logo-heading

และแล้ว แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็คว้าแชมป์ที่ 2 ของฤดูกาลนี้จนได้ หลังจากที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมคู่ปรับร่วมเมืองส่งสัญญาณออกตัวเหมือนยอมแพ้ส่งสำรองลงเล่นแล้วก็แพ้ให้ เลสเตอร์ ซิตี้ คาบ้านสมใจอยากไป 2-1 ประตู เกมนี้มีอะไรน่าสนใจบ้างไปดูกัน

  เริ่มต้นที่การจัดทีมกันก่อนเลยเกมนี้ "ผีแดง" ของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เรียกได้ว่าจัดสำรองแบบแทบจะยกชุด เพราะทีมตัวเองการันตีติดท็อปโฟร์เรียบร้อยแล้ว แถมมีโปรแกรมจะเจอกับทีมคู่ปรับตลอดลกาลอย่าง ลิเวอร์พูล ที่เลื่อนมาเตะวันพฤหัสนี้รออยู่ ฉะนั้น น้าลูกอม เลยจัดให้ซึ่งถือว่าสมใจแฟนผี ที่อยากเห็นตัวสำรองลงเล่น  เริ่มต้นที่ ดาบิด เด เคอา ที่แม้จะโชว์ฟอร์มเซฟไปเป็น 10 ช็อทในเกม ยูโรปา แต่ก็ต้องยอมรับว่าน้าแกตกเป็นมือ 2 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แนวรับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ที่ลงเล่นติดต่อกันมา 73 เกม เจ็บจนได้ไม่ได้ลงในเกมนี้ให้ อั๊กเซล ตวนเซเบ้ จับคู่กับ  เอริค ไบยี่ ขนาบข้างด้วยแบ็ก 2 ฝั่งอย่าง อเล็กซ์ เตลลิส และ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ ซึ่งบอกได้เลยว่าสนานแน่นอน เห็นแผงหลังยังไม่เท่าไหร่มาดูกองกลางกันบ้าง น้าโอเล่ เล่นดรอปทั้ง เฟร็ด , แม็คโทมิเนย์ , ปอล ป็อกบา,  บรูโน่ แฟร์นันเดส แล้วส่งตัวเก๋าอย่าง ฆวน มาต้า กับ เนมานย่า มาติช มาประคองเกม ร่วมกับ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค แล้วคอยให้ท้าย 3 ดาวรุ่งอย่าง เมสัน กรีนวู้ด, อาหมัด ดิยัลโล่ และ แอนโทนี่ อิลันก้า ดาวรุ่งวัย 18 ปีที่เพิ่งได้ลงเล่น พรีเมียร์ลีก เกมนี้เป็นนัดแรก หึหึ ตัดสลับมาดูทางฝั่งของ เลสเตอร์ ซิตี้ กันบ้างที่สถานการณ์ต่างออกไปจาก แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะต้องการแต้มเพื่อประคองตำแหน่งท้อปโฟร์ เกมนี้ก็มาแบบจัดค่อนข้างเต็มอาจจะมีหายไปบ้างบางตัวแต่ก็เพราะไม่ฟิต ทว่าตัวหลักที่ไม่เจ็บอย่าง เจมี่ วาร์ดี้, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ รวมไปถึง อโยเซ่ เปเรซ กับ มาร์ค อัลไบร์ทตัน ก็ได้ลงเล่นกันครบ แต่ เจมส์ แมดดิสัน ที่เคยมีข่าวกับ "ผีแดง" นัดนี้เป็นแค่สำรอง เพราะยังเจ็บอยู่นิดๆ เอาล่ะมาเข้าสู่เกมการแข่งขันกันดีกว่า แมนฯ ยู จัดทีมมาอย่างนี้ดูแล้วคงจะมีแต่ลูกฮึดที่พวกตัวสำรองได้ลงมาเคาะสนิม ต่างจากฝั่ง เลสเตอร์ ที่ใส่ตัวจริงเพราะต้องการแต้ม โดยที่ไม่ได้กลัวเจ้าบ้านเลย แล้วก็เป็นฝ่ายที่ครองเกมรุกบุกเข้าใส่อย่างหนักก่อน ซึ่งก็ไม่นานเกินรอมาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 10 จากจังหวะที่ ยูริ เตเลม็องส์ เปิดมาที่เสาไกลผ่าน วาร์ดี้ หลีกหนีมาถึง ลุค โทมัส แบ็กซ้ายดาวรุ่งวิ่งมาตะบันด้วยซ้ายบอลหายย้ายเข้าประตูไปอย่างสวยงาม กลายเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในศึก พรีเมียร์ลีก ด้วย ทว่าแค่ 6 นาที ก็มาได้ประตูตีเสมอจากความผิดพลาดของ เลสเตอร์ ลุค โทมัส ที่ทำประตูขึ้นนำให้ เลสเตอร์ นี่แหละ ดันไปเสียเหลี่ยมให้ อาหมัด ดิยัลโล่ จากนั้นก็ปาดเข้ากลางให้ เมสัน กรีนวู้ด ที่เรียกได้ว่าเป็นตัวจริงของ ผีแดง เพียงแค่คนเดียวในเกมนี้ พลิกบอลโชว์เหนือก่อนจะซัดผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เข้าประตูไปอย่างสวยงาม ทำให้ ผีแดง ตามตีเสมอเป็น 1-1 อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะตามตีเสมอได้ไวแต่ใช่ว่าเกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด จะดีขึ้นเพราะโรเตชั่นเยอะ ตัวสำรองทดแทนตัวจริงได้ไม่ดีพอ ซึ่งมันก็เลยทำให้เกมตื้อๆ ตึงๆ ออกแนวน่าเบื่อ เลสเตอร์ เองก็กล้าๆ กลัวๆ เหมือนคิดว่าบุกมาโอลด์แทรฟฟอร์ด ได้ 1 แต้มกลับไปก็ถือว่าโอเคแล้ว แล้วมันก็จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้เลยแบบเฉาๆ เริ่มครึ่งหลังเกมก็ยังตื้อๆ ตึงๆ เหมือนเดิม แต่ เลสเตอร์ ก็มาได้ลุ้นหน่อยๆ จาก อิเฮียนาโช่ แต่ก็ยังติดเซฟ ดาบิด เด เคอา ส่วน ผีแดง ก็ได้ลุ้นจากจังหวะโหม่งของ เมสัน กรีนวู้ด แต่ก็ติดบล็อก จนกระทั่งนาทีที่ 66 จุดเปลี่ยนของเกม แล้วก็เป็นจุดเปลี่ยนสุดท้ายก็ย้ายมาถึง เมื่อ เลสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูขึ้นนำจากลูกเตะมุม มาร์ค อัลไบร์ทตัน เปิดมาให้ ซากลาร์ โซยุนคู แนวรับตุรกี ที่ขึ้นมาแทน แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ทะยานโขกเข้าไปส่งให้ เลสเตอร์ ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 ประตู  ช่วงเวลาที่เหลือ แมนฯ ยู พยายามจะทำเกมรุกบุกเข้าใส่แต่ก็ป้อแป้ เนื่องจากมันไม่ใช่ทีมที่เล่นกันมาตลอด แม้ว่าจะส่ง เอดินสัน คาวานี่, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ บรูโน่ แฟร์นันเดส ลงมาแล้วก็ไม่เป็นผล แถม 2 คนแรกลงมาปุ๊ปก็เสียประตูปั๊ปเลยด้วย สุดท้ายมันก็จบ 90 นาที ผีแดง พลิกแซงไม่ได้ปล่อยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ไปครองแบบไม่ต้องออกแรงเอง แต่ 3 แต้มนี้ของ เลสเตอร์ ซิตี้ นั้นมีความสำคัญมากเพราะทำให้พวกเขานั้น ทวงคืนอันดับที่ 3 จาก เชลซี มาได้สำเร็จ แม้จะแข่งมากกว่า แล้วก็มีโอกาสจะคว้าอันดับท้อปโฟร์ได้มากขึ้น โดยตอนนี้มี 66 คะแนน จาก 36 นัด นำ เวสต์แฮม อันดับ 5 อยู่ 8 คะแนน แข่งมากกว่า 1 นัด และนำ ลิเวอร์พูล อันดับ 6 อยู่ 9 คะแนน ทว่าแข่งมากกว่า 2 นัด แต่ "หงส์แดง" มีเกมหนักรออยู่คือต้องบุกไปเยือน "ผีแดง" ทำศึกแดงเดือดในวันพฤหัสนี้ บอกได้เลยว่าการที่ โซลชา โรเตชั่นก็เพื่อนจัดเต็มในเกมกับลิเวอร์พูล แน่ๆ แต่จะทำได้มั้ยนั้น วันพฤหัสมาลุ้นกัน  

ชิน ชินพัฒน์

 
logoline