มาดูกันที่เรื่องราวของเหล่า "นักเตะพเนจร" กันหน่อย พวกนักเตะที่ย้ายทีมบ่อยๆ ค้าแข้งกับหลายสโมสร ไปดูกันหน่อยดีกว่าว่ามีใครกันบ้างที่เป็นที่สุดของที่สุดและติดโผเข้ามาในลิสต์ 10 อันดับนี้
นิโกล่าส์ อเนลก้า - 12 สโมสร (Nicolas Anelka)
นิโกล่าส์ อเนลก้า นับเป็นหนึ่งในเตะที่มีบุญมากๆ คนนึง เพราะไอ้ความพเนจรของเขา การย้ายทีมแต่ละครั้งมันทำให้เขาได้โอกาสกับทีมระดับชั้นนำทั้งนั้นไล่ตั้งแต่ อาร์เซน่อล, เรอัล มาดริด, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ยูเวนตุส และ เชลซี เป็นต้น โดยในตัวของ นิโกล่าส์ อเนลก้า ก็ถือเป็นนักเตะที่ได้รับการชื่นชมเรื่องของฝีเท้าและพรสวรรค์เหมือนกัน แต่ด้วยปัญหาทางวินัยและความแบดบอยของเขามันก็ทำให้พี่แกไม่สามารถรักษามาตรฐานเรื่องฝีเท้าได้ แต่ในภาพรวมยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่วนเส้นทางสายลูกหนังตลอด 19 ปี นิโกล่าส์ อเนลก้า ผ่านประสบการณ์การลงเล่นมาทั้งหมด 12 จากการย้ายทีมทั้งหมด 13 ครั้ง มีชื่อติดโผเข้ามาในชาร์ต 10 อันดับ
ซามูเอล เอโต้ - 13 สโมสร (Samuel Eto'o)
เพิ่งหันหลังให้เส้นทางค้าแข้งไปเมื่อปีที่แล้วเองสำหรับ ซามูเอล เอโต้ แต่มันก็ไม่มีอะไรที่เขาต้องค้างคาใจอีกต่อไป เพราะพี่แกได้รับประสบการณ์มาโชกโชนกับทีมดังๆ มากมาย ทั้ง บาร์เซโลน่า, อินเตอร์ มิลาน, เชลซี และอีกมากมาย เบ็ดเสร็จที่ กาตาร์ เอสซี สโมสรสุดท้ายในอาชีพก็นับเป็นสังกัดที่ 13 ในเส้นทางของเขา ซามูเอล เอโต้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลก เขาคือหนึ่งในขุนพลของ บาร์เซโลน่า ในยุคที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดแล้วนับตั้งแต่สโมสรก่อตั้งมา เท่านั้นยังไม่พอเพราะ เอโต้ ยังคงเป็นอีกฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยพา อินเตอร์ มิลาน เถลิงบัลลังก์ ทริปเปิ้ล แชมป์ ในปี 2010 ด้วย
เฟรดดี้ อาดู - 14 สโมสร (Freddy Adu)
ครั้งหนึ่ง เฟรดดี้ อาดู เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะที่แววดีสามารถก้าวขึ้นชั้นระดับ เวิลด์ คลาส ได้ และครั้งหนึ่งเขาเคยได้รับความสนใจจากยอดกุนซืออย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แต่สุดท้ายสิ่งที่เกิดขึ้นจริงเขากลับมีสถานะเป็นแข้ง "ดาวร่วง" ซะงั้น เขาเคยได้รับโอกาสค้าแข้งกับทีมดังๆ อย่าง เบนฟิก้า และ โมนาโก แต่ก็ไม่ได้เรื่องเลยสักที่ ถ้าไม่นับผลงานกับ ดีซี อยู่ในเต็ด สโมสรแรกเริ่มพี่แกก็ไม่สามารถแจ้งกิดกับที่ไหนได้เลย โดยตลอดเส้นทางค้าแข้งจนถึงตอนนี้ เฟรดดี้ อาดู ผ่านการค้าแข้งมาแล้วทั้งหมด 14 สโมสร ตอนนี้เขามีสถานะเป็นนักเตะฟรีเอเยนต์หลังหมดสัญญากับ ลาส เวกัส ไลท์ส เมื่อปี 2018 ไม่รู้ว่ารีไทร์ไปแล้วรึยังอันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน ?
ริวัลโด้ - 15 สโมสร (Rivaldo)
ริวัลโด้ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดนักเตะบนหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนัง ถึงแม้ช่วงพีคๆ ของอาชีพจะหมดอายุไวไปหน่อยก็ตาม แต่มันก็มากพอที่ช่วยให้เขาได้สัมผัสกับทุกความสำเร็จทั้งแชมป์ ลา ลีกา สเปน, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, แชมป์ โคปา อเมริกา และ แชมป์โลก รวมไปถึง บัลลงดอร์ ปี 1999 ด้วย แน่นอนว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขาคือ 5 ฤดูกาลกับ บาร์เซโลน่า พร้อมกับสร้างสถิติซัดประตูแบบกระจุยกระจาย ก่อนที่ ริวัลโด้ จะเริ่มโรยราลงเรื่อยๆ ตอนย้ายไปอยู่ เอซี มิลาน จากนั้นก็ตระเวนย้ายไปเรื่อย นับเป็นตำนานแข้งพเนจรอีกคนที่ค้าแข้งให้สโมสรทั้งหมดในอาชีพที่ 15 ทีม ก่อนจะประกาศรีไทร์ไปในปี 2015 กับ โมกิ มิริม
ลูก้า โทนี่ - 15 สโมสร (Luca Toni)
ลูก้า โทนี่ อดีตกองหน้าร่างยักษ์ ทีมชาติอิตาลี ไม่มีใครไม่รู้จักผู้ชายคนนี้ เพราะตลอดช่วงที่ผ่านมาพี่ท่านได้สร้างชื่อเสียงเอาไว้มากมายเรื่องการจบสกอร์ สโมสรบิ๊กเนมมากมายหลายทีมเคยได้โอกาสใช้บริการของดาวยิงรายนี้ไม่ว่าจะเป็น ปาแลร์โม่, ฟิออเรนติน่า, บาเยิร์น มิวนิค, โรม่า และ ยูเวนตุส เป็นต้น ทำเป็นเล่นไปใครจะไปรู้ว่าบนเส้นทางค้าแข้ง ลูก้า โทนี่ ก็ผ่านการค้าแข้งมามากถึง 15 สโมสรจากการย้ายทีมทั้งหมด 16 ครั้ง ถ้าจะถามถึงช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ ลูก้า โทนี่ ก็คงเป็นสมัยอยู่กับ "ม่วงมหากาฬ" และ "เสือใต้" ที่ล่าสกอร์ได้เป็นกอบเป็นกำ
>>> รู้จัก! เซบาสเตียน อาบรู แข้งพเนจรระดับสถิติโลก Guinness World Records
มาริโอ ยาร์เดล - 18 สโมสร (Mario Jardel)
ตำนานยอดดาวยิงของ ปอร์โต้ ในช่วงปี 1996-2000 แฟนๆ คงจำชื่อของ มาริโอ ยาร์เดล ได้เป็นอย่างดี เพราะแต่ละปีพี่แกมีค่าเฉลี่ยการซัลโวแบบกระจุยกระจาย ด้วยค่าเฉลี่ยเกือบๆ 40 ประตูต่อซีซั่น โดยปีที่พีคที่สุดคือปี 2000 กับการกดไปทลายถึง 54 ประตูจากการลงเล่น 49 นัดนับเป็นสถิติที่สุดยอดมากๆ จากนั้นพี่แกก็ตัดสินใจพเนจรตะลอนไปทั่ว และก็ได้โอกาสล่าสกอร์ให้ทีมดังๆ อีกมากไม่ว่าจะเป็น สปอร์ติ้ง ลิสบอน, กาลาตาซาราย, โบลตัน วันเดอเรอร์ส เป็นต้น ก่อนจะปิดฉากเส้นทางค้าแข้งในปี 2011 กับ ริโอ เนโกร นับเป็นสโมสรที่ 18 ในอาชีพของเจ้าตัว
มาร์คัส เบนท์ - 18 สโมสร (Marcus Bent)
แฟนๆ ที่เกิดทันฟุตบอลในยุค 90 ก็น่าจะพอคุ้นชื่อ มาร์คัส เบนท์ อยู่เหมือนกัน เพราะในเส้นทางของเขาส่วนใหญ่จะโลดแล่นผจญภัยอยู่ในประเทศอังกฤษนี่แหละ เคยสัมผัสประสบการณ์ทั้งหมด ดิวดิชั่น 2, ดิวิชั่น 1, พรีเมียร์ลีก และ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ เขาเคยได้ประสบการณ์ค้าแข้งกับทีมดังๆอย่าง คริสตัล พาเลซ, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส เป็นต้น ถ้าจะถามถึงปีที่รุ่งที่สุด ผลงานดีที่สุดก็คงเป็นกับทัพ "ดาบคู่" ในฤดูกาล 1999-2000 โดยซัดไป 16 ประตูจาก 35 เกม เบ็ดเสร็จตลอดช่วงเวลา 23 ปีในเส้นทางค้าแข้ง มาร์คัส เบนท์ ค้าแข้งกับสโมสรไปทั้งหมด 18 ทีม
ลุตซ์ ฟานเนนสตีล - 27 สโมสร ( Lutz Pfannenstiel)
ถ้าจะพูดถึงชื่อ ลุตซ์ ฟานเนนสตีล ก็น่าจะไม่มีใครรู้จักหากว่าไม่ใช่คนในประเทศเยอรมันด้วยกัน เขาคืออดีตผู้รักษาประตูที่ผ่านการค้าแข้งมาทั้งหมด 27 สโมสรในเส้นทางค้าแข้งจากการผจญภัยใน 15 ประเทศ แต่ถ้าเหลือบไปดูขอบอกเลยว่าแต่ละทีมเราแทบไม่คุ้นชื่อกันเลย จะมีคุ้นหูสุดๆ ก็คงเป็น วิมเบิลดัน, น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และ แวนคูเวอร์ ไวท์แคปส์ นี่แหละ และก็ไม่มีที่ไหนที่โชว์ฟอร์มได้ดีเลย เหมือนกันว่าพี่ท่านเกิดขึ้นมาเพื่อเป็นตัวสำรองเท่านั้น
จอห์น เบอร์ริดจ์ - 29 สโมสร (John Burridge)
ตลอดช่วงเวลา 30 ปีตั้งแต่ปี 1967-1997 จอห์น เบอร์ริดจ์ ค้าแข้งกับสโมสรที่ต่างกัน 29 สโมสร ช่วงชีวิตส่วนใหญ่จะอยู่ในอังกฤษบ้านเกิด เขาเคยผ่านประสบการณ์กับทีมดังๆ อย่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เซาธ์แฮมป์ตัน เป็นต้น แต่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังเท่าไหร่นัก โดยในช่วงบั้นปลายอาชีพ ณ สถิติบ่งชี้ว่า จอห์น เบอร์ริดจ์ ย้ายทีมบ่อยมาก แต่ส่วนใหญ่เป็นแค่ส่วนเกินเท่านั้น และแทบไม่ได้ลงเล่นเลย ปัจจุบันในวัย 68 ปีแกทำหน้าที่เป็นผู้ให้คำแนะนำทางด้านผู้รักษาประตูที่ คีราล่า บลาสเตอร์ส ในลีก อินเดีย
เซบาสเตียน อาบรู - 34 สโมสร (Sebastian Abreu)
เซบาสเตียน อาบรู กองหน้าชาวอุรุกวัย นี่คือเจ้าของสถิติระดับ กินเนสส์ เวิลด์ เรคอร์ดส์ ในสาขาของการเป็นนักเตะพเนจรที่ย้ายทีมมากที่สุดในโลก เขาได้รับรางวัลนี้ตอนค้าแข้งกับสโมสรที่ 27 และถึงแม้ปัจจุบันอายุอานามจะปาเข้าไป 43 ปีแล้ว แต่พี่แกยังคงโลดแล่นอยู่บนเส้นทางค้าแข้งต่อไป ควบตำแหน่งทั้งนักเตะ-โค้ชอยู่ที่ บอสตัน ริเวอร์ ในบ้านเกิดที่ อุรุกวัย นับเป็นสโมสรที่ 34 จาก 11 ประเทศในเส้นทางอาชีพแล้วตลอดระยะเวลา 24 ปี
HaMu Dos Santos
ส่วนหนึ่งของข้อมูล : topsoccerblog
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทางไลน์ขอบสนาม
