เมื่อไม่ใช่ บาเยิร์น? เปิดสถานีต่อไปของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

“โรเบิร์ต รู้สึกว่าเขาต้องการความเปลี่ยนแปลง และความท้าทายใหม่ๆ ในอาชีพค้าแข้ง ผู้จัดการทีมของ บาเยิร์น ก็รู้เรื่องนี้แล้วเหมือนกัน” ประโยคสั้นๆ แต่ประเด็นที่ตามมายาวเหยียด

นี่คือสิ่งที่ออกมาจากปากของ พินี ซาฮาวี เอเยนต์คนใหม่ของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงจอมถล่มประตูของ บาเยิร์น มิวนิค และมันได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับโลกลูกหนังโดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับทัพ ‘เสือใต้’ ทั้งหมด เพราะตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาถ้าไม่มีผู้ชายคนนี้ต้องบอกเลยว่า บาเยิร์น มิวนิค ก็คงไม่ใช่ทีมที่แข็งแกร่งและไร้เทียมทานขนาดนี้ในยุคปัจจุบัน ผลงาน 151 ประตูจากการลงสนาม 195 เกมมันมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถทำแบบนี้ได้ แต่ เลวานดอฟสกี้ ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเขานั้นคือของจริง และก็คู่ควรอย่างยิ่งกับคำว่า ‘นักเตะระดับเวิลด์คลาส’ คำว่า ‘ความท้าทายใหม่ๆ’ ถ้าเกิดขึ้นในโลกฟุตบอลมันคงสื่อเป็นความหมายอื่นไม่ได้อีกแล้ว ถ้าไม่ใช่การย้ายทีม ดังนั้นมันหมายความว่า โรเบิร์ต เลวาฟดอฟสกี้ อาจไม่ใช่นักเตะของ บาเยิร์น มิวนิค อีกต่อไปในซีซั่นหน้า แต่เมื่อเป็นแบบนั้นคำถามก็คือสถานีต่อไปของเขามันควรจะไปลงเอยที่ใด ??? เรอัล มาดริด เรอัล มาดริด คือสโมสรที่เหล่าบรรดาพ่อค้าแข้งส่วนใหญ่ใฝ่ฝันมากว่าจะต้องได้โอกาสค้าแข้งด้วยสักครั้งในชีวิต และที่ผ่านมาก็มีกระแสข่าวว่าพวกเขาอยากได้ตัว เลวานดอฟสกี้ ไปช่วยถล่มประตูเหมือนกัน สืบเนื่องจากฤดูกาลที่ผ่านมาจะเห็นได้ชัดว่า เรอัล มาดริด เจอปัญหาเยอะมากในเรื่องการพังประตูที่ด้อยประสิทธิภาพลงไปเยอะ คาริม เบนเซม่า คือผู้เล่นที่ถูกเพ่งเล็งมากที่สุดว่าอาจต้องเก็บข้าวของเช็คเอาท์จากรั้ว เบร์นาเบว เพราะนอกจากอายุอานามจะเข้าสู่เลข 3 ต้นๆ แล้วฟอร์มการเล่นก็ตกต่ำลงไปอย่างน่าใจหายอีกด้วย ดังนั้นจากบทเรียนที่พลพรรค ‘ราชันชุดขาว’ ได้รับมาในปีนี้ทางแก้ไขหนทางแรกก็คือพวกเขาจำเป็นต้องได้หัวหอกระดับเวิลด์คลาสและพร้อมใช้งานทันทีมาเสริมความแข็งแกร่ง ซึ่งตัวของ เลวานดอฟสกี้ ก็ตอบโจทย์นั้นได้เป็นอย่างดี เชลซี สถานการณ์ของ เชลซี ณ เวลานี้ยังคงคลุมเครืออยู่ว่าผู้จัดการทีมในฤดูกาลหน้าจะเป็นใครกันแน่ ? ไม่ว่าจะเป็น อันโตนิโอ คอนเต้ ได้อยู่ต่อ หรือ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่จะเข้ามากุมบังเหียนตามข่าวลือ มันไม่สำคัญ แต่ถ้าสโมสรสามารถเช็คบิลสอย เลวานดอฟสกี้ มาได้นั้นมันจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดมาก เพราะฤดูกาลที่ผ่านมา เชลซี มีหลายๆ ช่วงที่พวกเขาขาดความเฉียบคมในการพังตาข่ายทั้งที่โอกาสเข้าทำต่างๆ ก็ไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่า อัลบาโร่ โมราต้า จะกลับมาฟอร์มดีอีกครั้งหรือ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ จะผลงานเปรี้ยงปร้างแค่ไหนก็ตาม เชื่อได้เลยว่าด้วยโปร์ไฟล์ที่ เลวานดอฟสกี้ สร้างมามันจะทำให้เขาได้รับการการันตีว่าจะได้เป็นดาวยิงเบอร์ 1 แน่นอน อย่างไรก็ตามปัญหาเดียวของ เชลซี ที่อาจทำให้อกหักจากการล่าลายเซ็น เลวานดอฟสกี้ ก็คือการไม่ได้สิทธิ์ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูหน้านั่นเอง เพราะนี่คือความสำเร็จเดียวที่นักเตะไม่ได้เคยได้รับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หลายๆ คนอาจจะสงสัยมาตลอดว่าดีลระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กับ เลวานดอฟสกี้ มันจะเกิดได้จริงๆ หรือ ??? ต้องบอกว่ามันเกิดขึ้นได้ และก็มีความเป็นได้อยู่หลายปัจจัยด้วย โดยข้อแรกคือถ้า แอตเลติโก มาดริด ต้องเสียดาวยิงตัวเก่งอย่าง อองตวน กรีซมันน์ ให้กับ บาร์เซโลน่า จริง เอดินสัน คาวานี่ จะถูกเล็งเอาไว้ให้เป็นตัวแทน เช่นเดียวกับทาง เลวานดอฟสกี้ ก็ถูกวางตัวเอาไว้เสียบแทนเหมือนกัน หาก เปแอสเช ต้องเสีย คาวานี่ ไป ส่วนข้อ 2 คือทั้ง เลวานดอฟสกี้ และ เนย์มาร์ มีเอเยนต์คนเดียวกันคือ พินี ซาฮาวี และว่ากันว่าพ่อของ เนย์มาร์ ได้ขอร้องให้ ซาฮาวี จัดการเดินเรื่องให้ลูกชายเขาได้ย้ายไป เรอัล มาดริด ภายในช่วงซัมเมอร์นี้ ดังนั้นถ้ามันเกิดขึ้นจริงทำไมเขาจะช่วยให้ เลวานดอฟสกี้ ย้ายมาปักหลักยังรั้ว ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ไม่ได้ล่ะ ??? แอลเอ กาเแล็คซี่ ปัจจุบัน เลวานดอฟสกี้ อายุ 29 ปี ถ้าเกิดจะต้องก้าวออกจากเส้นทางค้าแข้งในระดับสูงมันก็คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสุดๆ แต่ถ้ามันเป็นเรื่องของครอบครัวมันก็สมเหตุสมผลนะ เพราะก่อนหน้านี้ แอนน่า เลวานดอฟสก้า ได้ออกมาเปิดเผยว่า เธอกับสามีของเธอนั้นได้วางอนาคตเอาไว้ว่าจะไปใช้ชีวิตใน ลอส แองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยกันโดยมีเหตุผลเรื่องแบรนด์ธุรกิจเกี่ยวกับอาหารการกินเป็นหลัก ‘เราฝันร่วมกันว่าจะไปใช้ชีวิตใน ลอส แองเจลิส นั่นคือที่ๆ เราอยากจะไปพัฒนาและต่อยอดธุรกิจแบรนด์ของเรา เราหวังว่า โรเบิร์ต จะยุติอาชีพค้าแข้งที่สโมสรใน ลอส แองเจลิส และฉันสามารถพูดได้เลยว่านี่มันคือความฝันของเรา’ แอนนา เลวานดอฟสก้า ได้กล่าวเอาไว้ (แต่โอกาสที่ข้อนี้จะเกิดขึ้นถือว่าโคตรยากจริงๆ) ไม่ย้ายไปไหนทั้งนั้น จริงอยู่ที่คำพูดเหล่านั้นออกมาจากปากของคนที่เป็นนายหน้าส่วนตัว และมันก็ทำให้เปอร์เซนต์ที่ เลวานดอฟสกี้ จะย้ายทีมมีสูงไม่น้อยเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามโลกของฟุตบอลก็รู้กันอยู่แล้วว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ วันนี้เรื่องราวพูดถึงเอาไว้อีกอย่างหนึ่ง แต่พรุ่งนี้มันอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ได้ ตัวอย่างดีๆ แบบนี้เกิดขึ้นให้เห็นอยู่บ่อยๆ ดังนั้นมันก็ยังมีโอกาสอยู่ว่า เลวานดอฟสกี้ จะไม่ย้ายไปไหนทั้งนั้น  

-HaMuDosSantos-