี้คือ สิ่งที่โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กำลังทำอยู่มันคือ เคล็ดไม่ลับ ที่ทำให้เขายังยืนหยัดอยู่ในบนจุดสุดยอดของอาชีพได้ ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทางไลน์ขอบสนาม
logoline