logo-heading

เอเอฟซี มีมติให้ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี ยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย ในปี 2020 บิ๊กอ๊อดขอบคุณที่ไว้ใจพร้อมจัดทัวร์นาเม้นท์ให้ยิ่งใหญ่ได้มาตรฐาน

หลังจากที่เอเอฟซี เลือกให้ไทยเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันศึกฟุตบอลเอเอฟซี ยู23 ชิงแชมป์เอเชีย ในปี 2020 ด้าน พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า “นี่คือวิสัยทัศน์ของสมาคมฯ ที่มีนโยบายต้องการให้ไทยได้เป็นเจ้าภาพรายการสำคัญ เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการจัดงานของเรา และเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศไทยให้รู้จักในระดับนานาชาติมากขึ้น” “ผมขอขอบคุณเอเอฟซี ที่เชื่อมั่นในศักยภาพของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และไว้วางใจให้จัดการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับทวีปเช่นนี้” ขณะที่ทางด้านของ พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมฯ ได้อธิบายว่า “เราภูมิใจมากที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพ อย่างน้อยการเตรียมแผนงาน และข้อมูลทุกๆ ด้าน ของฝ่ายจัดการแข่งขันสมาคมฯ กับฝ่ายต่างประเทศที่ร่วมมือกันเป็นทีมงานยื่นเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ และนำเสนองาน ก็ทำให้เอเอฟซีได้ทราบว่า เราเป็นแคนดิเดตที่จะสามารถเป็นเจ้าภาพรายการระดับทีมชาติที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของทวีป รองจากเอเชียนคัพ” “โดยในทุกๆ 4 ปี จะวนมาถึงช่วงที่เป็นการคัดเลือกไปโอลิมปิกส์ ซึ่งตรงนี้เป็นความสำคัญที่เพิ่มขึ้นมา และหลายๆชาติต้องการเป็นเจ้าภาพ เพราะข้อดีก็คือคุณได้เป็นทีมวางในสาย ดังนั้นโอกาสที่จะเข้าสู่รอบต่อๆไป ก็มีเพิ่มขึ้น” “ข้อดีอันดับสองคือการได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้าย (ของรายการชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี) โดยอัตโนมัติ แต่ถึงแม้ว่าจะได้สิทธิ์เข้าไปเล่นรอบสุดท้ายทันที แต่ทางสมาคมฯ และฝ่ายเทคนิคก็ได้ตอบรับเอเอฟซีในการเล่นรอบคัดเลือกด้วย ไม่ว่าจะจัดที่ไหน เพราะเราไม่สามารถรอไปถึง 1 ปี โดยไม่มีแมตช์สำคัญไม่ได้” “ขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนร่วม และเอเอฟซีที่ให้โอกาสตรงนี้ ก็เชื่อว่าการได้เล่นในบ้านจะเป็นผลดีกับทีมชาติไทยครับ” พาทิศ ศุภะพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline