logo-heading

เมซุต โอซิล เพลย์เมกเกอร์จาก อาร์เซน่อล ประกาศรีไทร์ขอหันหลังให้กับการรับใช้ทีมชาติเยอรมัน นับตั้งแต่บัดนี้ เพราะรับไม่ได้กับการถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากเหล่าบอร์ดบริหาร สหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน (เดเอฟเบ) โดยเฉพาะถูกเหยียดเชื้อชาติ หลังโชว์ฟอร์ไม่ดี ในศึก ฟุตบอลโลก 2018

กองกลางจาก อาร์เซน่อล กล่าวถึงเรื่องนี้ หลังกลายเป็นแพะรับบาป และถูกเชื่อมโยงเกี่ยวกับเรื่องการเมือง จากการถ่ายรูปหมู่กับ ทายยิป เออร์โดกัน ผู้นำประเทศตุรกี โดยระบุว่า "สำหรับผม ภาพถ่ายคู่กับ เออร์โดกัน ประธานาธิบดี ตุรกี มันไม่เกี่ยวกับการเมือง หรือ การเลือกตั้ง เลยสักนิด มันเป็นการให้ความเคารพกับผู้นำประเทศ ที่เกี่ยวกับข้องกับสายเลือดของครอบครัวผมก็เท่านั้น หน้าที่ของผมคือเป็นนักฟุตบอล ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง "ปัญหาที่ทำให้ผมรู้สึกผิดหวังมากที่สุดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ก็คือการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมของ เดเอฟเบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันมาจาก ไรน์ฮาร์ด กรินเดล ประธานสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน ซึ่งมันเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมไม่ต้องการสวมเสื้อทีมชาติเยอรมัน อีกแล้ว" "ผมรู้สึกเหมือนไม่เป็นที่ต้องการอีกแล้ว ความสำเร็จที่ผมเคยสร้างให้กับทีมชาติเยอรมัน ตั้งแต่ปี 2009 เหมือนถูกหลงลืมไปหมด มันน่าหนักใจเหลือเกินกับสิ่งที่เกิดขึ้น และหลังจากได้พิจารณาอย่างหนัก จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาๆ ผมจึงไม่ขอเล่นให้กับทีมชาติเยอรมัน อีกต่อไป เพราะผมรู้สึกถึงการถูกเหยียดเชื้อชาติ และ ไม่ได้รับความเคารพ" "ผมเคยสวมเสื้อทีมชาติเยอรมัน ด้วยความภาคภูมิใจ และ น่าตื่นเต้น แต่ตอนนี้ผมไม่รู้อย่างนั้นอีกแล้ว มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก เพราะผมทุ่มเททุกอย่างเพื่อช่วยเพื่อนร่วมทีม, สตาฟฟ์โค้ช และ แฟนบอลที่ดีๆของทีมชาติเยอรมัน แต่ในเมื่อผู้บริหารของ เดเอฟเบ ปฏิบัติกับผมแบบไม่ให้เกียรติ ลบหลู่รากเหง้าความเป็น ตุรกี ของผม ทำให้ผมตกเป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง ฉะนั้นผมไม่ยอมนั่งดูเฉยอีกต่อไปแล้ว การเหยียดเชื้อชาติ เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline