logo-heading

กลายเป็นดีล อลเวง ไปซะอย่างนั้น เมื่อ มัลค่อม ปีกอนาคตไกลชาวบราซิล ดันเกิดเปลี่ยนใจวินาทีสุดท้าย ไม่ขอย้ายมาอยู่กับ โรม่า ก่อนจะกลายเป็นสมาชิกใหม่ "บาร์เซโลน่า" ในที่สุด เหมือนเรื่องทุกอย่างจะจบลง แต่ผิดมหันต์ มันคือจุดเริ่มต้นของการฟ้องร้องทางกฎหมาย

สิ่งที่ บอร์กโดซ์ ต้นสังกัดเก่า มัลค่อม กับ บาร์เซโลน่า ทำนั้น มันอาจไม่ได้ผิดกฎระเบียบ แต่มันผิดมารยาทแบบร้ายแรง และที่สำคัญทำให้ "อาแอส โรม่า" ต้องขายหน้า หากใครที่ยังคง "งง" ว่าแม่งเกิดอะไรขึ้น มากองรวมกันตรงนี้และจะเล่าให้ฟัง

1. ย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์เหล่าสโมสรตามจีบ มัลค่อม มัลค่อม โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมให้กับ บอร์กโดซ์ โดยตลอด 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา ลงสนามให้กับต้นสังกัดไปทั้งสิ้น 96 นัด ยิงไป 23 ประตู แต่ 3 ปี ที่ผ่านมา มีเพียงแค่ผลงานส่วนตัวเท่านั้น ไม่ได้มีเกียรติประวัติแชมป์ติดตัว ดีที่สุดคือการนำ บอร์กโดซ์ จบอันดับ 6 ของตาราง เขาจึงขอไปคุยกับประธานสโมสร เพื่อขอย้ายทีมเมื่อจบซีซั่น และก็ได้รับไฟเขียวกลับมา นับตั้งแต่ที่ มัลค่อม ประกาศว่าพร้อมย้ายออกจาก บอร์กโดซ์ เพื่อไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ ก็เรียกได้ว่า "หัวกระได" แทบไม่แห้ง โดยเฉพาะบรรดาพวกยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่าง อาร์เซน่อล และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ รวมถึงพีคถึงขั้นที่สื่อหลักหลายๆสำนักรายงานว่า เอฟเวอร์ตัน ใกล้ปิดดีลนี้แล้วด้วยซ้ำ 2. ตาอิน ตานา กำลังสู้กัน แต่สุดท้ายตาอยู่เอาไปแดก ในช่วงขณะที่ เอฟเวอร์ตัน กำลังปาดหน้าหลายๆทีม ใกล้ปิดดีลคว้าตัว มัลค่อม มาเสริมทัพ แต่จู่ๆ อาแอส โรม่า มาจากไหนก็ไม่ทราบ โพล่งเข้ามา แล้วก็ประกาศแบบไม่กลัวหน้าแตกว่า "สามารถบรรลุข้อตกลงกับ บอร์กโดซ์ ได้แล้วเรียบร้อย" โดยเหลือขั้นตอนเพียงแค่ตรวจร่างกาย และ ตกลงสัญญาส่วนตัวกับนักเตะเท่านั้น" อะไรก็ตามที่สโมสร โพสต์ลงบนโลกโซเชียล เน็ตเวิร์ค อย่าง "ทวิตเตอร์" มันน่าจะการันตี 100 เปอร์เซ็นต์ และ ไม่มีทางเป็นอื่นใด ฉะนั้นใครๆก็คิดแล้วว่า มัลค่อม ได้กลายเป็นสมาชิกใหม่ของ "หมาป่าเหลือง-แดง" ไปแล้วเรียบร้อย 3. จากนั้นเรื่องราว อลเวง ก็เกิดขึ้น ภายหลังจากที่ อาแอส โรม่า ประกาศผ่าน "ทวิตเตอร์" ถึงเรื่องบรรลุข้อตกลงคว้าตัว มัลค่อม เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง มีกระแสลือมาหนักหูว่า บอร์กโดซ์ เป็นคนระงับดีลวินาทีสุดท้าย ไม่ให้นักเตะรายนี้เดินทางมายังกรุงโรม ทั้งๆที่บอร์ดบริหาร "หมาป่าเหลือง-แดง" จองตั๋วเครื่องบินไว้ให้เสร็จสรรพ เรียกว่า มอนชี่ ผู้อำนวยการกีฬา โรม่า โกรธเลือดขึ้นหน้า พร้อมกับต่อสายให้ไปประธานสโมสร บอร์กโดซ์ เพื่อต้องการเหตุผลถึงการระงับดีลแบบไม่บอกไม่กล่าว เพราะ บอร์กโดซ์ เป็นคนให้ โรม่า ป่าวประกาศเองผ่านทาง ทวิตเตอร์ แต่ไหงทำให้ต้องเสียหน้าขนาดนี้ สุดท้าย บอร์กโดซ์ บอกว่า บาร์เซโลน่า ได้ยื่นข้อเสนอเกทับมามากกว่า หากต้องการได้ มัลค่อม จะต้องเปย์สตางค์มาให้มากกว่า 4. มอนชี่ เสียสุนัข และ โรม่า ต้องแห้วรับประทาน ตอนนั้น มอนซี่ เริ่มรู้สึกถึงความกังวลในใจ เพราะ โรม่า ได้ส่งเอกสาร และ การเจรจาก็ปิดฉากลงไปแล้ว แต่ด้วยความที่ต้องการได้ตัว มัลค่อม มาเสริมทัพแบบใจจะขาด ทำให้ ผอ.กีฬา โรม่า ยอมต่อสายตรงไปหาประธาน บอร์กโดซ์ และ เอเย่นต์ของนักเตะ ประมาณสัก 5 ทุ่มของวันจันทร์ ว่าได้เพิ่มข้อเสนอให้มากกว่าทาง บาร์เซโลน่า แล้ว เพื่อแสดงจุดยืนว่า "กูต้องการได้ตัว มัลค่อม จริงๆ" จากนั้นเช้าวันอังคาร ทางประธาน บอร์กโดซ์ กับ เอเย่นต์นักเตะ ก็อนุญาตให้ มัลค่อม เดินทางมายังกรุงโรม นั่นเท่ากับ โรม่า ได้รับการคอนเฟิร์ม จาก บอร์กโดซ์ เป็นครั้งที่ 2 กับการปล่อยตัว มัลค่อม แต่ มอนชี่ ต้องเสียสุนัขจนได้ เพราะเที่ยงๆของวันอังคาร ประธานสโมสรของทีม ลีก เอิง ฝรั่งเศส ก็โทรมาหา มอนชี่ อีกครั้ง ให้ โรม่า เพิ่มข้อเสนอขึ้นไป เนื่องจาก บาร์ซ่า เกทับมาอีกแล้ว และคราวนี้ มอนชี่ ขอจบทุกอย่าง เนื่องจากไม่ต้องเข้าไปอยู่ในเกมของ บอร์กโดซ์ ก่อนที่สุดท้าย บาร์เซโลน่า ประกาศเซ็นสัญญาคว้า มัลค่อม ด้วยค่าตัว 41 ล้านยูโร พร้อมสัญญา 5 ปี 5. ดีล มัลค่อม จบลง แต่ โรม่า อาจขอดำเนินทางกฎหมาย ถึงตอนนี้ โรม่า ไม่มีทางทำอะไรกับดีล มัลค่อม ได้อีกแล้ว นอกจากนั่งมองเห็นนักเตะสวมเสื้อ บาร์เซโลน่า เท่านั้น อย่างที่บอกว่าการกระทำของ บาร์ซ่า กับ มัลค่อม ไม่มีอะไรผิดกฎระเบียบ แต่มันผิดมารยาทอย่างมาก ทำให้ โรม่า พิจารณาถึงการยืนเรื่องฟ้องร้องทางกฎหมาย ทว่ามีเพียงหลักฐานการแชทกับเอเย่นต์ของนักเตะ และ ประธานสโมสร บอร์กโดซ์ เท่านั้น จากนั้น มอนชี่ ก็ทิ้งท้ายประโยคเด็ดว่า "พวกเราต้องการได้นักเตะที่เต็มใจย้ายมาอยู่เท่านั้น หากเป็นอื่นพวกเราก็ไม่ต้องการเช่นเดียวกัน พร้อมสัญญากับแฟนบอล "หมาป่าเหลือง-แดง" ว่า จะพยายามนำนักเตะที่เทียบเท่า หรือ แข็งแกร่งกว่า มัลค่อม มาร่วมทีมให้จงได้
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline