logo-heading

การจับสลากประกบคู่ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้บทสรุปแล้วเรียบร้อยแล้ว ใครเจอกับใครบ้างทุกคนก็น่าจะได้ทราบกันแล้ว

นอกเหนือจากการลุ้นว่าใครจะเป็นฝ่ายได้ขึ้นบันไดสู่รอบต่อไปแล้วในแต่คู่มันก็มีประเด็นที่น่าสนใจแฝงอยู่ด้วยซึ่งนี่คือสิ่งที่ทาง 'ขอบสนาม' จะไปทุกท่านไปเสพสาระพร้อมๆ กัน

รวมนักเตะดังๆ ที่ได้เจอทีมเก่า-กลับบ้านเกิด

บอกเลยว่าการจับสลากประกบในรอบนี้มีนักเตะอยู่หลายคนที่ได้โอกาสได้เดินทางกลับไปยังบ้านเกิดของตัวเอง รวมถึงการได้เจอกับต้นสังกัดเก่าของตัวเองด้วยไม่ว่าจะเป็น เลรอย ซาเน่ แนวรุกของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ซึ่งเคยเป็นเด็กปั้นในอคาเดมี่ของ ชาลเก้ 04ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ, เซอร์ดาน ชากิรี่ ปีกหุ่นมะขามป้อมของ ลิเวอร์พูล ก็จะได้โอกาสดวลฝีเท้ากับ บาเยิร์น มิวนิค ที่ๆ พี่แกเคยใช้ชีวิตด้วยมาก่อนช่วงปี 2012-15 คลาส-แยน ฮุนเตลาร์ กองหน้าวัย 35 ปีของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ย้อนกลับไปราวๆ 10 ปีก่อนก็เคยเป็นหัวหอกของ เรอัล มาดริด เหมือนกันถึงแม้จะอยู่ไม่นานก็ตาม เช่นเดียวกับ อังเคล ดิ มาเรีย ปีกตัวจี๊ดของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมงก็จะได้โอกาสเล่นงานทีมเก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ๆ ทำให้ชีวิตเขาเคยตกต่ำมาก่อน ส่วนในรายของ จาดอน ซานโช่ ดาวรุ่งพุ่งแรงของ โบรุสเซีย ดอร์มมุนด์ อาจจะไม่ได้เจอทีมเก่า แมนฯ ซิตี้ แต่ก็ถือว่าได้กลับบ้านเกิดที่ อังกฤษ หลังมีคิวดวลกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

โรนัลโด้ เจอโจทย์เก่า

แอตเลติโก มาดริด ถูกจับสลากมาประชันแข้งกับ ยูเวนตุส ถือเป็นบิ๊กแมตช์ที่ไม่ควรพลาดเกมหนึ่งเลยทีเดียว และประเด็นสำคัญก็คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะได้กลับไปเยือนบ้านเก่าที่ สเปน อีกครั้งหลังเคยเป็นอดีตโคตรเพชนฆาตของ เรอัล มาดริด มาก่อน และก็เพิ่งขนข้าวของจากที่นั่นย้ายมา อิตาลี เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมานี้เอง นอกจากนี้พี่แกยังมีสถิติที่ดีอีกด้วยในการต่อสู้กับ แอตเลติโก มาดริด เพราะตอนอยู่กับ เรอัล มาดริด ช่วงปี 2009-18 โรนัลโด้ ได้โอกาสดวลแข้ง 'ตราหมี' 31 เกมในทุกรายการ และกระซวกตาข่ายไปถึง 22 ประตูด้วยกัน

เจอกันครั้งแรก

อีกหนึ่งเกมบิ๊กแมตช์ที่น่าติดตามนั่นก็คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ โชเซ่ มูรินโญ่ จะเจอกับโคตรทีมที่มีแนวรุกน่ากลัวที่สุดเบอร์ต้นๆ ของโลกอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และนี่คือการเจอกันครั้งแรกของทั้ง 2 ทีมด้วยในเวทียุโรป ต้องบอกเลยว่าสถานการณ์ตอนนี้น่าเป็นห่วงมากสำหรับ 'ปีศาจแดง' เพราะศักยภาพไม่ดูดีเลยสักอย่างไม่ว่าจะเป็นเกมรุกหรือเกมรับ ส่วน 'เปแอสเช' นี่เครื่องยังร้อนไม่มีผ่อนแถม 3 ทหารเสืออย่าง เอดินสัน คาวานี่, เนย์มาร์ และ คีเลียน เอ็มบัปเป้ กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มดุเลยทีเดียว

บาร์ซ่า ไม่เคยพลาดท่าให้ ลียง เลยสักครั้ง

โอลิมปิก ลียง ปีนี้ฟอร์มอาจจะขึ้นๆ ลงๆ เดาทางได้ค่อนข้างยาก แต่ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มที่ผ่านมาพวกเขาถือว่าสู้ได้ดีทีเดียว เพราะไม่แพ้ใครเลยตลอด 6 นัด แต่เป็นการเสมอถึง 5 นัด แต่รอบนี้ต้องมาดูว่าพวกเขาจะดิ้นได้อีกไหม เมื่อต้องเจอกับ บาร์เซโลน่า อีกหนึ่งทีมที่เกมรุกโหดจัดอันดับต้นๆ ของโลก แน่นอนว่าอาวุธที่อันตรายที่สุดก็คือ ลิโอเนล เมสซี่  แถมสถิติการเจอกันที่ผ่านมาในเกมยุโรป 6 นัด ลียง ก็ไม่เคยเอาชนะ บาร์ซ่า ได้เลยสักครั้ง และแพ้ไปถึง 4 นัด ยิ่งไปกว่านั้น เมสซี่ ยังมีชื่อบนสกอร์บอร์ดถึง 3 นัดจาก 4 เกมหลังสุดที่เจอกับทัพ 'โอแอล' ด้วย

ย้อนวันวาน ยูโรเปี้ยน คัพ ปี 1981

ลิเวอร์พูล กับ บาเยิร์น มิวนิค ไม่ได้เจอกันมานานมากแล้วถ้าพูดถึงเวทียุโรป (ไม่นับ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ปี 2001) ครั้งสุดท้ายที่เจอกันก็คือ ยูโรเปี้ยน คัพ (ชื่อเดิมของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก) เมื่อปี 1981 ซึ่งปีนั้นกว่าทั้งคู่จะได้พบกันก็ต้องรอถึงรอบรองชนะเลิศ โดยที่สังเวียน แอนฟิลด์ เสมอกันแบบเจ๊าจืด 0-0 อย่างไรก็ตามเกมนัด 2 ที่ โอลิมปิก สตาดิโอน ในมหานครมิวนิค ถึงแม้จะสกอร์จะจบที่ 1-1 แต่ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายได้ไปต่อในรอบชิงชนะเลิศด้วยกฏอเวย์โกล์ และก็ได้ชูถ้วยแชมป์สมใจด้วยจากการชนะ เรอัล มาดริด 1-0 โดยได้ประตูชัยจาก อลัน เคนเนดี้ ในนาที 82  
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline