logo-heading

เกมหยุดโลกอย่าง เอล กลาซิโก้ นัดที่ 238 ในเกมอย่างเป็นทางการกำลังจะเกิดขึ้นในค่ำคืนนี้ แน่นอนว่าถ้าพูดถึงเกมๆ นี้รับรองและการันตีได้เลยในเรื่องของความมันส์ ความดุเดือด มันจะเป็นเกมที่สภาพทีมกับฟอร์มการเล่นตัดสินอะไรไม่ได้ นอกจากสิ่งๆ เดียวนั่นคือศักดิ์ศรีเท่านั้น

การพบกันของทั้งคู่แน่นอนว่ามันมีประวัติศาสตร์มากมายเกิดขึ้น ดังนั้นเพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยและเพิ่มอรรถรสในการรับชมทาง “ขอบสนาม” จึงขอพาทุกท่านไปย้อนรอยกันหน่อยดีกว่าว่ามีการต่อสู้กันในแมตช์ไหนที่น่าจดจำบ้างที่ผ่านๆ มา เรอัล มาดริด 2-6 บาร์เซโลน่า : พฤษภาคม 2009
พฤษภาคม ปี 2009 เกม เอล กลาซิโก้ ที่สนาม ซานติอาโก้ เบร์นาเบว มาในรูปแบบนี้ที่ไม่ได้ลุ้นอะไรกันแล้ว เพราะ บาร์เซโลน่า การันไปแล้วว่าเป็นแชมป์ ลา ลีกา แน่นอนในการทำงานปีแรกของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แต่ด้วยเรื่องของศักดิ์ศรีนั้น เรอัล มาดริด ไม่ปล่อยให้คู่อริมาเย้ยถึงถิ่นแน่นอน ก่อนถึงจะเกมดังกล่าว เรอัล มาดริด มีสถิติเฝ้ารังที่่ค่อนข้างเยี่ยมจากการชนะ 17 จาก 18 นัด และพอเริ่มเกมก็เปิดหัวมาสวยโดยได้ กอนซาโล่ อิกวาอิน เบิกร่องก่อน 1-0 ในนาทีที่ 14 แต่จากนั้น บาร์เซโลน่า ก็สวมบทโหดไล่ยำใหญ่ใส่สารพัด ลิโอเนล เมสซี่ กับ เธียร์รี่ อองนี กดกันไปคนละ 2 ตุง ส่วน การ์เลส ปูโยล และ เคราร์ด ปิเก้ อีกคนละเม็ด จบเกม บาร์เซโลน่า บุกไปถล่ม เรอัล มาดริด ถึง เบร์นาเบว 6-2 นับเป็นการพ่ายแพ้คาถิ่นที่ย่อยยับที่สุดในศึก เอล กลาซิโก้ ตลอดช่วง 10 ปีหลังสุด ส่วนทางทีมดังจากรั้ว คัมป์ นู ปีนั้นพวกเขาเป็น ทริปเปิ้ลแชมป์ เรอัล มาดริด 2-3 บาร์เซโลน่า : เมษายน 2017
ฤดูกาล 2016-17 ถึงแม้แชมป์ ลา ลีกา จะตกอยู่ในมือของ เรอัล มาดริด แต่ต้องบอกเลยว่าเป็นปีที่ลุ้นแชมป์กันสนุกที่สุดปีหนึ่ง และแน่นอนในศึก เอล กลาซิโก้ ช่วงเดือน เมษายน ปี 2017 นั้นมันมีผลมากๆ เพราะ บาร์เซโลน่า จำเป็นต้องบุกมาชนะให้ได้เพื่อต่อลมหายใจในการลุ้นล่าความสำเร็จก่อนที่ หลุยส์ เอ็นริเก้ จะอำลาทีมตอนจบซีซั่น คาเซมิโร่ เรียกเสียงเฮให้กองเชียร์เจ้าบ้านกึกก้องไปสนั่นสนาม เบร์นาเบว กับประตูขึ้นนำ 1-0 ของเขาในนาทีที่ 28 อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่วินาทีนั้นทั้งเกมมันกลายเป็นการแสดงโชว์ของ ลิโอเนล เมสซี่ ทั้งประตูตีเสมอในนาที 33 พร้อมกับเรียกใบแดงให้กับ เซร์คิโอ รามอส ด้วยจากการเข้าสกัดที่อันตราย ก่อนที่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+3 บาร์ซ่า สวนกลับขึ้นมาและเป็น จอร์ดี้ อัลบา ที่ลากไปสุดเส้นและปาดกลับมาบริเวณแถว 2 ตรงเส้น หัวกระโหลก เมสซี่ วิ่งมาซัดเปรี้ยงเข้าไปไม่พลาด ก่อนวิ่งถอดเสื้อไปชูเย้ยกองเชียร์ มาดริดิสต้า พร้อมพา บาร์ซ่า บุกไปเชือด เรอัล มาดริด คาบ้าน 3-2  และยังอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์ต่อไป ยิ่งไปกว่านั้นประตูดังดล่าวยังเป็นประตูที่ 500 ของ เมสซี่ กับต้นสังกัดด้วย เรอัล มาดริด 0-3 บาร์เซโลน่า : พฤศจิกายน 2005
ย้อนกลับไปปี 2005 ในศึก เอล กลาซิโก้ ช่วงปลายปีซึ่งนั่นเป็นยุคที่ใครได้โอกาสไปดูติดขอบสนามถือว่ามีบุญมากๆ เพราะแต่ละฝั่งนั้นต่างมีสุดยอดตำนานมากมายหลายคน โดย เรอัล มาดริด นั้นเป็นยุค กาลาคติกอส แน่นไปด้วยซูเปอร์สตาร์ดังทั้ง เดวิด เบ็คแฮม, ซีเนดีน ซีดาน, โรนัลโด้ โล้นทองคำ และ โรแบร์โต้ คาร์ลอส ส่วนทาง บาร์ซ่า ยังมีพวก โรนัลดินโญ่, ซามูเอล เอโต้ และ เดโก้ อยู่ในทีม อย่างไรก็ตามไฮไลท์ในเกมนั้นไม่ใช่การดวลกันของเหล่าบรรดาแข้งสตาร์ดัง ไม่ใช่สกอร์ 3-0 ที่ บาร์เซโลน่า บุกไปอัดถึงถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว แต่มันอยู่ที่ วัน แมน โชว์ ของ โรนัลดินโญ่ คนเดียวเลย โดยลูกขึ้นนำ 2-0 นั้นพี่แกโซโล่เดียวจากครึ่งสนาม 50 หลากระชากผ่านทั้ง เซร์คิโอ รามอส กับ อิบัน เอลเกร่า แบบง่ายๆ และยิงสวนตัว อิเกร์ กาซิยาส ไปแบบนิ่มๆ เท่านั้นยังไม่พอในลูกที่ 3 ประตูปิดกล่องนั้น โรนัลดินโญ่ ก็กระชากเดี่ยวลุยเข้ามาจากกราบซ้ายผ่าน รามอส ก่อนไปยิงรอดหว่างขา กาซิยาส แบบที่ว่าเก็บอาการเขินไม่อยู่ และนั่นทำให้แฟนๆ เจ้าถิ่นยอมใจแทนที่จะตะโกนด่าทอใส่ แต่กลายปเป็นต้องลุกปรบมือให้กับฟอร์มการเล่นระดับเวิลด์คลาสของเขา บาร์เซโลน่า 0-0 เรอัล มาดริด : พฤศจิกายน 2002
เกม เอล กลาซิโก้ เมื่อครั้งปี 2002 ที่สนาม คัมป์ นู นั้นได้ชื่อว่าเป็น “ดาร์บี้แมตช์แห่งความอับอาย” ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสกอร์ที่เจ๊าจืดกันไป 0-0 แต่ไฮไลท์มันอยู่ที่ตำนานดาวเตะอย่าง หลุยส์ ฟิโก้ ที่ตัดสินใจย้ายทีมข้ามฟากแบบสุดช็อคจาก บาร์เซโลน่า ไป เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 60 ล้านยูโร เมือปี 2000 เหตุการณ์ในเกมดังกล่าวนั้น ฟิโก้ เป็นคนรับหน้าที่เปิดลูกเตะมุมท่ามกลางแฟนบอลด้านหลังที่เป็นของฝั่ง บาร์ซ่า ทันใดนั้นเองก็มีสิ่งของมากมายจากอัฒจันทร์ถูกหยิบโยนเขวี้ยงลงมาใส่เขาไม่ว่าจะเป็นขวดเหล้า, หัวหมูและอีกมากมาย และนั่นทำให้เกมต้องถูกเบรกไปนานกว่า 10 นาทีเพื่อคุมสถานการณ์ และถึงแม้ โรแบร์โต้ คาร์ลอส จะมาอาสาขอทำหน้าที่แทน แต่ ฟิโก้ กลับบอกว่า ‘ไม่ต้อง‘ จนบอดี้การ์ดต้องมาคุ้มกันแทน เรอัล มาดริด 4-1 บาร์เซโลน่า : พฤษภาคม 2008
ศึก เอล กลาซิโก้ ในวันนั้น เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายเถลิงบัลลังก์แชมป์ ลา ลีกา ไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะมาฟาดแข้งกับ บาร์เซโลน่า และผลจบลงที่เจ้าบ้านเป็นฝ่ายเปิด ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ยำใหญ่ไป 4-1 โดยได้ประตูจาก ราอูล กอนซาเลซ, อาร์เยน ร็อบเบน, กอนซาโล่ อิกวาอิน และ รุด ฟาน นิสเตลรอย แต่เหตุการณ์สำคัญในวันนั้นมันอยู่ที่ บาร์เซโลน่า ได้ตั้งขบวนแถวปรบมือให้เกียรติกับ เรอัล มาดริด ช่วงต้นเกมจากการเป็นแชมป์ ลา ลีกา ในปีนั้น และนั่นเหมือนจะเป็นครั้งสุดท้ายที่มีพิธีดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะในเกม เอล กลาซิโก้ นัดแรกของซีซั่นนี้ บาร์เซโลน่า ประกาศไม่ตั้งแถวปรบมือให้เกียรติ เรอัล มาดริด ที่ไปคว้าแชมป์สโมสรโลก ซึ่งสอดคล้องกับเกมในค่ำคืนนี้ที่ต้องมารอดูกันว่าทางฝั่ง เรอัล มาดริด นั้นจะไม่ตั้งขบวนให้เกียรติกับแชมป์ของ บาร์เซโลน่า ในฤดูกาลนี้ตามกระแสที่เกิดขึ้นหรือไม่ ??  

-HaMuDosSantos-

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline