logo-heading

เปิดเหตุผลและประโยชน์ที่ทีมชาติไทย จะได้รับจากการเก็บตัวฝึกซ้อมช่วงฟีฟ่าเดย์เดือน พ.ย.นี้ ทั้งๆ ที่ตัวหลักน้อย และมีแต่ดาวรุ่งกับแข้งหน้าใหม่

ฟุตบอลไทยในช่วงสัปดาห์นี้ จะเป็นคิวของทีมชาติไทย ที่จะมาเข้าแคมป์ฝึกซ้อมกันในช่วงสุดท้ายของปี ซึ่งแต่เดิมช่วงนี้ทีมชาติไทย จะต้องมีคิวเตรียมทีมเพื่อลุยศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 แต่อย่างที่ทราบ ด้วยพิษโควิด ทำให้ฟุตบอลทีมชาติทุกรายการเลื่อนไปปีหน้า แต่ถึงแม้ทีมชาติไทย จะไม่มีโปรแกรมแข่งขันอย่างเป็นทางการในปีนี้ แต่เราก็ยังมีโปรแกรมฝึกซ้อมและลงอุ่นเครื่องกันตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ โดยในครั้งนี้ ทัพช้างศึกมีคิวอุ่นเครื่องกับไทยลีก ออลสตาร์ ในวันที่ 14 พ.ย.63 ซึ่งนักเตะในทีมชุดปัจจุบันที่เรียกเข้ามาร่วมทีมมีทั้งหน้าเก่าที่เป็นตัวหลักในทีมชุดใหญ่ รวมทั้งแข้งหน้าใหม่และดาวรุ่ง ที่มีชื่อในทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ครั้งแรก ซึ่งหลายคนก็สงสัยว่าในเมื่อไม่ได้นักเตะชุดที่ดีที่สุดมาร่วมทีม และการฝึกซ้อมครั้งนี้ จะได้อะไร ไปดูกัน 1.ทีมชาติไทยได้เคลื่อนไหวบ้าง ข้อแรกเลยก็คือ การที่ได้มีโปรแกรมฝึกซ้อมแบบนี้ ก็จะทำให้ทีมชาติไทย ได้มีความเคลื่อนไหวอะไรบ้าง ไม่ใช่รอให้มีโปรแกรมค่อยมาเก็บตัว โค้ชอย่าง นิชิโนะ ก็จะได้ทำงานให้คุ้มค่าจ้างที่เสียไป นักเตะก็ได้มาเจอกัน และได้ฝึกซ้อมร่วมกันในทีมชาติ 2.เป็นโอกาสของแข้งหน้าใหม่ อย่างที่บอกไปว่านักเตะในทีมชุดนี้ มีทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า ซึ่งหน้าใหม่ที่ติดครั้งแรกก็หลายคน รวมทั้งดาวรุ่งก็เยอะ นี่จึงเป็นโอกาสอันดีที่ทำให้นักเตะฟอร์มดีในลีกได้เข้ามาซ้อมกับทีมชาติ ซึ่งถ้าไม่มีการฝึกซ้อม หรือถ้าเรียกชุดที่ดีที่สุดมา นักเตะเหล่านี้อาจจะไม่มีชื่อก็ได้ 3.ได้ทดลองตัวผู้เล่น และระบบ สืบเนื่องจากข้อที่แล้ว เมื่อมีนักเตะใหม่ๆ เข้ามาก็ถือเป็นการได้ทดลองตัวผู้เล่นไปในตัว รวมถึงระบบและแผนการเล่นใหม่ๆ ด้วย ซึ่งปีหน้ามีทั้งฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก และซูซูกิ คัพ ที่เราจะไม่ได้ใช่ชุดใหญ่แบบเต็มสูบ นักเตะที่โชว์ผลงานดีในการฝึกซ้อมครั้งนี้ อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีในซูซูกิ คัพ 4.แฟนบอลได้เชียร์ทีมชาติ และที่สำคัญเลยก็คือ เป็นกำไรของแฟนบอล ที่จะได้เชียร์ทีมชาติไทยกันอีกครั้ง เพราะหลังจบบอลโลก รอบคัดเลือก เมื่อต้นปี ก็ไม่ได้ดูและเชียร์ทีมชาติกันเลย นี่ก็เป็นโอกาสดีที่จะได้เชียร์ทีมชาติไทยส่งท้ายปีกัน ก่อนไปเชียร์เต็มๆ ในปีหน้า
logoline