logo-heading

คอนเฟิร์มเรียบร้อยแล้วว่า เลอรอย ซาเน่ จะย้ายตูดกลับไปกระชากลากเลื้อยที่เยอรมันอีกครั้งกับ บาเยิร์น มิวนิค ในฤดูกาลหน้า ซึ่งมันก็มีการวิเคราะห์กันไปต่างๆ นาๆ ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับ ซาเน่ นั้นแตกสะบั้นกันไปสักพักใหญ่แล้ว ฉะนั้นวันนี้เราเลยขอมาลองย้อนดูเรื่องราวกันหน่อยดีกว่าว่า 2 คนนี้แตกหักกันจริงรึป่าว

แม้ เป๊ป หรือ ซาเน่ จะไม่เคยออกมาพูดว่าทั้งคู่มีปัญหาขัดใจอะไรกันรึป่าว แต่การขายทิ้งทั้งที่ฤดูกาลยังไม่จบ เกมลีกเหลืออีก 6 นัด บอลถ้วย เอฟเอ คัพ กับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ยังมีลุ้นแชมป์ มันเป็นสิ่งที่ดูไม่ค่อยจะปกตินัก ซึ่งพอขุดพอย้อนอดีตไปมันก็พาลให้คิดได้ว่า เป๊ป ไม่ถูกกับ ซาเน่ มาสักพักใหญ่ๆ แล้ว ย้อนไปในปี 2018 ซาเน่ โชว์ฟอร์มได้อย่างสะแด่วแห้ว จนคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำปีจาก พีเอฟเอ ทว่า โยอาคิม เลิฟ กุนซือทีมชาติเยอรมัน กลับเมินที่จะเรียกตัวเขาติดธงไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซียซะอย่างนั้น สร้างความฉงนสงสัยให้คนทั้งโลก  ซึ่งในระหว่างที่หลายฝ่ายออกมาให้สัมภาษณ์เชิงเห็นใจ ซาเน่ ที่ต้องผิดหวังอดไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นหนแรกในชีวิตทั้งที่ฟอร์มดีชิพหาย แต่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้เป็นเจ้านายกลับหนุนหลัง เลิฟ โดยได้ให้สัมภาษณ์ว่า "โยกี้ เลิฟ เลือกสิ่งที่ดีที่สุด และผมก็เคารพการตัดสินใจของผู้จัดการทีม สำหรับ เลอรอย เขาคงจะผิดหวัง แต่สิ่งนี้มันจะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น เขาต้องพัฒนาตัวเอง พัฒนาฟอร์มการเล่นให้ดีขึ้น" จากบทสัมภาษณ์นี้ จริงๆ มันก็มี 2 ด้านนะ ด้านนึงก็มองได้ว่า เป๊ป พูดเชิงปลุกใจให้ ซาเน่ พัฒนาฝีเท้าต่อไปอย่าเพิ่งท้อแท้ แต่อีกด้านนึงก็จะมองว่า ไอห่า ลูกทีมมึงกำลังเสียใจด้วยวัยแค่ 20 ต้นๆ ก็น่าจะพูดปลอบใจให้ดีกว่านี้ ซึ่งเราก็ไม่รู้จริงๆ ว่าในใจของ ซาเน่ นั้นคิดอย่างไร แต่ก็สันนิษฐานเอาเองได้ว่า บทสัมภาษณ์นี้นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ชิพหายระหว่าง เป๊ป กับ ซาเน่ เพราะหลังจากผิดหวังกับฟุตบอลโลก และผิดหวังกับคำพูดของผู้เป็นกุนซือ พฤติกรรมของ ซาเน่ ก็เปลี่ยนไป ระเบียบวินัยเริ่มแย่ ตอนซ้อมก็ไม่เต็มที่เหยาะๆ แหยะๆ จนโดน เป๊ป ตำหนิออกสื่อก่อนเริ่มต้นฤดูกาล 2018/19 โดยพูดเอาไว้ว่า "มันเป็นเรื่องของทัศนคติทางจิตใจของเขา ถ้าเขาต้องการจะพัฒนาฝีเท้า ต้องการจะโชว์ให้ทุกคนได้เห็นถึงศักยภาพของเขา ก่อนอื่นเลยเขาต้องปรับปรุงตัวเอง และยอมเปิดใจให้กว้างขึ้นเสียก่อน เขาถึงจะเป็นนักเตะที่ดีขึ้นได้" ช่วงท้ายฤดูกาล 2018/19 ซาเน่ หลุดไปเป็นตัวสำรองอย่างถาวร 12 นัดสุดท้าย ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงแค่ 3 เกม อนาคตจากที่สดใสก็เริ่มมืดดับ จากคนสำคัญก็กลายเป็นแค่อะไหล่้ ในตำแหน่งของเขามีทั้ง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ริยาด มาห์เรซ และ ฟิล โฟเด้น ที่สามารถเล่นได้ แล้วทั้ง 4 ชื่อที่เอ่ยมาก็โชว์ฟอ์มได้ดีซะด้วย สิงหาคม 2019 ก่อนเริ่มฤดูกาลนี้ เลอรอย ซาเน่ ได้รับบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าอย่างรุนแรงในเกม คอมมูนิตี้ ชิลด์ กับ ลิเวอร์พูล ส่งผลให้ต้องพักยาวเกือบ 8 เดือน ทำให้ฤดูกาลนี้ ซาเน่ เพิ่งจะได้ลงช่วย แมนฯ ซิตี้ ใน พรีเมียร์ลีก ไปแค่นัดเดียวเท่านั้น ความบาดหมางและฝังใจเจ็บจากคำพูดของกุนซือที่ไม่ให้กำลังใจตอนอดไปบอลโลก บวกกับการต้องตกเป็นตัวสำรองถาวร อาจเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ซาเน่ ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาฉบับใหม่ที่เหลืออีกเพียงแค่ปีเดียวกับทัพ "เรือใบสีฟ้า" ออกไป ซึ่งมันก็ทำให้ แมนฯ ซิตี้ ไม่มีทางเลือกต้องจำใจขาย ซาเน่ ในวัย 24 ปี ไปให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ในราคาแค่ 54 ล้านปอนด์ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตั้งเอาไว้ถึง 120 ล้านปอนด์เลยด้วยซ้ำ "ทุกๆ คนมีทางเลือกเป็นของตัวเอง ผมอยากให้เขาอยู่กับเราต่อนะ แต่เขาดันเชื่อว่าเขาจะแฮปปี้กว่าที่เป็นอยู่หากได้ย้ายออกไป ฉะนั้นผมก็ขออวยพรให้เขาโชคดีละกัน ขอบคุณมากสำหรับช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน" นี่คือคำพูดทิ้งท้ายที่ เป๊ป ฝากไว้ให้กับ ซาเน่ อดีตศิษย์รักที่อุตส่าห์ไปดึงตัวมาจาก ชาลเก้ 04 เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ส่วนฟอร์มการเล่นของ ซาเน่ หลังหายเจ็บกลับมาจะไฉไลอย่างเก่าหรือไม่ รอติดตามกันได้ในฤดูกาลหน้าที่ทัพ "เสือใต้"  

ชิน ชินพัฒน์

logoline