logo-heading

ยูเวนตุส ได้ชื่อว่าเป็นสโมสรที่ดีที่สุดในสังเวียนลูกหนัง อิตาลี และในยุโรปพวกเขาก็เจ๋งสุดๆ ติดเบอร์ต้นๆ ด้วย

แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีบางเรื่องที่ทำให้เขาถูกมองว่าเป็น 'นัมเบอร์ วัน' ให้กลุ่มเหล่าบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ทั้งหมด นั่นก็คือเรื่องของ "แนวทางและการจัดการเรื่องการเสริมทัพ" นั่นเอง

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

การเซ็นสัญญาคว้าตัวนักเตะที่ดีที่สุดในโลกอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มาเสริมแกร่งได้ด้วยค่าตัว 99.2 ล้านยูโร เมื่อปี 2018 นับเป็นเครื่องพิสูจน์ชั้นดีเลยว่า ยูเวนตุส นั้นยังได้รับการยกย่องและถูกมองว่าเป็นสโมสรที่ดีที่สุดเบอร์ต้นๆ ของยุโรป เพราะถ้าเกิดทีมของคุณไม่ดีจริงๆ ไม่มีอนาคต โปรเจ็กต์ไม่ดี และไม่มีความสำเร็จให้ท้าทายนักเตะอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็คงไม่ตัดสินใจย้ายมาที่นี่หรอก จริงไหม ?

มีแรงดึงดูดที่ดีไม่แพ้ทีมอื่น

การเซ็นสัญญาดีลใหญ่ๆ ของ ยูเวนตุส ครั้งล่าสุดคือการกระชากตัว มัทไธส์ เดอ ลิกต์ มาจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยค่าตัว 75 ล้านยูโร นี่คืออีกสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ยูเวนตุส ก็ยังเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ สามารถฝากฝังเรื่องอนาคตได้ มีพลังบวกในหลายๆ แง่มุมมอง และมีแรงดึงดูดที่ดีจากนักเตะไม่แพ้ทีมอื่นๆ เพราะอย่างที่ทราบกันว่า ณ ตอนนั้น มัทไธส์ เดอ ลิกต์ โชว์ฟอร์มได้ดีและโดดเด่นจริงๆ จนทีมดังๆ ที่มีแรงดึงดูดสูงๆ อย่าง เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะพรากตัวไปให้ได้ แต่สุดท้ายนักเตะก็เลือก ยูเวนตุส 

ได้ของดีมาเพียบ

ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่า ยูเวนตุส เริ่มใช้เงินเยอะขึ้น เริ่มทุ่มเยอะมากขึ้น ปัจจัยหลักๆ เลยก็คือ การพยายามยกระดับตัวเองให้ก้าวขึ้นไปเทียบชั้นกับพวก เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ย้อนกลับไปในปี 2018 พวกเขาใช้เงินไป 104 ล้านปอนด์เพื่อแลกกับ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, เจา คันเซโล่ และ ดักลาส คอสต้า (ยังไม่ร่วม คริสเตียโน่ โรนัลโด้) ถัดมาที่ปีต่อมา ยูเวนตุส ใช้เงินไปอีก 169.65 ล้านปอนด์ ตัวหลักๆ ที่ได้มาจะมี มัทไธส์ เดอ ลิกต์, ดานิโล่ และ เมริห์ เดมิรัล ส่วนนอกนั้นจะเป็นพวกตัวดาวรุ่งซื้อมาปลุกปั้นเพื่ออนาคต นอกจากนี้ ยูเวนตุส ยังได้ตัวดีๆ มาอีกเพียบโดยไม่ต้องเสียเงินเลยแม้แต่แดงเดียว ไม่ว่าจะเป็น อารอน แรมซี่ย์, อาเดรียง ราบิโอต์ และ จานลุยจิ บุฟฟ่อน สังเกตดูดีๆ ถ้าไม่นับเรื่องการใช้เงิน ยูเวนตุส ก็มักจะได้นักเตะดีๆ มาแบบนี้ให้เห็นบ่อยๆ และแต่ละคนก็ค่อนข้างสร้างอิมแพ็คให้กับทีมได้มากมายเลยทีเดียว

การแก้ปัญหาช่วง โควิด-19

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ส่งผลกระทบอย่างมากกับโลกของฟุตบอล บางสโมสรนี่ถึงขั้นต้องสั่งปลดหรือไม่ก็พักงานบุคลากรฝ่ายต่างๆ รวมไปถึงการลดค่าจ้างนักเตะด้วย แน่นอนว่าเมื่อเป็นแบบนั้นแล้วเรื่องของการเสริมทัพมันก็ส่งผลเช่นกัน เชื่อ่วาแฟนบอลหลายๆ คนคงเลิกคาดหวังแล้ว เพราะคิดว่าพวกทีมใหญ่ๆ คงไม่ใช้เงินซื้อตัวกันแพงๆ หรอกท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ แต่สำหรับ ยูเวนตุส พวกเขาแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ดี โดยยกตัวอย่างเคสที่กำลังจะเกิดขึ้นก็คือ ดีลการย้ายทีมของ อาร์ตูร์ ถ้าเกิดคุณได้เห็นข่าวอาจจะงงว่า 'ยูเวนตุส ยอมจ่ายเงินที่แพงแตะหลัก 70 ล้านยูโรเลยเหรอ ? ในสถานการณ์แบบนี้' แต่ในความเป็นจริงดีลนี้มันคือการ 'สลับขั้วนักเตะ' เพราะทาง มิราเล็ม ปานิช ก็จะถูกโยกไปค้าแข้งกับ บาร์เซโลน่า เช่นกันในค่าตัวราวๆ 60 ล้านยูโร มันก็เท่ากับว่า ยูเวนตุส ยื่นเงิน 10 ล้านยูโรนิดๆ แถม มิราเล็ม ปานิช เพื่อแลกกับตัว อาร์ตูร์ แค่นั้น เท่านั้นยังไม่พอเพราะว่ากันว่าเคสของ กอนซาโล่ อิกวาอิน ก็น่าจะเกิดขึ้นเป็นดีลต่อไปในรูปแบบเดียวกันในการพรากตัว อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค จาก นาโปลี มาร่วมทีม ส่วนในรายของ ปอล ป็อกบา นั้นแฟนๆ ยูเวนตุส หลายคนยังคงฝันอยากเห็นเขากลับมาเตะฟุตบอลให้ดูอีกครั้ง แต่อาจจะเกิดขึ้นได้ยากเสียหน่อย เพราะถ้าจะใช้เงินอย่างเดียวมันก็แพงเกินไป ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดก็คือ ยูเวนตุส จำเป็นต้องโละนักเตะแผงกองกลางที่ล้นทีมอยู่แล้วออกไปบ้าง เพื่อระดมทุน รวมไปถึงพวกนักเตะที่อนาคตยังเป็นเครื่องหมายคำถามด้วย อาทิเช่น ดักลาส คอสต้า, อารอน แรมซี่ย์, อาเดรียง ราบิโอต์ และ ดานิเอเล่ รูกานี่

เมาริซิโอ ซาร์รี่

การมีกุนซืออย่าง เมาริซิโอ ซาร์รี่ นับว่าเป็นคนที่ใช่ของ ยูเวนตุส รึเปล่า ? เชื่อว่าหลายเสียงคงตอบว่า 'ไม่ !' เพราะมันค่อนข้างเห็นได้ชัดว่า ยูเวนตุส ปีนี้สะดุดบ่อยเกินไป รักษาความคงเส้นคงวาไม่ค่อยได้ และรูปแบบการเล่นไอ้สไตล์ 'ซาร์รี่ บอล' ของลุงแกมันอาจใช้ได้ดีที่ นาโปลี แต่กับ เชลซี และ ยูเวนตุส มันดูไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ แต่สำหรับ ราฟ ดิลลอน กูรูจาก 'JuveFC.com' แกคิดเห็นว่า "ซาร์รี่ ยังไม่ชนะใจแฟนบอล ยูเวนตุส แบบแท้จริง มีความคาดหวังเกิดขึ้นมากๆ ว่าสไตล์ฟุตบอลที่เราได้เห็นกันที่ นาโปลี มันจะสามารถเสกแชมป์ให้ทีมได้ แต่มันดูไม่เข้าท่าเท่าไหร่เลย แต่สาเหตุมันอาจเป็นเพราะ ซาร์รี่ ไม่ได้ผูกพันกับลูกทีมของเขาอย่างแท้จริงรึเปล่า แถมเรื่องการเสริมทัพก็เหมือนทาง ยูเวนตุส จะให้ความสำคัญกับเรื่องมูลค่ามากกว่านักเตะที่เหมาะกับไอเดียของ ซารรี่ ในแง่ของฟุตบอล" "ผมไม่คิดว่า ยูเวนตุส จะไล่ ซาร์รี่ ออกหรอก แต่ในเคสดังกล่าวพวกเขาจำเป็นต้องหนุนหลัง ซาร์รี่ ถ้าเกิดเขาสามารถพาทีมพลิกกลับมาชนะ โอลิมปิก ลียง ได้ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากนัดแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้าย แพ้มาก่อน 1-0 ตลอดจนการคว้าแชมป์ลีกในการเอาชนะทีมอย่าง อินเตอร์ มิลาน และทีมอื่นๆ ผมคิดว่านั่นอาจเป็นทางที่จะกอบกู้ความศรัทธาและความเชื่อมั่นของเขาคืนมาก็ได้ ส่วนเรื่องของการซื้อนักเตะเขาอาจต้องใช้เวลาคิดสักหน่อยในการใช้ผู้เล่นใหม่ๆ โดยเฉพาะในแผงกองกลาง" ประเด็นหลักๆ ของบทวิเคราะห์นี้ก็คือถ้าเกิด ยูเวนตุส ให้การสนับสนุนเขาในเรื่องการเสริมทัพอย่างเต็มที่ อยากได้ใครก็สามารถออร์เดอร์ได้ตามใบสั่ง มันก็อาจทำให้ ยูเวนตุส เป็นทีมที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้ ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คือ "ซาร์รี่ บอล" ไม่ใช่ว่านักเตะทุกคนสามารถเล่นเข้ากับระบบของแกได้ ต่อให้จะมีสไตล์และคุณสมบัติที่เหมาะสมแค่ไหนก็ตาม นักเตะแต่ละคนมีข้อดีข้อเสียไม่เหมือนกัน ถ้าเกิดคุณขึ้นรู้จักวิธีการงัดสิ่งที่ดีที่สุดออกมา คุณจะสามารถใช้ประโยชน์จากนักเตะคนนั้นได้แบบเต็มประสิทธิภาพ หากคุณทำมันได้สำเร็จ นั่นอาจทำให้คุณได้รับคำชมว่า 'คุณคือคนที่ใช่ของ ยูเวนตุส ก็เป็นได้'

HaMu Dos Santos

ที่มา : bleacherreport ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทางไลน์ขอบสนาม
logoline